(ภาพจากตำรวจ)
ตร.เชียงใหม่ ระดมกำลังตามล่า ‘ประเสริฐ เลาลี’ หน.แก๊งยาที่ยิง ส.ต.ต.สภ.กัลยาณิวัฒนา ดับขณะล่อซื้อที่แยกบายพาส แม่แตง พบรอยเลือดจากแผลถูกยิง กลายเป็นเสือลำบากอยู่ในป่า ต้องประกาศเตือนชาวบ้าน เพราะคนร้ายมีปืนพร้อมสู้ตาย...
จากเหตุการณ์แก๊งยาบ้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ใช้อาวุธปืนยิง ส.ต.ต.ศิรยุทธ น้อยอรุณ อายุ 22 ปี ผบ.หมู่ งาน (ป) สภ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ ช่วยราชการชุด ฉก.ปส.ภ.จว.เชียงใหม่ ถูก นายประเสริฐ เลาลี อายุ 35 ปี หัวโจกยิงถึงแก่ความตาย ขณะเข้าไปล่อซื้อยา ขณะที่นายประเสริฐก็ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ แต่แหวกวงล้อมตำรวจหนีไปได้ เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่สี่แยกบายพาส เชียงใหม่-ปาย บ้านห้วยไร่หมู่ 9 ต.ขี้เหล็ก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
ความคืบหน้าเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางตำรวจได้ติดตามไล่ล่าตัวนายประเสริฐ เลาลี อายุ 35 ปี หัวโจกแก๊งค้ายาที่ฆ่าตำรวจ ซึ่งยังคงหลบหนีวนเวียนอยู่ในพื้นที่ป่า อ.แม่แตง เนื่องจากถูกยิงได้รับบาดเจ็บมีรอยเลือดให้เห็นตามเส้นทางหลบหนีในป่า ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างหวาดผวา เพราะนายประเสริฐมีอาวุธปืนติดตัวและพร้อมต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนผู้นำหมู่บ้านต้องประกาศให้ชาวบ้านที่พบเห็นไม่ให้ช่วยเหลืออย่างเด็ดขาด และให้แจ้งให้ทางการทราบ
ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ธ.ค. พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รรท.รอง ผบช.ภ.5 ได้เข้ามาควบคุมการดำเนินการไล่ล่าคนร้ายที่ยังหลบหนี ได้รับรายงานว่าชุดตำรวจสืบสวนภาค 5 พร้อมสืบสวน ภ.จว.เชียงใหม่ ได้จับกุมตัวนายไกรสร ใจคำแปง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 10 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ที่เป็นเพื่อนสนิทของนายประเสริฐ เลาลี โดยทางตำรวจทราบว่าคนที่ขับรถแหกด่านหลบหนีไปในคืนเกิดเหตุก็คือ นายไกรสร ซึ่งให้การรับสารภาพว่าเป็นคนขับรถในวันที่เกิดเหตุ จริง จึงควบคุมตัวไปเพื่อขยายผลถึงแหล่งหลบซ่อนตัวของนายประเสริฐ เลาลี รวมถึงบุคคลที่ชื่อในเอกสารการครอบครองรถ ไม่ว่าจะเป็นตัวนายชโนทัย เลาลี เจ้าของรถ และนางสุธาสินี แซ่หน่อ หรือชื่อเดิม อะซุผะ เลาลี อดีตภรรยานายประเสริฐ
...
พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รรท.รอง ผบช.ภ.5 เผยว่า คดีนี้หากหลักฐานไปถึงใครก็จะดำเนินการทันที สำหรับตัวนายประเสริฐนั้น ขณะนี้น่าเชื่อว่าคงหลบหนีออกจากพื้นที่ไปได้ เพราะในย่านบริเวณนั้นนายประเสริฐชำนาญเส้นทาง และน่าจะมีเครือญาติมาช่วยเหลือ แต่จากสภาพรอยเลือดเชื่อว่าน่าจะบาดเจ็บสาหัสแน่ ซึ่งตำรวจจะเร่งล่าตัวให้ได้ เพราะถือเป็นคดีที่สะเทือนขวัญ มีตำรวจถูกยิงตาย และที่สำคัญสร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ เนื่องจากยังจับกุมตัวไม่ได้
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้รับการเปิดเผยจากนายตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดว่า ในกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด หากเป็นกลุ่มพ่อค้ารายย่อยตั้งแต่ 1,000-10,000 เม็ด พวกนี้ส่วนมากจะลงทุนค้ายาบ้าเอง เมื่อถูกจับกุมกลัวว่าจะเสียยาบ้าและเงินลงทุนก็มักจะต่อสู้ตำรวจเพื่อจะชิงยาบ้าคืน แต่หากเป็นรายใหญ่ที่มีการลำเลียงตั้งแต่ 50,000 เม็ดขึ้นไป จะไม่มีการต่อสู้ตำรวจ แต่จะทิ้งยาบ้า หรือยอมให้จับ เพราะเป็นเพียงกลุ่มรับจ้างขนเท่านั้น ดังนั้นจะเห็นว่าการสูญเสียเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปราบปรามยาเสพติดจะเสียชีวิตจากรายย่อย จึงจะต้องมีการปรับกลยุทธ์การจับกุมให้รัดกุมรอบคอบกว่านี้ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดนำมาซึ่งความสูญเสียขึ้นอีก.