กรมเจ้าท่าและหน่วยกู้ภัยสามารถกู้เรือล่มได้แล้วและนำไปจอดซ่อมที่หมู่บ้านโปรตุเกส พร้อมเร่งติดไฟส่องสว่างเพื่อค้นหาผู้สูญหายอีก 2 ราย ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตรวม 28 ศพ เร่งหาผู้สูญหายอีก1 ราย ตร.ดำเนินคดีผู้คุมเรือรวม 4 ข้อหา...

จากเหตุการณ์เรือโดยสารของบริษัทมงคลชัย (ทับทิม) จำกัด เกิดอุบัติเหตุชนเสาเข็มพนังกั้นน้ำ หน้าวัดสนามไชย หมู่ 10 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จนเรือแตกล่มลงในแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้โดยสารเป็นชาวไทยมุสลิมกว่า 150 ชีวิต ที่โดยสารกลับจากร่วมพิธีรำลึกถึงครูผู้ล่วงลับของศาสนาอิสลาม หรือ “งานโฮ้ล” ต.คลองตะเคียน อ.พระนครศรีอยุธยา


ล่าสุด เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 20 ก.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยกู้ภัยกำลังช่วยกันนำผักตบชวาออกจากบริเวณที่เกิดเหตุ และกรมเจ้าท่าได้นำเรือและอุปกรณ์กู้เรือ เพื่อรอดำเนินการ ที่บริเวณท่าน้ำวัดสนามไชย ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะที่การค้นหาร่างผู้สูญหายอีก 3 รายนั้น ได้พบอีก 1 ร่างแล้ว โดยพบศพเด็กชายรายที่ 27 คงเหลือสูญหาย 2 คน ทั้งนี้ รวมยอดผู้เสียชีวิต 27 ราย (ชาย 7 หญิง 20) ยังมีผู้สูญหาย 2 ราย (ชาย 1 หญิง 1) ส่วนที่นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลอยุธยามีอีก 9 ราย (ชาย 4 หญิง 5)

...

พบรอยแตกขนาดใหญ่ใต้ท้องเรือ

เมื่อเวลา 11.00 น. นายณัฐ จับใจ อธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านโครงสร้างพื้นฐานทางเรือ กล่าวว่า วันนี้ได้สั่งการให้นักประดาน้ำ ดำลงไปดูความเสียหายด้านล่าง เพื่อประเมินสถานการณ์ในการกู้เรือ พบว่ามีความเสียหายที่ใต้ท้องเรือ มีรอยแตก ขนาดความกว้าง 1 เมตร ยาว 7 เมตร ซึ่งมีขนาดใหญ่ จึงไม่สามารถซ่อมแซมได้ จึงต้องวางแผนในการดำเนินการกู้เรือใหม่ โดยต้องใช้เรือเครนขนาดใหญ่ ยกตัวเรือให้ลอยขึ้นแล้วลากเรือไปยังบริเวณ หน้าหมู่บ้านโปรตุเกส เนื่องจากบริเวณดังกล่าว มีพื้นที่กว้าง และน้ำนิ่ง เหมาะสำหรับการซ่อมแซมเรือ โดยการใช้แผ่นยาง หรือแผ่นเหล็ก อุดรอยรั่ว จากนั้น ทำการสูบน้ำออก และลากนำไปเก็บที่คานเรือศรีเจริญ ติดกับวัดพนัญเชิงวรวิหาร


ทั้งนี้เมื่อเรือเครนทั้ง 2 ลำ เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุการปฏิบัติการลงมือกู้ซากเรือจึงเริ่มต้นขึ้น โดยทางทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยกันเคลียร์ผักตบชวาและวัชพืชที่กระแสน้ำพัดพามาทับถมบริเวณเรือเป็นจำนวนมาก หลังจากทางเจ้าหน้าที่เคลียร์เรียบร้อย ทางทีมกู้เรือของกรมเจ้าท่าได้เริ่มลงมือกู้เรือตามแผนที่วางไว้ ท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว เป็นอุปสรรคกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก โดยมีประชาชนจำนวนมากที่ให้ความสนใจในการกู้ซากเรือปักหลักยืนดูกันเนืองแน่น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องคอยกันให้ออกจากตลอดแนวริมท่าน้ำหน้าวัด

...

เมื่อเวลา 13.00 น. พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า สำหรับการดำเนินคดีกับผู้ควบคุมเรือพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ควบคุมเรือ 4 ข้อหา ได้แก่ 1.กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2.กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ 3.ควบคุมเรือขณะที่ใบอนุญาตหมดอายุ 4.ควบคุมเรือโดยบรรทุกผู้โดยสารเกินกว่ากำหนด ทั้งนี้ผู้ต้องหาได้รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และพนักงานสอบสวนได้ทำการฝากขังผัดแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 19 ก.ย.59

ต่อมาเวลา 14.20 น. เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าเคลื่อนเรือบรรทุกเครนจำนวน 2 ลำมาจอดทางด้านท้าย 1 ลำและด้านหัวเรือที่ล่ม 1 ลำ ท่ามกลางสายฝนตกลงมาอย่างหนัก โดยมีประชาชนและญาติๆ ผู้สูญหายมายืนรอเฝ้าดู เจ้าหน้าที่นักประดาน้ำได้นำสายพานมัดตรึงด้านท้ายและด้านหัวเรือที่ล่ม จากนั้นเครนทั้งสองข้างได้ค่อยๆ ยกเรือขึ้นมาครึ่งลำและค้างไว้เพื่อให้นักประดาน้ำดำน้ำตรวจสอบค้นหาผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม แต่ก็ยังไม่พบ ทั้งนี้ตรวจสอบเรือพบความเสียหายที่ใต้ท้องเรือมีรอยแตก ขนาดความกว้าง 1 เมตร ยาว 7 เมตร เป็นรอยขนาดใหญ่ และได้หยุดค้างไว้เพื่อประเมินการกู้ต่อไป เพราะกระแสน้ำแรงและฝนยังตกต่อเนื่อง

...


ต่อมาเวลา 14.30 น.เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าได้กู้เรือสำเร็จแล้วได้ลากเรือออกจากบริเวณท่าน้ำวัดสนามไชยอย่างปลอดภัยมุ่งหน้าไปจอดซ่อมที่บริเวณหน้าหมู่บ้านโปรตุเกส ตามแม่น้ำเจ้าพระยา ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กม. ส่วนเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้จัดเตรียมอุปกรณ์แสงสว่างและนักประดาน้ำลงสำรวจค้นหาผู้สูญหายในที่เกิดเหตุ และในตัวเรืออย่างละเอียดอีกครั้งคาดว่าคืนนี้น่าจะพบผู้สูญหายอีก 2 ราย ได้แก่นางทองใบ ขันธรักษ์ อายุ 89 ปี และ ด.ช.อภินัน แสงขำ อายุ 2 ปี 

...

จากการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าตรวจสอบภายในเรือทั้งในบริเวณห้องน้ำและห้องโดยสารชั้นล่างและห้องคนขับเรือ เบื้องต้นยังไม่พบผู้ที่ติดค้างแต่อย่างใด มีเพียงสัมภาระของผู้โดยสารที่นั่งมากับเรือในวันเกิดเหตุ นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังพบเสื้อชูชีพสภาพใหม่ยังไม่ผ่านการใช้งาน มีพลาสติกหุ้มมัดรวมกัน จำนวน 20 ตัว อยู่ภายในห้องคนขับ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการกู้เรือในครั้งนี้อยู่ที่ 300,000 บาท โดยทางกรมเจ้าท่าจะสำรองจ่ายให้ก่อน จากนั้นจะเรียกเก็บกับทางเจ้าของเรือต่อไป

เมื่อเวลา 17.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากกรณีดังกล่าวรวมทั้งสิ้น 28 รายเป็นชาย 7 ราย หญิง 21 ราย มีผู้สูญหาย 1 รายคือ ด.ช. อภินันท์ แสงขำ อายุ 2 ขวบ ขณะที่มีผู้บาดเจ็บรักษาตัวที่โรงพยาบาลอยุธยา จำนวน 7 ราย เป็นชาย 1 ราย และหญิง 6 ราย

ต่อมาเวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ยุติการค้นหาผู้สูญหายแล้ว.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง