ฉากสงครามที่วัดพระธรรมกาย ทัพญาติโยมนุ่งขาวห่มขาว ฝ่ายพระรวมตัวกันเป็นกำแพงมนุษย์ ตั้งรับทัพตำรวจทหารฝ่ายรัฐบาล ผมดูแล้ว หัวเราะก็ไม่ได้ ร้องไห้ก็ไม่ออก

ถ้าเหตุการณ์เป็นไปตามข้ออ้างฝ่ายวัด มีรัฐบาลเป็นประชาธิปไตย ท่านสมภารธรรมกาย จึงจะมอบตัว...เวลาของการเผชิญหน้า คงจะอีกยาว วัดก็เหนื่อย รัฐก็เหนื่อย ข่าวที่น่าสนใจขนาดนี้ สื่อทั้งหลายก็เหนื่อย

แง่...จะยอมมอบตัวกับรัฐบาลประชาธิปไตย...ผมขอชม “คม” เหลือหลาย ได้ใจจากฟากการเมืองสีแดง ได้ใจจากฝรั่ง

แทงใจดำรัฐบาลทหาร ปลุกให้หลายคนตื่นจากฝัน นับเวลารอวันเวลา ที่ทหารออกปากขอ

คดีฉ้อโกง...รัฐบาลถ้าไม่จัดการ ก็เจอข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่ถ้าหักหาญ บุกเข้าจับตัวสมภาร ไข่แดงของทัพญาติโยม...ข่าวก็ถูกตีฆ้องร้องป่าวไปทั่วโลก สมมติเกิดพลาดพลั้ง กระทบกระทั่งพระชราที่ป่วยงอม...เป็นอะไรไป

ยี่ห้อ “ธรรมกาย” ที่ลงหลักปักฐานมั่นคงกว่า 690 สาขาในไทย กว่า 200 สาขาในต่างประเทศ ก็จะเรียกความสนใจ โอกาสที่นิกายใหม่... สาขามหานิกาย ก็จะยิ่งขยายใหญ่โต

ศาสนา หรือลัทธิมากมาย เติบใหญ่ขึ้นได้ในโลก ก็เพราะเงื่อนไขทำนองนี้

ผมเชื่อว่า ทั้งฝ่ายวัด ฝ่ายรัฐบาล คงไม่อยากให้มีการเผชิญหน้ายืดยาว ฝ่ายวัดเชื่อหลวงพ่อป่วยหนัก ไม่อยู่ในสภาพที่จะไปรับข้อหา ฝ่ายรัฐมองเป็นความพยายามเบี่ยงเบนของผู้ต้องหา เพิ่มความเข้มข้นในการต่อต้าน

ผมอยากให้ทุกฝ่ายถอยหลังไปตั้งสติ ลดละอคติให้เหลือแต่สิ่งที่ดีๆ ซึ่งทุกฝ่ายมี ก่อนอื่นต้องแยกความเป็นสำนัก “ธรรมกาย” ออกไปจากตัวสมภาร

ธรรมกายเป็นองค์กรพุทธศาสนาคนรุ่นใหม่ สะอาด สงบ งาม ถึงขนาดนิตยสารเนชันแนล จีโอกราฟฟิค เอาภาพไปใช้ เป็นสัญลักษณ์พุทธศาสนาประเทศไทย

...

ประเด็นคำสอนผิดเพี้ยน จากผู้รู้บางท่าน...ถ้าถอยหลังไปอดีต...ก็จะรู้ว่า การแตกหน่อจากต้นพุทธศาสนาแบบธรรมกายนั้น เกิดขึ้นมาแล้ว...นับไม่ถ้วน

สุดโต่ง...เป็นวัชรยานตันตระ พระเล่นไสยศาสตร์ พระกินเหล้า พระมีเมีย ฯลฯ ก็เคยมี เมื่อพันปีที่แล้ว

แนวทางแบบธรรมกาย...เปรียบได้กับนิกายที่มีพระอมิตะพุทธเจ้า นั่งบนดอกบัว อยากขึ้นสวรรค์ก็ท่อง อมิตพุทธๆๆ ทันทีที่ตาย ก็จะได้ดอกบัวนั่ง บนสุขาวดี

ความเชื่อแบบไหนๆ เกิดขึ้นได้ในโลกนี้ แต่ความสำคัญของความเชื่อนั้น ไม่เท่ากับนำพลังไปสร้างสรรค์มากน้อยแค่ไหน สำนัก “ฉือจี้” ที่ไต้หวัน นับถือพระพุทธเจ้ามหายาน...มีพระโพธิสัตว์ เป็นต้นแบบให้มนุษย์มีจิตอาสาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์

กระบวนการธรรมกาย...คือความเป็นไปแบบหนึ่งในพุทธศาสนา กลมกลืนอยู่ในมหานิกาย จะชี้ว่าผิดไปทีเดียวก็ยังไม่ได้ ควรออกปากชม สมภารด้วยซ้ำ ท่านเก่งนักหนา

แต่กรณีที่เป็นคดี เป็นข้อหาเฉพาะตัว สมภาร...ที่จะต้องชำระสะสางกันไปให้ชัดเจน...ถ้าสมภารแน่ใจ สู้คดีได้ เงินที่ได้จากสหกรณ์คลองจั่นก็คืนไปแล้ว ท่านก็น่าจะเดินไปมอบตัว

กระบวนการยุติธรรมแบบไทย กว่าจะไปถึงสามศาล...ก็นานเกินอายุขัยของวัยชรา

ผมอยากเห็นฝ่ายรัฐ เลือกมองมุมดีๆของธรรมกาย...แสดงท่ายอมรับนับถือ ใช้วิธีพูดจาภาษาดอกไม้ เคารพในศรัทธาของคนธรรมกาย ให้เกียรติสมภารที่ยังเป็นพระ

การใช้วัดเป็นสถานที่รับผู้ต้องหา แล้วให้ประกันตัว เคยมีแล้ว และน่าจะมีได้ต่อไปอีก

สมภารมอบตัวแล้ว ก็กลับวัดนั่งภาวนา ม็อบญาติโยมก็สลายกลับบ้าน ตำรวจทหารก็เก็บปืนขึ้นรถกลับที่ทำงาน

สงครามระหว่างรัฐกับวัด ก็จะยุติ รัฐท่านก็จะเหลือเวลาไปตั้งรับสารพันปัญหา เพราะนับวัน...เวลาท่านก็ยิ่งเหลือน้อยเต็มที.

กิเลน ประลองเชิง