เด็กสาวที่แม่ฮ่องสอนถูก ‘หญิงไก่’ หลอกให้ไปทำงานเมื่อ 7 ปีก่อน รุมแฉพฤติกรรม ชอบเข้าบ่อนที่ลาว แถมยังบังคับข่มขู่ ไม่ให้ออกจากบ้าน ที่สำคัญไม่เคยจ่ายเงินเดือนให้ หากจะกลับบ้านต้องเอาเงิน 3 หมื่นมาประกันไว้แต่ไม่คืนเงิน

เมื่อวันที่ 3 ก.ค.59 ที่ผ่านมา นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย (ส.ปอ.ท.) พร้อมผู้สื่อข่าวในพื้นที่ ได้เดินทางเข้าตรวจสอบกรณีเด็กสาวจากหมู่บ้านสุขใจ ต.แม่ลาหลวง อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ที่เคยถูกหญิงไก่ หรือนางสุชาดา หยกวิริยะกุล (วันทนีย์ หยกวิริยะกุล) พาไปทำงานด้วย และถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ และในวันนี้ 4 ก.ค.59 จะเข้าดำเนินการแจ้งร้องทุกข์กับ ดีเอสไอ ที่เชียงใหม่

นางจันทร์ศรี สกุลดล อายุ 44 ปี ชาวบ้านใน อ.แม่ลาน้อย กล่าวว่า เมื่อ 7 ปีที่แล้วหรือประมาณปี 2552 คุณหญิงไก่ แต่งตัวภูมิฐานท่าทางหน้าตาท่าทางไว้วางใจเข้ามาในหมู่บ้านพร้อมคนขับรถ และพูดจาขอเด็กสาวไปทำงานซึ่งมีเด็กสาวจากหมู่บ้านไปทำงานด้วยกันหลายคน หนึ่งในจำนวนนั้นมีลูกสาวของตนเองด้วย ชื่อน้องเอ (นามสมมติ) ขณะนั้นอายุ 18 ปี เพิ่งจบการศึกษา ม.6 ซึ่งตนเห็นว่าลูกสาวเรียนจบแล้ว จึงได้อนุญาตให้ไปทำงานกับคุณหญิงไก่ ประกอบกับคุณหญิงไก่บอกว่า จะส่งเสียให้เล่าเรียนด้านพยาบาล และเป็นคุณหญิงท่าทางน่าไว้วางใจ โดยจะให้ทำงานบ้านตอบแทน ค่าจ้างเดือนละ 6,000 บาท และอ้างว่าจะให้สร้อยทองอีกคนละ 1 เส้น เด็กๆ จึงตามไปทำงานด้วยหลายคน

ทั้งนี้หลังจากพาเด็กๆ มาอยู่ด้วย น้องเอก็บอกว่าคุณหญิงไก่ ไม่ให้ไปไหน และไม่ได้ส่งเสียให้เรียน ให้พักอยู่คอนโดแถวพระราม 9 พร้อมกับขอเก็บบัตรประชาชนของทุกคนไว้ หลังจาก 1 ปี พ่อของตนที่เป็นตาของน้องเอ ไม่สบายป่วยหนัก น้องเอจึงหนีกลับบ้านโดยไม่ได้อะไรมาเลย เงินก็ไม่ให้เด็กจึงไม่กลับไปอีก คุณหญิงไก่ ได้โทรมาตามและขู่เกือบทุกวัน ว่าถ้าไม่กลับก็จะแจ้งความข้อหาลักทรัพย์ ก็ยิ่งกลัว แต่ก็ไม่ไป ทุกวันนี้ก็ได้อยู่อย่างหวาดผวา กลัวตลอดเวลา และตอนนี้น้องเอก็ไปทำงานอยู่ที่ อ.สบเมย

...

นอกจากนี้มีผู้หญิงอีกหนึ่งรายโทรมาแจ้งกับนายบุญญฤทธิ์ ว่า ตนเองมีน้องสาวชื่อน้องบี (นามสมมติ) และเคยไปทำงานกับคุณหญิงไก่เมื่อ 7 ปีก่อน หรือปี 2552 แต่ไม่เคยได้รับเงินเดือน และให้เด็กๆ พักอยู่คอนโดแถวพระราม 9 ซึ่งมีเด็กสาวอยู่ด้วยกัน 4-5 คน และมีผู้หญิงชาวลาว 1 คน คุณหญิงชอบไปบ่อนกาสิโนที่ประเทศลาว และจะบังคับให้เด็กๆ ไปเป็นเพื่อน ถ้าไม่ยอมไปก็จะหยิกจนตัวเขียว พอวันหยุดก็จะบังคับให้เด็กๆ ใส่ชุดขาว แต่ไม่ให้ไปไหน ซึ่งน้องบีกลัวและได้หนีกลับบ้าน คุณหญิงก็โทรมาขู่และแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ ทางบ้านต้องนำเงินมาวางประกันตัวจำนวน 30,000 บาท ถึงเดินทางกลับได้ โดยมีการยึดเงินประกันของน้องบีไปและไม่คืนให้ เด็กๆ จึงเกิดความกลัวไม่มีใครกลับไปทำงานกับคุณหญิงอีกเลย

ส่วนกรณีหนูนา หรือ น.ส.จันทนา คชคงไคย นั้นหนีไม่รอด เลยโดนจับดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ ซึ่งตอนแรกหนูนา ปฏิเสธ พร้อมกับขอเงินทางบ้านไปช่วยประกันตัว 30,000 บาท แต่ก็โดนข่มขู่อีกให้ยอมรับสารภาพและบอกว่าจะให้ทนายช่วยประกันตัวออกมา สุดท้ายก็ไม่ได้ช่วยอะไร จนหนูนาต้องถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเป็นเวลากว่า 1 ปี ส่วนน้องสาวตนคือน้องบี ตอนนี้ได้ทำงานอยู่ในตัวเมือง จ.แม่ฮ่องสอน