ผจก.คิวรถตู้มรณะ สายกรุงเทพฯ-จันทบุรี ยัน เช็กสภาพโชเฟอร์ทุกรายก่อนขับ ไม่มีอาการง่วง และรถทุกคันมีใบอนุญาต ผ่านมาตรฐานขนส่ง ขณะที่พบว่ารถตู้โดยสารมีการทำประกันคุ้มครองทั้งภาคบังคับและสมัครใจไว้ด้วย...
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 2 ม.ค. 60 จากกรณีรถตู้ประสบอุบัติเหตุชนประสานงากับรถกระบะพื้นที่บ้านบึง จ.ชลบุรี จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก (ดับ 25 ศพ! รถตู้ประสานงาปิกอัพท่ีบ้านบึง ไฟลุกท่วมคลอกสยอง) หลังรับทราบว่าเป็นรถตู้โดยสารที่ออกจาก จ.จันทบุรี จนรู้ว่ารถตู้คันดังกล่าวสังกัดคิวรถตู้พลอยหยก หน้าห้างสรรพสินค้าโรบินสันจันทบุรี ต.จันทนิมิต อ.เมืองจันทบุรี จึงเข้าสอบถามกับ นายภัทรพงษ์ เสือนาค ผู้จัดการคิวรถตู้พลอยหยก เปิดเผยกับผู้สื่อไทยรัฐว่า รถตู้ทุกคันในคิวผ่านการตรวจตามมาตรฐานของกรมการขนส่งทางบก มีใบอนุญาตทุกคัน ซึ่งที่คิวมีรถตู้เข้าร่วมจำนวน 18 คัน รถทุกคันจะเป็นเจ้าของรถของตัวเองทั้งสิ้น และได้ทำการประกันภัยตาม พ.ร.บ. ครบถ้วน
...
นายภัทรพงษ์ เปิดเผยอีกว่า ส่วนเรื่องระบบการติดตั้งแก๊สในรถที่ระบุว่า 3 ใบนั้น เป็นการขออนุญาตจดทะเบียนตามขั้นตอนกับกรมการขนส่งทางบก ถูกต้องตามกฎหมาย และมีการเช็กระยะตามกำหนดทุกครั้ง ขณะที่สาเหตุคาดว่าจะมาจากการหลับในนั้น ทางคิวทำการตรวจเช็กสภาพร่างกายคนขับตลอดเวลา ตั้งแต่ก่อนออกจากคิวหรือถึงคิวไปปลายทาง หรือหากไม่ไหวจะให้พักผ่อนทันที พร้อมกับแจ้งผู้โดยสารในการเลื่อนเวลาออกไป ยืนยันว่าคนขับรถไม่มีการง่วงนอนอย่างแน่นอน ส่วนในช่วงเทศกาลทางคิวจะทำการปัสสาวะหาสารเสพติดทุกคนด้วย
ทั้งนี้ รถตู้คันที่เกิดเหตุมี นายสุมนต์ เอี่ยมสมบัติ เป็นคนขับ หมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง 15-1352 กทม. รถร่วม บขส.หมวด 2 สายที่ 9907 กรุงเทพฯ-จันทบุรี เมื่อเช้าได้ออกจากกรุงเทพฯ มาส่งผู้โดยสารที่ จ.จันทบุรี ตอน 05.00 น. ถึงคิวช่วงเวลา 10.00 น.เศษ และคนขับได้พักผ่อนเมื่อมาถึง ก่อนจะออกจากคิวที่ จ.จันทบุรี ไปยังกรุงเทพฯ อีกครั้งตอนเวลา 11.00 น. มีผู้โดยสารเดินทางมาด้วย 14 คน จนกระทั่งมาประสบอุบัติเหตุดังกล่าว
ในส่วนของการประกันภัยจาการตรวจสอบข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุ Thai Rsc พบว่า รถตู้โดยสารสายกรุงเทพฯ-จันทบุรี. สาย 9907-47 (ต) มีการทำประกันทั้งภาคบังคับและสมัครใจกับ บ.นิวอินเดียอินชัวร์รัน จำกัด โดยการคุ้มครองผู้โดยสารในรถตู้ พ.ร.บ.จ่าย 300,000 บาท ภาคสมัครใจ อีก 400,000 บาท รวม 700,000 บาท ส่วน กรณีบุคคลภายนอก พ.ร.บ.จ่าย 300,000 บาท ภาคสมัครใจ อีก 300,000 บาท รวม 600,000 บาท.