นายกฯ เผยมี ขรก.เกษียณแช่งให้ดาบคืนสนอง มึนตัวเองทำผิดอะไร ลั่นเป็นทหารมา 40 ปี ไม่เคยคิดฆ่าใคร บ่น "ประเทศไทย 4.0" พูดจนปากฉีก ยังไม่เชื่อมั่น ยันไม่โง่ขอดูผลงาน อย่าใช้ความรู้สึก บอกภาพผู้หญิงนุ่งกระโจมอกอาบน้ำบนถนนดังไกลถึงยูเอ็น ลั่นอย่าให้เกิดขึ้นอีก สั่ง อปท.ปรับตัว ชี้ ปัญหารถติด-สร้างอุโมงค์ ช้า รบ.ปัดความรับผิดชอบไม่ได้

เมื่อวันที่ 30 ก.ย.59 ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานมอบนโยบายในการสัมมนาเสริมสร้างความรู้และธรรมาภิบาลของกรรมการรัฐวิสาหกิจ โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ขอให้เชื่อมั่นว่าตนไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์พวกพ้อง แต่ทำเพื่อประเทศและเชื่อว่าทุกคนจะรักประเทศเหมือนกับตน โดยจะพยายามทำตามระยะเวลาที่มีอยู่ เพราะทุกวันนี้หากรัฐบาลทำไม่ดีด่าใครไม่ได้ ก็ด่านายกรัฐมนตรีไว้ก่อน แต่ตนรับได้เพราะยิ่งด่ายิ่งมีกำลังใจ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการปฏิรูปนั้น จะต้องเริ่มที่ตัวเอง จะต้องปฏิรูปประเทศก่อน เพื่อขยับขยายองค์กรให้ดีขึ้น ให้เกิดสังคมที่มีคุณภาพมีคุณธรรมจริยธรรม ธรรมาภิบาล โดยจะต้องเสียสละอดทน นึกถึงคนอื่นมากกว่าตัวเอง เพราะหน้าที่ของรัฐคือการให้บริการประชาชน ทั้งนี้ตนขอเวลาอีกหนึ่งปีตามโรดแม็ป ทำยังไงก็ได้ให้ประชาชนที่แบ่งเป็นเหรียญสองด้านทั้งเห็นด้วยไม่เห็นด้วย และตรงกลางจำนวน 30-40% คนเหล่านี้จะคล้อยตามใคร จึงต้องทำให้มีความไว้เนื้อเชื่อใจและโปร่งใส เพราะสังคมกำลังจับตามองอยู่ ดังนั้นจึงต้องสร้างให้สังคมเชื่อมั่นให้ได้ พร้อมยกตัวอย่างว่า เปิดเว็บไซต์หนึ่งพบคนถูกสอบสวนตามกระบวนการของกฎหมาย และเกษียณอายุราชการไปแล้ว บอกขอบคุณนายกรัฐมนตรี แต่ให้จำไว้ว่าดาบนั้นคืนสนอง ซึ่งตนไม่เข้าใจว่าผิดตรงไหน ทั้งที่ตัวเองมีความผิดและกฎหมายดำเนินการไปแล้ว แต่กลับบอกว่าตนไปทำร้าย ยืนยันว่าตนยังไม่เคยทำร้ายใคร เป็นทหารมา 40 ปี ไม่เคยคิดอยากจะฆ่าใครเลยสักคน จึงอยากเตือนให้ทุกคนทำงานเชิงรุก ป้องกันก่อนเริ่มทำงานเพื่อไม่ให้ถูกฟ้องร้อง เพราะกฎหมายคือกฎหมาย ตนมีหน้าที่นำเข้าสู่กระบวนการ และไม่เคยตั้งข้อหาใหม่ ทำตามที่มีการเสนอมา รวมทั้งมาตรา 44 ด้วย ถ้ามีเสนอขึ้นมาแล้ว ก็ต้องอนุมัติเนื่องจากมีหลักฐาน ถ้าไม่มีหลักฐานคนเสนอมาก็ต้องถูกเล่นงาน ซึ่งทุกคนต้องร่วมรับผิดชอบไม่ใช่นายกรัฐมนตรีคนเดียว

...

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้โชคดีที่ฝ่ายเศรษฐกิจทำให้เกิดความคืบหน้าตามลำดับแม้จะไม่ดีมาก ซึ่งตนไม่หวังคำชื่นชม เพราะต่างประเทศก็ยาก ที่จะดำเนินการติดขัดไปหมด ดังนั้นที่เข้ามาวันนี้เพื่อไม่ให้ติดขัด โดยใช้กฎหมายเดิมไม่ใช่ยกเลิกทั้งหมด และจะต้องทำให้โปร่งใสมากขึ้น รัฐบาลวันนี้ทำงานเพื่อคน 70 ล้าน ไม่ได้ทำงานเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง อย่าให้ใครมาอ้าง ถ้ามีให้มาบอกตน เพราะตนไม่เคยพูดถึงผลประโยชน์กับใคร นอกจากเศรษฐกิจแล้วบ้านเมืองต้องสงบ ซึ่งตนไปบังคับใครไม่ได้ จะบังคับให้ทุกคนมีความสุขหรือไม่มีไม่ได้ ทุกอย่างอยู่ที่ใจ 2 ปีที่ผ่านมารัฐบาลยังแก้ปัญหาได้แค่นี้ แต่หากปล่อยไว้นานๆ เป็น 10-20 ปี ก็จะล้มทั้งประเทศ แต่หลายคนมองว่ารัฐบาลใจร้าย ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ใจร้าย แต่ต้องรู้จักใช้งบประมาณให้คุ้มค่าที่สุด

"เราต้องการสร้างประเทศไทย 4.0 ผมพูดจนปากจะฉีก บางคนก็ยังไม่เชื่อมั่นว่าผมรู้เรื่องจริงหรือเปล่า ผมก็ปรึกษาผู้รู้ทั้งหมดไม่ได้โง่ขนาดนั้น แล้วถามว่าดีกว่าเดิมหรือไม่ ในการที่เป็นทหารแล้วมายืนตรงนี้ ไม่ต้องเอาไปเทียบกันไปมา แต่ดูว่าผลงานออกมายังไงดีกว่าอย่าใช้ความรู้สึก และอยากบอกว่ารัฐบาลนี้เป็นผู้แสดงให้โลกเห็นคุณค่าของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมากที่สุด ที่ผ่านมาไม่เคยมี ไปแล้วไม่พูดถึงเรื่องนี้ด้วยซ้ำ กลัวไปแข่งขันกับนโยบายการเมืองหรืออย่างไร ผมไม่รู้ แต่ผมไม่กลัว คนเราไม่นึกถึงอดีตก็ไม่ต้องมองอนาคต" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้กลไกการตรวจสอบถ่วงอำนาจไม่ใช่การตรวจสอบเพื่อจับผิด แต่พบว่ามีปัญหาก็ต้องเตือนและตนไม่ได้มีอำนาจชี้ถูกหรือผิด หากผิดองค์กรอิสระก็ต้องตรวจสอบต่อ จึงขอให้ทุกคนระมัดระวังและไว้วางใจ วันนี้หนักใจเพราะต้องดูแลข้าราชการด้วย แต่บางคนที่ไม่ได้ตั้งใจก็ต้องเข้าไปอยู่ในกระบวนการตรวจสอบด้วย เราจึงต้องเข้าใจลูกน้องหรือน้องๆ ในวันหน้า ทั้งนี้สิ่งที่ตนพูดอยู่ทุกวันนี้ยืนยันว่า ไม่มีมั่ว เพราะหากมั่ววันหน้าดาบนั้น ก็จะคืนสนองตนอีก

ทั้งนี้ ในช่วงหนึ่งของการบรรยาย พล.อ.ประยุทธ์ มีอาการคัดจมูก จึงกล่าวว่า ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไร แพ้อากาศ อาจจะแพ้ตัวเองแก้ไม่หาย แต่ก่อนไม่เป็น มาเป็นตั้งแต่เข้ามาเป็นนายกฯ อากาศก็ไม่เป็นใจ และตั้งแต่กลับมาจากต่างประเทศเวียนหัวไปหมด คิดอะไรไม่ออก พูดไม่เพราะ ไม่ต่อเนื่อง แต่ยืนยันว่าไม่ได้บ้า ไม่ได้ป่วย วันนี้อยากเอาหัวใจมาให้ดูว่า ทำเพื่อประเทศชาติและลูกหลานของท่าน

"ที่ผมกล้าพูดกล้าแสดงออกได้แบบนี้ ใช้เวลานานพอสมควรในการทำความเข้าใจ วันนี้ปัญหาเรายังมีอีกเยอะ จึงต้องลดความขัดแย้ง เพื่อวางอนาคตวันหน้า เหมือนวางเป้าหมายชีวิต อดีตจบไปแล้ว เราต้องอยู่ด้วยเกียรติยศศักดิ์ศรี ดีกว่ามีเงินมากๆ แล้วให้คนโกรธด่าทุกวัน และยืนยันไม่เอาทหารไปไล่ล่าใครแค่ไปช่วยเหลือ ใครไม่ช่วยก็บอกผม" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการเผยแพร่ภาพผู้หญิงใส่ชุดกระโจมอกอาบน้ำ ในหลุมบนถนนผ่านทางโซเชียลมีเดีย ว่า ภาพนี้เผยแพร่ไปยังสหประชาชาติแล้ว ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องดูแลให้ดีกว่านี้ ซึ่งถนนดังกล่าวเป็นหน้าที่ของท้องถิ่นที่จะต้องดูแล โดยนำงบประมาณจากภาษีประชาชนมาใช้ แต่ตนก็สงสารเพราะคนเหล่านี้เจอปัญหามาตั้งแต่สาวยันแก่ ซึ่งต่อไปคงจะต้องใส่ชุดว่ายน้ำเพราะน้ำจะลึกขึ้น โดยเรื่องแบบนี้ต้องไม่เกิดขึ้นอีก ซึ่งองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องพัฒนาตัวเอง เพราะอยู่ใกล้ประชาชนมากที่สุด และวันนี้ขออย่าเรียกร้องอะไรมากในสถานการณ์ที่ยังไม่เอื้ออำนวย แต่ยืนยันว่าเรามีอนาคตแน่นอน ขอให้ทุกคนอดทน

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงปัญหารถติดที่มีมากว่า 10-20 ปี ว่า จะให้ คสช.เอามาตรา 44 มาสั่งน้ำไม่ให้ฝนตกไม่ได้ เพราะสิ่งเหล่านี้จะต้องวางแผน เหมือนวันก่อนเปิดใช้อุโมงค์มไหสวรรย์ ที่สร้างมาหลายปี สังคมก็ประชดประชันรัฐบาลตลอด แม้รัฐบาลไม่ได้เป็นคนคิดแต่ก็ไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ ผิดถูกก็ต้องรับไม่ว่ารัฐบาลไหน ไม่งั้นจะมีความผิดฐานละเลยตามมาตรา 157 ซึ่งเรื่องเหล่านี้จะมีผลกระทบในวันหน้า ขออย่าให้ความสำคัญเฉพาะเรื่องคดีแพ่งและอาญา เพราะจะตกม้าตายด้วยกฎหมายเหล่านี้ ทุกคนจึงต้องร่วมมือสร้างระบบเศรษฐกิจใหม่ โดยเฉพาะฐานราก เพราะหากสร้างรถไฟความเร็วสูง แต่ประชาชนไม่สามารถขึ้นได้ จะให้พ่วงตู้รถไฟชั้น 3 คงไม่ได้ ส่วนรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่คนบอกว่าไม่ค่อยมีผู้โดยสารนั้น ตนจะไปรู้ได้อย่างไร หลังจากนี้จะต้องทำทุกเรื่องให้เดินหน้าอย่างปลอดภัย