กรณีชาวบ้านหมู่ 8 ต.รางบัว อ.จอมบึง และชาวบ้านหมู่ 1 ต.น้ำพุ อ.เมืองราชบุรี ที่อาศัยอยู่ใกล้กับโรงงานกำจัดกากขยะอุตสาหกรรมและฝังกลบสารเคมี บ.แวกว์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จก. ร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบเนื่องจากได้รับผลกระทบจากสารปนเปื้อนในแหล่งน้ำใต้ดิน ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ก.ค. ได้มีหนังสือด่วนที่สุดจาก สนง.ผู้ตรวจการแผ่นดิน ลงวันที่ 13 ก.ค.2559 เรื่องผลการวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินถึง อบต.น้ำพุ สรุปว่าผลการตรวจสอบของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้วัดระดับความสูงของบ่อด้วยเครื่องรับสัญญาณดาวเทียมและวิเคราะห์ทิศทางการไหลของน้ำ บริเวณพื้นที่โรงงานมีค่าเฮดสูงกว่าพื้นที่ของชาวบ้านที่อยู่ด้านใต้โรงงานและยังเป็นแหล่งต้นน้ำลำห้วยน้ำพุ ทั้งยังมีทิศทางการไหลจากโรงงานไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เข้าสู่หมู่บ้านท้ายน้ำด้วย จึงมอบหมายให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมจังหวัด ตรวจหาสาเหตุของการปนเปื้อนมลพิษเพื่อหยุดการแพร่กระจายและหาแนวทางป้องกัน
นายจำเนียร จินดาโชติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.น้ำพุ เปิดเผยว่า หลังจากทราบผลวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินได้ออกแจ้งเตือนเสียงตามสายให้ระงับการใช้น้ำที่มีการตรวจพบสารปนเปื้อนแล้ว ชาวบ้านส่วนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบเตรียมรวบรวมเอกสารหลักฐานและผลสรุปของผู้ตรวจการแผ่นดินร้องต่อ ป.ป.ช.และ ป.ป.ท. ภายในสัปดาห์นี้ อย่างไร ก็ตาม ในวันนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลและ ม.เกษตรศาสตร์ เข้าเก็บตัวอย่างดินภายในโรงงานในจุดที่คาดว่าจะเป็นที่ลักลอบฝังกลบสารเคมีเพื่อตรวจสอบความเข้มข้นของสารพิษ จากการสอบถามอุตสาหกรรมจังหวัดทราบว่าทางสำนักงานยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งผลการวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน จึงยังไม่มีการดำเนินการกับทางโรงงาน.
...