อัศจรรย์! ไฟไหม้จุดตั้งศพพระครูกาญจนกิตติสาร อดีตเจ้าอาวาสวัดต้นลำใย จ.กาญจนบุรี เสียหายทั้งหมด ยกเว้นโลงศพที่บรรจุร่างพระครูฯ มีเพียงคราบเขม่าควันไฟเท่านั้น คอหวยไม่พลาดตีเลขฝาโลง 946 หรือ 942 ไปเสี่ยงโชค...
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 21 ส.ค. 59 ร.ต.อ.อำนาจ จันทร์บุตร์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำรอง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากกรรมการวัดต้นลำใย หมู่ 3 ต.บ้านใหม่ อ.ท่าม่วง ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้เครื่องอุปกรณ์บริเวณที่ตั้งศพเพื่อสวดพระอภิธรรมศพพระครูกาญจนกิตติสาร (ทวี ฉิมพานิช) อายุ 72 ปี เจ้าอาวาสวัดต้นลำใย ซึ่งมรณภาพด้วยโรคเบาหวาน เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.59 ที่ผ่านมาและตั้งศพสวดพระอภิธรรมศพมาแล้วเป็นเวลา 66 วัน โดยกำหนดสวดพระอภิธรรมศพเป็นเวลา 100 วัน พระราชทานเพลิงศพในวันที่ 25 ก.ย.59
ทั้งนี้ คณะกรรมการวัด และไวยาวัจกร รวมถึงทหารนำโดย ร้อยตรีประจบ ฐานบำรุง หน.ร้อย รส.ที่ 2 ส.พัน 9 พล.ร.9 กับเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ประจำจังหวัดกาญจนบุรี ช่วยกันขนย้ายและเตรียมจัดสถานที่เพื่อรอขนย้ายและเปลี่ยนโลงบรรจุศพใหม่
จากการตรวจสอบภายในศาลาการเปรียญด้านในสุดที่เป็นสถานที่ตั้งสวดพระอภิธรรมศพของอดีตเจ้าอาวาสพบว่า มีร่องรอยคราบเพลิงไหม้จุดที่ตั้งศพ เปลวเพลิงได้เผาไหม้โต๊ะหมู่ดอกไม้บูชาที่ตั้งหน้าศพจนวอดเป็นเถ้าถ่าน ความร้อนของเปลวไฟยังทำให้ฝ้าเพดานภายในศาลาพังเสียหายไปทั้งหลัง ซึ่งแจ้งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานคาดว่าสาเหตุเพลิงไหม้น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
นายฉัตรมงคล บินดาระ อายุ 35 ปี หลานชายเจ้าอาวาสซึ่งเป็นผู้พบเหตุการณ์เพลิงไหม้ศาลาการเปรียญเป็นคนแรกเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 01.45 น.ของคืนวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังนอนหลับ ได้ยินเสียงสุนัขภายในวัดเห่าลั่นวัดไปหมด จึงเปิดประตูห้องกุฏิออกมาดูพบว่า ไฟกำลังไหม้ภายในศาลาการเปรียญ ตนจึงวิ่งไปดูและร้องตะโกนให้ลูกศิษย์และพระลูกวัดที่มีอยู่ 6 รูปให้ช่วยกันออกมาใช้สายยางฉีดน้ำดับไฟจนเพลิงสงบ
...
นายณรงค์ ภักดีสุทธิ์ อายุ 71 ปี ไวยาวัจกรวัด กล่าวว่า สาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้ศาลาการเปรียญน่าจะเป็นเพราะสายไฟที่ติดตั้งอยู่ในศาลานั้นเก่าแก่มากใช้มานานเกือบ 20 ปี โดยที่ไม่มีการเปลี่ยนสายไฟ คาดว่างานสวดพระอภิธรรมศพเจ้าอาวาส ซึ่งเปิดไฟฟ้าทั้งวันทั้งคืนมาเป็นเวลานานกว่า 60 วัน จึงอาจจะทำให้สายไฟเสื่อมสภาพและเกิดความร้อนจนเกิดไฟฟ้าลัดวงจรก็เป็นได้
ส่วนทางด้าน พระครูปลัดพรเทพ ฐิตพโล เจ้าอาวาสวัดอู่ตะเภา กล่าวว่า นับว่าเป็นเรื่องที่แปลกมากที่ไฟไหม้โต๊ะหมู่ดอกไม้บูชาพระ แต่ไม่ไหม้โลงศพ เหมือนกับหลวงพ่อดลบันดาลให้เกิดไฟไหม้ เหมือนจะบอกให้ญาติโยมลูกศิษย์ลูกหาว่า ไม่ต้องการให้ฌาปนกิจ หรือพระราชทานเพลิงศพก็เป็นได้ จึงดลบันดาลให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ประชาชนทั้งจังหวัดกาญจนบุรี โดยเฉพาะบรรดาลูกศิษย์ลูกหาของหลวงพ่อทวี ทราบข่าวต่างก็เดินทางมาดู และช่วยกันขนสิ่งของภายในศาลาการเปรียญ ออกมาไว้ที่นอกศาลา เพื่อประสานรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลบ้านใหม่ อ.ท่าม่วง มาฉีดน้ำบนฝ้าเพดาน เนื่องจากยังมีกลุ่มควันลุกโชนออกมาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งคาดว่ายังมีการคุกรุ่นของเปลวไฟที่บนฝ้าเพเดาน
ทั้งนี้ ชาวบ้านและลูกศิษย์ของหลวงพ่อทวีกับคณะกรรมการวัด ช่วยกันบริจาคเงินคนละเล็กละน้อยเพื่อซื้อโลงศพที่ทำด้วยไม้สักสูง 5 ชั้นทำด้วยไม้สักทั้งใบ เพื่อนำไปบรรจุศพหลวงพ่อ แทนใบเก่าที่เป็นคราบสีดำเนื่องจากถูกเปลวไฟโหมไหม้โต๊ะหมู่และดอกไม้บูชาพระที่ตั้งอยู่ด้านหน้าศพ ในราคาใบละ 29,000 บาท โดยชาวบ้านต่างก็มุงดูเลขฝาโลงเพื่อนำไปซื้อเลขเด็ดเพื่อเสี่ยงโชค บางคนก็ตีเป็นเลข 946 หรือ 942