จนท.ทางด่วน ด่านประชาชื่น แจ้งความเอาผิดชายที่มากับรถกระบะขับเข้าด่าน หลังรถที่นั่งมาเข้าช่องอีซี่พาสแต่ไม่มีบัตร แนะนำให้ถอยออกมา หาว่ากลับโวยวายใส่ ลงรถมากระชากแขนแล้วต่อยร่วง ก่อนขับรถหนี แจ้งความที่ สน.ประชาชื่นแล้ว...
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 6 พ.ย.2559 ที่ สน.ประชาชื่น นายอนิรุธ แสงมิตร อายุ 52 ปี ชาวบ้าน แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.นพดล หอมสมบัติ รอง สว.(สอบสวน) สน.ประชาชื่น หลังถูกชายไม่ทราบชื่อที่โดยสารมากับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เทา เลขทะเบียน 1 ฒผ5526 กทม.ทำร้ายร่างกาย ขณะปฎิบัติหน้าที่อยู่บริเวณด่านเก็บเงินทางด่วนประชาชื่นขาเข้า แขวงและเขตบางซื่อ กทม.(ทางพิเศษศรีรัช)
นายอนิรุธ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 08.00 น.ขณะที่กำลังโบกรถอยู่ที่ตู้เก็บเงินที่ 13 ได้มีรถกระบะมีผู้โดยสารรวมคนจำนวน 5คน ขับเข้ามาที่ตู้แต่ไม่สามารถผ่านได้เนื่องจากไม่มีบัตรอีซี่พาส ตนจึงได้บอกให้ถอยหลังไปเข้าตู้ที่ 16 ซึ่งเป็นตู้เก็บเงินสด เนื่องจากตู้ที่ 12-15 เป็นช่องอีซี่พาส แต่รถคันดังกล่าวกับถอยหลัง แล้วขับเข้าไปที่ตู้ 12 จึงไม่สามารถผ่านได้อีก จากนั้นผู้โดยสารที่นั่งมาที่ข้างคนขับก็โวยวายกับเจ้าหน้าที่ ที่กำลังพยามอธิบายกับคนในรถให้เข้าใจ ตนจึงเดินเข้าไปดู
จนท.ทางด่วนที่ถูกทำร้ายร่างกาย กล่าวต่อว่า จากนั้นคนที่นั่งข้างคนขับก็ลงจากรถ แล้วเดินตรงมาหาตน แล้วด่าทอด้วยคำหยาบ หาว่าตนเองพูดจาเสียงแข็งทำเสียงดังใส่ โดยเจ้าหน้าที่ในตู้เก็บเงินได้ตะโกนให้ตนระวังตัว เนื่องจากชายคนดังกล่าวทำท่าจับที่เอวคล้ายกับคนมีอาวุธ จากนั้นชายคนดังกล่าวกระชากแขนตน และชกเข้าที่ใบหน้าและดวงตาหลายครั้งจนตน ฟุบลงไปกับพื้น จากนั้นจึงกลับไปขึ้นรถแล้วขับออกไป หลังจากนั้นเพื่อนที่ทำงานด้วยกันจึงได้นำตนส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น แล้วจึงเดินทางเข้าแจ้งความที่ สน.ประชาชื่น เบื้องต้น ได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาข้างซ้าย
ด้าน ร.ต.อ.นพดล กล่าวว่าได้รับแจ้งความไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้แนะนำให้นายอนิรุธ ไปตรวนร่างกายที่โรงพยาบาล แล้วนำใบรับรองแพทย์มายื่นอีกครั้ง เพื่อใช้ในการประกอบสำนวนคดี และเพื่อยื่นยันการแจ้งข้อหาว่าเข้าค่ายผิดกฎหมายมาตราใดและได้ประสานเจ้าหน้าที่ฝ่าย สืบสวนให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุแล้ว ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุซึ่งมีหลายคน ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ทราบชื่อเจ้าของรถ กระบะคันดังกล่าวแล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้เนื่องจากต้องเชิญตัวมาสอบสวนก่อนว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุดังกล่าวที่เกิดขึ้นหรือไม่.
...