กะเทยวัย 15 ปี บ้านแตก พ่อมีเมียใหม่ ออกมาเผชิญชีวิตในเมืองอุดรฯ ขายตัวให้ชายท่ีชอบไม้ป่าเดียวกัน ติดยาบ้า สุดท้ายเปิดเพจ "สาวรับงาน" ให้เพื่อนผู้หญิงวัยเดียวกัน 3 คน ขายตัวครั้งละพันสอง ตัวเองหักไว้ 200 ตร.จับได้สอบสวนแล้วสลดใจ
วันที่ 20 ก.ย. ที่ห้องปฏิบัติการปราบปรามอบายมุขและค้ามนุษย์ กก.สส.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.ท.รุ่งศักดิ์ มหาปัญญาวงศ์ รอง ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.ท.สุชัย นันแก้ว สว.สส.ภ.จ.อุดรธานี และตำรวจสืบสวน ร่วมกันจับกุม นายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี กะเทย บ้านอยู่ ต.โคกก่อง อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหา “เพื่อตอบสนองความใคร่ผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไป ซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามค้าประเวณี ปี 2539 และการค้ามนุษย์ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ปี 2551” ของกลาง เงินล่อซื้อ จำนวน 1,200 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากตำรวจชุดจับกุมสืบทราบว่า นายเอ กะเทยจิ๋ว อายุเพียง 15 ปี มีพฤติการณ์ เปิดเพจเฟซบุ๊กในชื่อ สาวรับงาน ส่อไปทางการค้าประเวณีและค้ามนุษย์ ซึ่งในเพจมีรูปภาพหญิงสาววัยกระเตาะ อายุระหว่าง 15-18 ปี จำนวน 3 คน เข้าร่วมรับงานขายตัวในราคาที่แตกต่างกันไป ตำรวจจึงวางแผนล่อซื้อหญิงสาวในสังกัดเพื่อขอร่วมประเวณี จากนายเอ ในราคาค่าตัว 1,200 บาท
เมื่อถึงเวลานัด ตำรวจได้นำธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท 1 ฉบับ ธนบัตรฉบับละ 100 บาท 2 ฉบับ ถ่ายเอกสารเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะนัดหมายยื่นหมูยื่นแมวกันที่ห้องพักรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี และสามารถจับกุมตัวได้สำเร็จ ขณะนายเอ พาสายลับเข้าไปในห้องพัก พบเหยื่อที่ถูกชักชวนมาค้าประเวณี เป็นเด็กสาวอายุเพียง 16 ปี นั่งอยู่บนเตียงนอน เพื่อรอรับงานขายตัวอยู่ภายในห้องพักดังกล่าว ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุมควบคุมตัวมาสอบสวน
...
พ.ต.ท.สุชัย นันแก้ว สว.สส.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นายเอ ให้การว่า ไม่ได้เรียนหนังสือ หนีออกจากบ้านมาราว 2 ปี หลังจากทางครอบครัวมีปัญหา แม่เสียชีวิต พ่อไปมีภรรยาใหม่ จึงมาอาศัยพักกับเพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นกะเทยด้วยกันตามหอพักในตัวเมืองอุดรธานี พร้อมขายตัวให้ผู้ชายและนักท่องราตรีที่ชอบไม้ป่าเดียวกัน ในราคาค่าตัวครั้งละ 800 บาท ทำมาได้สักพักจึงแยกตัวออกมาเช่าหอพักและเปิดเพจเฟซบุ๊ก “สาวรับงาน” มีหญิงสาวอยู่ในสังกัด 3 คน ที่สนใจให้ตนหางานขายตัวให้ ซึ่งตนไม่ได้บังคับขู่เข็ญ แต่จะหักค่าติดต่อครั้งละ 200 บาทเท่านั้น และไม่ทราบว่ามันผิดกฎหมายร้ายแรง โดยเปิดเพจได้ราว 1 ปี เงินที่ได้มาจะใช้จ่ายชีวิตประจำวันและซื้อยาบ้าเสพด้วย ก่อนถูกตำรวจล่อซื้อจับกุมตัวได้ในที่สุด
พ.ต.ท.สุชัยนี กล่าวต่อว่า จากการสอบสวน น.ส.บี (นามสมมติ) เหยื่อที่ถูกล่อลวง หรือชักชวนมาค้าประเวณี และเข้าข่ายค้ามนุษย์ในครั้งนี้ ทราบว่าไม่ได้เรียนหนังสือ หลังจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และหนีออกจากบ้านมาอาศัยอยู่กับเพื่อนรุ่นพี่ตามหอพักในตัวเมืองอุดรธานี เมื่อประมาณ 1 ปีเศษ ก่อนมารู้จักกับ นายเอ ผ่านทางเฟซบุ๊ก ชักชวนให้ตนขายตัวในราคา 1,200 บาท ทำมาได้ 1 ปี โดย 1 เดือนจะรับงานประมาณ 7-10 ครั้ง ทั้งนี้ จะได้ค่าเหนื่อยครั้งละ 1,000 บาท ส่วนเงินที่เหลือ นายเอ จะหักก่อนร่วมหลับนอนกับลูกค้าที่มีหลากหลายสาขาอาชีพ เช่น ผู้รับเหมาก่อสร้าง ข้าราชการ และนักการเมืองท้องถิ่น อายุระหว่าง 30-50 ปี ที่ตัดสินใจทำเพราะต้องหาเงินใช้ในชีวิตประจำวัน และติดเสพยาบ้าด้วย หลังจากหนีออกจากบ้านมา เนื่องจากครอบครัวทางบ้านมีปัญหาหย่าร้าง ซึ่งตนสมัครใจขายตัวและไม่มีใครมาบังคับ และไม่ทราบว่าที่ทำไปมันผิดกฎหมายเช่นกัน
สว.สส.ภ.จ.อุดรธานี ยังเผยต่อว่า อยากฝากผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานของท่านให้ดี เนื่องจากสังคมโซเชียลมีทั้งด้านบวกและด้านลบ ทุกฝ่ายหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องร่วมด้วยช่วยกัน สังคมจึงจะน่าอยู่ ที่สำคัญต้องหยุดซื้อ หรือหยุดให้การสนับสนุน หยุดให้ที่พักพิง เช่นเจ้าของหอพัก อพาร์ตเมนต์ หรือโรงแรมต่างๆ
"อย่าปล่อยให้เด็กที่อายุไม่ถึง 20 ปี เข้าพักตามลำพัง โดยไม่มีผู้ปกครองรับรู้ หรือมาด้วย มิฉะนั้นท่านจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา ยุยงส่งเสริมในการกระทำผิดแก่เด็กและเยาวชน สำหรับเหยื่อคือ น.ส.บี ทางตำรวจจะกันไว้เป็นพยาน และส่งตัวไปบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุดรธานี รอการติดต่อผู้ปกครองมาร่วมรับทราบในการสอบถาม เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนนายเอก็เช่นกัน หลังถูกสอบสวนในฐานะเด็กที่หลงกระทำผิด เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายที่ใช้กับเด็กและเยาวชน".