เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 28 มิ.ย.ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังจาก นสพ.ไทยรัฐ ได้นำเสนอข่าวชาวบ้าน ม.8 ต.รางบัว อ.จอมบึง และ ม. 1 ต.น้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี ที่ได้รับผลกระทบจากสารปนเปื้อนในแหล่งน้ำใต้ดินของประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้โรงงานกำจัดกากขยะอุตสาหกรรมและฝังกลบสารเคมีของ บ.แวกว์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด เลขที่ 83 หมู่ 8 ต.รางบัว อ.จอมบึง ซึ่งกว่า 10 ปีที่ชาวบ้าน ต.น้ำพุ ได้มีการร้องเรียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตลอด ชาวบ้านที่เป็นแกนนำก็ถูกทหารใช้ ม.44 ห้ามเคลื่อนไหว หยุดร้องเรียน ผ่านมากว่า 1 เดือน จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีการดำเนินการแก้ไขอะไร ล่าสุด ได้มีหน่วยงานของกรมควบคุมมลพิษเข้ามาเก็บตัวอย่างน้ำภายในโรงงาน และบ่อน้ำของชาวบ้านที่เคยตรวจไปแล้วไปตรวจอีกครั้ง
นายอดิศร ปัจฉญานันท์ อายุ 44 ปี เผยว่า บ่อน้ำที่บ้านของตนเป็นบ่อน้ำที่ตรวจพบว่ามีสารอินทรีย์ระเหยง่าย โลหะหนักที่มีค่าเกินมาตรฐานและมีหนังสือจากกรมควบคุมมลพิษสั่งห้ามใช้น้ำในบ่อแล้ว ตั้งแต่ปี 56 เนื่องจากอยู่ติดด้านหลังของโรงงาน ทุกครั้งที่เป็นข่าวว่ามีชาวบ้านร้องเรียน ก็จะมีเจ้าหน้าที่จากอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ กรมทรัพยากรน้ำบาดาลและสิ่งแวดล้อม เข้ามาตรวจน้ำในบ่อของตนมากกว่า 10 ครั้งแล้วแต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการแก้ไขแต่อย่างใด สอบถามกับเจ้าหน้าที่ ได้รับคำตอบว่า ต้องการผลตรวจล่าสุดเพื่อส่งให้จังหวัดแก้ไขปัญหา
...
นายอดิศรเผยอีกว่า ได้ไปขอเอกสารจาก อบต.น้ำพุ พบว่ามีหนังสือจากกรมควบคุมมลพิษ ลงวันที่ 27 พ.ย.58 แจ้งผลตรวจให้ทางจังหวัดราชบุรี ทราบและพิจารณามอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดเจ้าของโรงงาน ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนมลพิษและฟื้นฟูคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่โดยเร็ว กรณีการปนเปื้อนมลพิษในแหล่งน้ำใช้ของประชาชนบริเวณใกล้เคียงโรงงาน ที่เสนอจังหวัดทราบแล้ว ผ่านมากว่า 8 เดือนแล้วก็ยังไม่เห็นมีหน่วยงานไหนเข้ามาแก้ไข
อย่างไรก็ตาม จากการเข้าไปตรวจสอบภายในโรงงานยังพบว่าที่โรงรับซื้อของเก่าที่เคยถูกดำเนินคดี ที่นำกากเถ้าฝุ่นของโรงงานอุตสาหกรรมมากองไว้ และอุตสาหกรรมจังหวัดได้สั่งให้นำไปกำจัดภายใน 35 วัน ตั้งแต่ 1 เม.ย.แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด ปล่อยให้ฝนที่ตกลงมาชะล้างสารพิษลงพื้นดินซึ่งโรงงานก็ไม่มีการสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียไว้รองรับเกรงว่าจะซึมลงสู่ลำห้วยน้ำพุที่อยู่ติดกับโรงงานอีกด้วย.