ชาวบ้านตะคุ อ.ปักธงชัย นครราชสีมา น้อมรำลึก ในหลวง ร. 9 เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีตัดหวายลูกนิมิตอุโบสถ วัดหน้าพระธาตุ เมื่อ 22 เม.ย.2521 ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ทรงรับสั่งให้ขุดสระ กักน้ำไว้ใช้หน้าแล้ง...

เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 59 ชาวบ้านตะคุ โดยการนำของ นายไฉน แปลงตะคุ อดีตรองนายก อบต.ตะคุ ร้อยตรีสนาม ภู่ทองคำ กำนันตำบลตะคุ ได้นำชาวบ้านร่วมทำความดีรำลึกถึงอดีต เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประกอบพิธีตัดหวายลูกนิมิตอุโบสถ วัดหน้าพระธาตุ (วัดตะคุ) ต.ตะคุ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2521 โดยการทำป้ายอิงค์เจ็ต ขนาดใหญ่ รวบรวมภาพประวัติศาตร์แห่งความทรงจำในอดีต เมื่อครั้งพระองค์เสด็จฯ ติดตั้งไว้ในบริเวณวัดหน้าพระธาตุเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชม

นายวิไล อักษรประจักษ์ อายุ 69 ปี อดีตครูใหญ่บ้านหนองตาด ม.12 ต.ตะคุ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ที่ ในหลวง รัชกาลที่ 9 เสด็จฯ วัดหน้าพระธาตุ ได้เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า เป็นเรื่องที่เหมือนฝัน ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมีพระเจ้าแผ่นดินเสด็จฯ มายังที่แห่งนี้

นายวิไล บอกว่า ยังจำเหตุการณ์ในวันนั้นได้ดี เพราะตนเองได้ออกมารอรับเสด็จฯตั้งแต่เช้า และเป็นวันที่แดดจ้า อากาศร้อนมาก จนกระทั่งถึงเวลาที่พระองค์ท่านเสด็จฯ มาถึงบริเวณวัด ปรากฏว่าเกิดเหตุการณ์มหัศจรรย์ขึ้นคือ แสงแดดได้หายไป เกิดร่มเงาขึ้นมาแทน คงเป็นเพราะบารมีของพระองค์ท่าน นายวิไล ได้เล่าต่ออีกว่า ก่อนที่พ่อหลวงจะเสด็จฯ มาถึง ถนนที่เคยเป็นดินโคลน เป็นหลุม เป็นบ่อ ทางการก็ได้เข้ามาปรับปรุงให้เป็นถนนลาดยาง ซึ่งเป็นถนนลาดยางสายแรกของ อ.ปักธงชัย รวมถึงการขยายเขตไฟฟ้าออกมาจนถึงบ้านตะคุ อีกด้วย และเมื่อพระองค์ทราบว่า เมื่อถึงหน้าแล้งชาวบ้านไม่มีน้ำใช้ ทรงรับสั่งให้ ม.ล.ชูชาติ กำภู อธิบดีกรมชลประทานในสมัยนั้น มาขุดสระขนาดใหญ่ไว้กลางหมู่บ้าน เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้งอีกด้วย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีให้กับประชาชน

...

ครั้นผู้สื่อข่าวได้ถามถึงความรู้สึก หลังจากทราบว่า พ่อหลวง รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคตแล้วรู้สึกอย่างไร นายวิไล กล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า ไม่อยากจะเชื่อเลย ไม่อยากให้เกิดกับพ่อหลวง ตนเองเสียใจมาก นั่งดูข่าวของพ่อหลวงเมื่อไรก็อดที่จะกั้นน้ำตาไว้ได้ รวมถึง นางพ่อน ประสิทธิ์ อายุ 55 ปี และนางศรีทา แก้วคะคุ อายุ 60 ปี ชาวบ้านคอนสาร ต.ตะคุ ที่ออกมาช่วยกันติดตั้งป้าย ก็กล่าวด้วยใบหน้าที่เศร้าหม่น น้ำตาคลอเบ้าว่า รู้สึกใจหาย และเสียใจที่สิ้นพ่อหลวงไป ซึ่งตลอดเวลาตนเองและครอบครัวได้ดำเนินชีวิตตามแนวทางของพ่อหลวงมาตลอด โดยการนำคำสอนตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวงมาใช้

ด้าน นายอเนก เสน่หา อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านคอนสาร ต.ตะคุ เล่าว่า ตอนนั้นตนเองเป็นเด็กและตัวเล็กมาก ได้มารอเฝ้ารับเสด็จฯ พ่อหลวง แต่อยู่ด้านหลังแถว และยังจำได้ดีว่าตนเองอยู่ตรงจุดไหน พร้อมทั้งชี้ภาพในป้ายอิงค์เจ็ตให้ผู้สื่อข่าวดูว่า ตนเองยืนอยู่ตรงนี้ เมื่อพ่อหลวงเสด็จฯ มาถึง ตนเองก็รีบแทรกเข้ามาจนได้มาอยู่ข้างหน้า และได้เห็นพระองค์ท่านใกล้ๆ รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก และรู้สึกเสียใจอย่างมากกับการเสด็จสวรรคตของพ่อหลวง รัชกาลที่ 9 ตนเองและชาวบ้านจะนำคำสอนของพระองค์ท่านมาใช้ในการดำเนินชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง

นายอเนก กล่าวต่อว่า จากที่ผ่านมา ตนเองได้ดูข่าวจากทางหน้าหนังสือพิมพ์บ้าง ทางโทรทัศน์บ้าง จะเห็นว่าที่ใดที่พ่อหลวงเสด็จฯ ไป ที่แห่งนั้นก็เจริญรุ่งเรือง ชาวบ้านอยู่เย็นเป็นสุขทุกที่ รวมถึงชาวบ้านตะคุ ก็เช่นกัน เพราะบารมีของพระองค์ท่านที่คอยปกป้องคุ้มครองชาวไทยทุกคน

สำหรับ วัดหน้าพระธาตุ ได้จัดพิธีสวดพระอภิธรรมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นเวลา 9 คืน ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 18-26 ต.ค. 59 และมีพิธีตักบาตรเช้าทุกวันในวัด ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่านด้วย