รวบแล้ว 2 ผู้ต้องหาคดีอุ้มฆ่าเสี่ยนักเรียนนอก เป็นอดีตนายทหารยศ พ.อ. กับ ร.อ. รับค่าจ้าง 2 ล้านจากผู้จ้างวาน เหตุขอส่วนแบ่ง 7 ล้านบาทจากการขายที่ดิน 100 ล้าน เผยพ่อหวั่นลูกชิงลงมือก่อน จ้างอุ้มจากโรงพิมพ์ไปยิงทิ้งที่กาฬสินธุ์...
จากคดีที่ นายภาสพล รัตนตยาธิคุณ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/2 ซ.สุขุมวิท 65 ต.พระโขนง เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิตในร่องน้ำ ช่วงกลัด กม.ที่ 102–103 ถ.ถีนานนท์ ระหว่าง อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์–จ.สกลนคร บนเทือกเขาภูพาน บริเวณทางโค้งก่อนเข้าผาเสวย ท้องที่บ้านแก้งกะอาม ต.ผาเสวย อ.สมเด็จ เมื่อ 8 โมงเช้า วันที่ 1 พ.ค. ตำรวจพุ่งปมความขัดแย้ง จากการขายที่ดินมูลค่า 100 ล้าน ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ 3 คน โดย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าของคดีด้วยตัวเอง ตามข่าวที่ ไทยรัฐ ติดตามนำเสนอมาต่อเนื่อง (มรดกเลือด100ล. ลวงอุ้มฆ่า เสี่ยหนุ่มนร.นอก)
...
ล่าสุด ตำรวจชุดทำงานสามารถปิดคดีดังกล่าวลงจนได้ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 ราย เป็นอดีตนายทหารยศพันเอกกับร้อยเอก สังกัดกองทัพบก พร้อมขอศาลออกหมายจับพ่อ เป็นผู้จ้างวานฆ่าลูกชายตัวเอง เหตุผู้ตายขอเงินส่วนแบ่ง 7 ล้าน จากการขายที่ดิน 100 ล้าน
ความคืบหน้าในคดีนี้ เมื่อเวลา 13.50 น.วันที่ 13 มิ.ย. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยนายวินัย วิทยานุกูล ผวจ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รอง ผบช.ภ. 4 พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง พ.ต.อ.โสภณ วารี รอง ผบก.กาฬสินธุ์ ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ ชุดสืบสวน ภ.4 และสภ.สมเด็จ พ.ต.ท.บุญจันทร์ สังข์ทอง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.สมเด็จ พ.ต.ท.รพี สีพันนา รอง สว.(สอบสวน) เจ้าของคดี ได้นำของกลางที่ตรวจยึดได้ในคดีนี้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่ห้องประชุมชัยสุนทร ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ถึงการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 2 ราย
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาที่ถูกนำตัวมาแถลงข่าวคือ นายมนูญ หรือ สิทธิ์ฐิคมน์ ภัทรเมธาพร อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/336 ถ.พหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร เป็นอดีตนายทหารบกยศพันเอก ผู้ต้องหาอีกคนคือ นายกิตติภพ หรือ เฉลา เครือไย อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/203 ม.3 ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยทั้ง 2 คน ถูกชุดสืบสวนจับกุมได้เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 12 มิ.ย. ที่บริเวณปั๊มแก๊สเอ็นจีวี ริมถนนเพชรเกษม ม.7 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
ของกลางที่ตรวจอายัดประกอบด้วย รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อนิสสัน อัลเมร่า สีแดง ขณะก่อเหตุรถเป็นสีขาว แต่หลังก่อเหตุได้ถูกพ่นสีแดงทับ หมายเลขทะเบียน 1กร 7819 กทม. เสื้อเครื่องแบบข้าราชการทหารบก ติดเครื่องหมายยศ พันเอก(พิเศษ) ติดป้ายชื่อ "สิทธิ์ฐิคมน์ ภัทรเมธาพร" 1 ชุด เสื้อเครื่องแบบข้าราชการทหารบกยศ พันตรี ติดป้ายชื่อ กิตติภพ เครือไย 1 ชุด บัตรประจำตัวข้าราชการทหารบก (ปลอม) ระบุชื่อ พ.ต.กิตติภพ เครือไย 1 ใบ บัตรประจำตัวเจ้าพนักงาน ปปส. (ปลอม) ระบุชื่อ พ.อ.มนูญ ภัทรเมธาพร
ส่วนพฤติการณ์แห่งคดี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า เมื่อเช้าวันที่ 1 พ.ค. เวลาประมาณ 07.30 น. มีผู้พบศพ นายภาสพล หรือ ตุ้ม รัตนตยาธิคุณ อายุ 49 ปี ถูกยิงเสียชีวิตที่บริเวณที่เกิดเหตุ ต่อมา เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ชุดสืบสวนจากตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ และชุดสืบสวนจากตำรวจภูธรภาค 4 และ สภ.สมเด็จ สามารถวางแผนจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้ โดยที่เหลืออีก 3 คน อยู่ระหว่างติดตามจับกุม คาดว่ายังอยู่ในพื้นที่ประเทศไทย
นอกจากนี้ ตำรวจได้ขออนุมัติต่อศาลเพื่อออกหมายจับ นายวิรัช หรือ กอง รัตนตยาธิคุณ อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 555 ซอย ส.ธรณินทร์ 5 ต.สามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. บิดาของผู้ตาย ในข้อหาเป็นผู้จ้างวานฆ่า ซึ่งจะได้ตัวในอีกไม่นาน
...
ทางด้าน พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.กาฬสินธุ์ เผยถึงแผนอุ้มฆ่านายภาสพล ว่า เกิดจากความขัดแย้งเรื่องการขายที่ดินมูลค่า กว่า 100 ล้านบาท ของพ่อผู้ตาย ซึ่งหลังจากขายที่ดินได้แล้ว ผู้ตายมาขอส่วนแบ่งจำนวน 7 ล้านบาทจากพ่อ นอกจากนั้น ยังพบว่าผู้ตายได้ไปซื้ออาวุธปืนพกสั้น ซุกซ่อนไว้ที่บ้านอีก 2 กระบอก ทางสืบสวนทราบว่าพ่อผู้ตายเกรงว่า ลูกจะใช้อาวุธปืนที่แอบซื้อไว้ลงมือกับพ่อ ผู้เป็นพ่อจึงติดต่อกับทีมฆ่า ในราคา 2 ล้านบาท โดยจ่ายเงินก่อน เมื่อวันที่ 29 เม.ย. จำนวน 1.5 ล้านบาท
"เมื่อได้รับเงินแล้ว ทีมฆ่าสวมใส่ชุดทหารเข้าไปอุ้มเอาตัวผู้ตายออกไปจากโรงพิมพ์ที่ กทม. โดยใช้รถเก๋งของกลางคันที่ตรวจยึดได้ ขณะนั้นเป็นสีขาว แต่หลังก่อเหตุแล้ว กลุ่มคนร้ายได้พ่นสีแดงทับปกปิด ขับออกจากโรงพิมพ์ ใช้เส้นทาง กทม. ไป จ.ฉะเชิงเทรา โดยแวะพักค้างคืนที่แปดริ้วในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในจุดนี้กลุ่มคนร้ายได้นำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินจำนวน 1 หมื่นบาท โดยมีมือสังหารตามมาสมทบที่ จ.ฉะเชิงเทรา ครบ 5 คน และหนึ่งในคนร้าย ได้ย้อนกลับเอาเงินจำนวน 5 แสนบาท จากพ่อผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้จ้างวาน จนครบ 2 ล้านบาท ตามที่ตกลงกัน"
กระทั่งกลุ่มคนร้ายได้นำตัวผู้ตายขึ้นรถของกลาง วิ่งไปตาม ถ.มิตรภาพ ผ่าน จ.นครราชสีมา เข้ากาฬสินธุ์ โดยเหตุที่ไปใช้จุดในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เนื่องจากหนึ่งในทีมฆ่าเป็นคนอีสาน และมีภรรยาในพื้นที่ อ.สมเด็จ จึงทำให้ทราบว่า ผาเสวย คือจุดสังหาร โดยช่วงเวลาประมาณ ตี 2–ตี 3 ของวันที่ 1 พ.ค. ขณะที่รถวิ่งออกจาก อ.สมเด็จ ขึ้นเทือกเขาภูพาน มุ่งหน้าไปทาง จ.สกลนคร ก่อนถึงผาเสวยประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นทางโค้ง ผู้ตายเกิดปวดปัสสาวะ จึงขอให้จอดรถเพื่อลงไปข้างทาง จังหวะที่ผู้ตายยืนปัสสาวะอยู่นั้น มือสังหารได้ลงมือใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ท้ายทอยผู้ตายจนล้มคว่ำ คาดว่าจากนั้นใช้เท้าถีบร่างผู้ตายลงไปในร่องทางน้ำลึก คดีนี้ยังมีผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 3 ราย ส่วนพ่อผู้ตาย ถูกตำรวจขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับแล้ว ในข้อหาเป็นผู้จ้างวานฆ่า ซึ่งหลักฐานพยานทุกอย่างอยู่ในสำนวน
...
จากนั้นหลังแถลงข่าวเสร็จ พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.กาฬสินธุ์, พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รอง ผบก. พ.ต.ท.บุญจันทร์ สังข์ทอง รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.รพี สีพันนา รอง สว.(สอบสวน) สภ.สมเด็จ เจ้าของคดี ได้นำผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมรถยนต์ของกลาง ไปทำแผนที่บริเวณเทือกเขาภูพาน ระหว่าง กม.ที่ 102–103 ท้องที่บ้านแก้งกะอาม ต.ผาเสวย อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คน กล่าวเพียงว่าได้ให้การตำรวจไว้หมดแล้ว ไม่ขอพูดอะไร.