รองโฆษก ตร.แถลงชัด คดี "น็อต" พิธีกรชื่อดัง จนท.ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย แยกดำเนินคดี ระหว่าง ทำร้ายร่างกาย - อุบัติเหตุรถชน ส่วนกรณีเพื่อนชายน็อตในคลิป จะดำเนินคดีฐาน ยุยง - บงการ หรือไม่นั้น เป็นดุลพินิจพนักงานสอบสวน
เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 59 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย รองโฆษกประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี นายอัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล หรือ "น็อต" พิธีกร-นักแสดงชื่อดัง ทำร้ายร่างกาย นายกิตติศักดิ์ สิงโต หรือนายบอย พนักงานคัดกรองเอกสาร สำนักงานสรรพากรพื้นที่ตลิ่งชัน โดยรองโฆษก ตร. ได้ชี้แจงสื่อมวลชนกรณีเพิ่มเติมข้อกฎหมาย รวมถึงแนวทางการดำเนินคดีกับเพื่อนชายที่อยู่ในคลิป ว่าต้องแจ้งข้อกล่าวหาด้วยหรือไม่
พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ช่วง 2 ทุ่ม ทางพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ได้เรียกตัวนายน็อตมาสอบปากคำพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ตามความผิดที่ชัดเจนคือ "ข่มขืนใจบุคคลอื่น ให้กระทำการหรือไม่กระทำการสิ่งใด ซึ่งเป็นการสูญเสียอิสรภาพ" ตามมาตรา 309 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ส่วนกรณีทำร้ายร่างกายนั้น มีกฎหมายบังคับใช้อยู่แล้ว ต้องดูว่าการทำร้ายร่างกายเป็นอันตรายต่อร่างกายและจิตใจหรือไม่ ถ้าใช่ก็เข้าข่ายมาตรา 295 จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท แต่ถ้าถึงขั้นสาหัสพิการ นอนรักษาพยาบาลนานเกินกว่า 20 วัน อัตราโทษจำคุกจะสูงขึ้น 5 - 7 ปี
"กรณีนายน็อต เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายและจิตใจ แต่ขณะนี้ผู้เสียหายเข้าสู่กระบวนการผ่าตัด ก็ต้องรอดูด้วยว่าหมอจะลงความเห็นอย่างไร ตรงจุดนี้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ต้องรวบรวมหลักฐาน ลงความเห็นเพิ่มเติม ถ้าสาหัส หรืออย่างไรก็ต้องว่ากันไปตามตัวบทกฎหมาย" พล.ต.ต.ทรงพล กล่าว
...
พล.ต.ต.ทรงพล กล่าวต่อว่า ในส่วนของเพื่อนนายน็อตที่อยู่ในเหตุการณ์คลิปวีดิโอ จะต้องแจ้งข้อกล่าวหาด้วยหรือไม่ ทางพนักงานสอบสวนต้องพิจารณาว่า เข้าข่ายยุยงบงการรึเปล่า ซึ่งตนเองได้ทำการมอบหมายให้ทางพนักงานสอบสวนเรียกเพื่อนนายน็อตมาสอบปากคำแล้ว หากตรวจสอบภาพวงจรปิดหลายมุมแล้วพบว่ามีลักษณะพฤติกรรมเออออ ยุยง หรือส่อไปในทางใดทางหนึ่ง ทางพนักงานสอบสวนจะต้องพิจารณาดำเนินคดี
"เรื่องของการยึดใบขับขี่ หรือพักการใช้งานใบขับขี่ ก็เป็นอำนาจและดุลพินิจของทางพนักงานสอบสวน ต้องดูด้วยว่า ผู้ขับขี่เมาสุราเป็นประจำหรือไม่ หรือมีพฤติกรรมขับรถน่าหวาดเสียว เป็นอันตรายผู้อื่นหรือไม่ ถ้านายน็อตมีพฤติกรรมลักษณะแบบนี้ไปเรื่อยๆ มีอารมณ์เกรี้ยวกราดรุนแรงแบบนี้อีก พนักงานสอบสวนจะต้องพิจารณาถอนใบขับขี่ แต่กรณีนี้เป็นเรื่องที่รถของนายน็อตโดนชน ซึ่งคดีทำร้ายร่างกาย กับคดีอุบัติเหตุบนถนน ต้องแยกแยะกัน" พล.ต.ต.ทรงพล กล่าว.