ป่าไม้ ทหาร และฝ่ายปกครอง จ.เชียงราย เข้าตรวจสอบรีสอร์ตบุกรุกป่าภูชี้ฟ้า 2 อำเภอ ชาวบ้านยอมเปิดทางให้ตรวจโดยดี เจ้าหน้าที่ยืนยันยังไม่มีการจับกุม เพียงแค่ตรวจสอบพื้นที่เพื่อความถูกต้องเท่านั้น
เมื่อวันที่ 12 ก.ย.59 นายทนงศักดิ์ ธรรมโม ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 เชียงราย นำกำลังป่าไม้ ทหาร มทบ.37 ตชด.326 ทหารพราน 3102 และ ทพ.3104 สภ.เทิง ฝ่ายปกครอง 100 นาย เข้าตรวจสอบรีสอร์ตบนภูชี้ฟ้า ต.ตับเต่า อ.เทิง จำนวน 41 ราย แบ่งเจ้าหน้าที่ออกเป็น 4 ชุด และ ต.ปอ อ.เวียงแก่น จำนวน 24 ราย แบ่งทำหน้าที่ออกเป็น 2 ชุด ท่ามกลางสภาพอากาศฝนตกตลอดตั้งแต่เช้า การทำงานเป็นไปอย่างยากลำบาก
ทั้งนี้การเข้าตรวจสอบดังกล่าวถือเป็นครั้งที่ 3 ภายหลังจากเมื่อวันที่ 17-18 ส.ค. เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบได้บางแปลงก็ถูกชาวม้งในหมู่บ้านออกมาต่อต้าน กระทั่งหยุด ชะงักไป และมีการประชุมเจรจา ล่าสุด คสช.ได้มีคำสั่งให้ป่าไม้และทหารตำรวจฝ่ายปกครองเข้าทำการสำรวจให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 12-15 ก.ย. ทำให้กำนัน ต.ตับเต่าซึ่งเป็นนายกสมาคมม้งแห่งประเทศไทยได้ออกประกาศว่าชาวบ้านยินดีเปิดทางให้มีการตรวจสอบ หากมีรีสอร์ตใดกระทำผิดบุกรุกป่า ก็ยอมรับผิด
...
สำหรับบรรยากาศวันนี้ (12 ก.ย.) เป็นไปด้วยดี ชาวบ้านส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือด้วยดี มีเพียงบางคนไม่เข้าใจได้เข้ามาโต้แย้งแผนที่ของกรมป่าไม้ไม่ตรงกับความเป็นจริง รีสอร์ตที่อยู่อาศัยบางแห่งเป็นที่ทำกิน แต่แผนที่ของป่าไม้กลายเป็นป่าไม้ นายชูสวัสดิ์ สวัสดี ปลัดอำเภอเทิง จึงให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ชี้แจงกับเจ้าของรีสอร์ตว่าเป็นเพียงการตรวจสอบพื้นที่เท่านั้น เพื่อตรวจความถูกต้องของข้อมูล ส่วนพื้นที่การเกษตรที่ชาวบ้านไม่ต้องตกใจ เพราะนโยบาย คสช.ได้เปิดช่องให้ผู้ยากจน ไม่มีที่ดินทำกินอยู่แล้ว ถึงแม้ไม่มีข้อมูลในแผนที่ก็จะได้รับการผ่อนผันอยู่แล้ว และต้องการเพียงตรวจวัดพื้นที่รีสอร์ต เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปเสนอทางกรมป่าไม้ก่อน
นายทนงศักดิ์ กล่าวว่า ขอเน้นย้ำว่ายังไม่มีการดำเนินคดีใดๆ ทั้งสิ้น การตรวจสอบได้ใช้จีพีเอสทำการวัดตรวจสอบกับแผนที่ปี 2535 และปี 2541 โดยมีเจ้าของรีสอร์ตเป็นผู้ชี้แนวเขตของตนเอง ถ้าหากมีข้อมูลตรงกับแผนที่เดิมก็ไม่มีปัญหา หากมีการบุกรุกพื้นท่าป่าสาธารณะ ก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย และประชุมฝ่ายที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการ
รายงานข่าวระบุว่า ในเบื้องต้นก่อนเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าตรวจสอบ มีข้อมูลพบว่ามีรีสอร์ตที่รุกป่าสงวนกว่า 10 ราย และมีการขายกับให้นายทุนเข้าดำเนินการ โดยให้เจ้าของเดิมเป็นนอมินี และมีข้าราชการบางคนเข้าไปมีเอี่ยวในที่ดินและผลประโยชน์ในพื้นที่ดอยภูชี้ฟ้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงกำลังตรวจสอบ.