นายกฯ บินรัสเซีย ยันมีคุยเรื่องซื้อ "เฮลิคอปเตอร์-รถถัง" บอกของเก่าใช้มานานแล้ว ห่วงชีวิตทหารบ้าง บอกเป็นการแลกเปลี่ยนต่างตอบแทน ด้านรัสเซียสนสินค้าเกษตรไทย

เมื่อวันที่ 16 พ.ค.59 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรัฐมนตรี (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการเยือนสหพันธรัฐรัสเซียอย่างเป็นทางการ และการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหพันธรัฐรัสเซีย สมัยพิเศษระหว่างวันที่ 17-19 พ.ค. ว่า การเดินทางเยือนครั้งนี้ จะมีการเจรจาทวิภาคี ไทยกับรัสเซีย และการเดินทางไปนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเพื่อพูดคุย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ในปี พ.ศ. 2560 จะครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-รัสเซีย แต่ละประเทศจะมีการจัดกิจกรรม และมีความสัมพันธ์กันตั้งแต่อดีต ทำให้ประเทศของเราได้รับการแก้ไขในยุคสงคราม และผ่านไปได้ด้วยดี ซึ่งตนได้คุยกับนายดมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีรัสเซีย 3-4 ครั้งแล้ว เขาก็บอกว่าเราจะต้องเดินหน้าทั้ง 2 ประเทศในอีก 20 ปี ซึ่งจะครบ 120 ปี ในปี 2560 หลังจากนั้นจะไปร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-รัสเซีย ที่เมืองโซชิ โดยจะมีผู้แทนของอาเซียนเข้าร่วมประชุม โดยเป็นประเด็นของความร่วมมือทุกมิติ ซึ่งไทยกับรัสเซียจะต้องเพิ่มเป็น 5 เท่าให้ได้ เพื่ออนาคต ฉะนั้นถ้าเราปล่อยแบบเดิมอย่างที่ผ่านมาไม่ได้ จะต้องตั้งเป้าหมาย ตนได้บอกทุกประเทศว่า วันนี้ประเทศไทยกำลังเดินหน้าไปสู่การปฏิรูปประเทศ ในอีก 20 ปีข้างหน้า ทุกประเทศจะต้องเดินหน้า ตนขอให้ทุกภูมิภาคทั่วโลก อยากให้ดูแลช่วยเหลือเราในฐานะที่เราต้องเข้มแข็งไปด้วยกัน และอย่าทิ้งใครไว้ข้างหลัง การคาดหวังของการเดินทางเยือนครั้งนี้ จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของความสัมพันธ์ไทย-รัสเซีย และกับหลายๆ ประเทศ แม้จะมีปัญหาอยู่บ้าง

...

เมื่อถามว่า จากที่นายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อรัสเซีย เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนายกฯ มีความสนใจเรื่องของเฮลิคอปเตอร์และยุทโธปกรณ์จากรัสเซีย การเดินไปครั้งนี้จะมีความคืบหน้าอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ความคืบหน้าที่อยากรู้คืออะไร จะซื้อหรือไม่ซื้อ หรือราคาเท่าไหร่ สนใจอยู่แค่นี้เหรอ มันไม่ได้เลยความคิด ความคิดไม่ตรงกัน วันนี้ถามหน่อย ประเทศขาดอะไร ทำเฮลิคอปเตอร์เองได้ไหม สร้างได้เหรอ ที่ซื้อจากเขาเพราะเราทำเองไม่ได้ เราต้องหามาใช้ทดแทน สิ่งที่พัง สิ่งที่เก่า คราวหลังไม่ต้องจัดเฮลิคอปเตอร์ขนส่งทางทหาร MI-17-V5 ให้พวกนี้นั่ง เอาเฮลิคอปเตอร์ ฮิวอี้ รุ่นแรก ที่ใช้มากว่า 30-40 ปีมาให้นั่ง ทำไมทหารไม่มีชีวิตจิตใจหรืออย่างไร เขาจะซื้อไปทำอะไร

เมื่อถามว่า การสั่งซื้อเฮลิคอปเตอร์ครั้งนี้ จะนำมาช่วยในเรื่องดับเพลิงด้วย นายกฯ กล่าวว่า ก็ไหมเล่า การซื้อมันมีคำว่าซื้ออาวุธหรือยุทโธปกรณ์ ฉะนั้นการหารือครั้งนี้ตนพูดทุกประเทศ ไม่ใช่เฉพาะรัสเซีย เป็นการค้าขายการลงทุน ต้องไปเพิ่มการศึกษาวิจัย เรื่องการตั้งโรงงานซ่อมสร้าง ศูนย์รวมอะไหล่ แต่ตนได้ให้นโยบายว่า ยุทโธปกรณ์นั้นจะต้องใช้ในการกู้ภัย มันก็มีเฮลิคอปเตอร์ที่จะต้องใช้ ตนถามว่าถ้าประเทศอื่นเสนอมาราคาถูกกว่า และคุณภาพเท่านี้ก็อยู่ที่คณะกรรมการเป็นคนเลือกไม่ใช่ตน ฉะนั้นตนก็จะไปเจรจาในขั้นต้น ว่ามีการร่วมมือจัดหาอาวุธ ยุทโธปกรณ์ระยะยาว ไม่ใช่ซื้อทีเดียวยาวไป 20 ปี มีเงินเท่าไหร่ ซื้อเท่านั้น แล้วกว่าจะซื้อเขาก็ต้องใช้เวลา ไม่ใช่ว่ากลัวนู่นนี่ไปหมด ถ้าเราไม่ซื้ออะไรเขา แล้วเขาจะซื้ออะไรเราไหม

เมื่อถามว่า เขาสนใจเรื่องสินค้าทางการเกษตร นายกฯ กล่าวว่า เขาเรียกว่าต่างตอบแทน เข้าใจคำว่าต่างตอบแทนไหม ไม่ใช่ว่าใครจะบ้าไปซื้ออยู่ข้างเดียว เป็นการไว้เนื้อเชื่อใจ ลดความหวาดระแวง แล้วเราก็ซื้อได้ 3-4 ลำกี่ปีแล้ว ระหว่างนั้นเขาก็จะมาซื้อผลิตผลทางการเกษตร แลกเปลี่ยนกันจัดหาซื้อพลังงาน คิดอย่างนี้ เพราะเราไม่มีอะไรเลย มีแต่การเกษตรอย่างเดียว น้ำมันก็มีอยู่อย่างจำกัด คุณภาพก็สู้เขาไม่ได้ ถึงจะต้องมีน้ำมันส่วนหนึ่งผลิตแล้วไปขายข้างนอก แล้วซื้อของดีมาในประเทศ คิดอย่างนี้

เมื่อถามว่า ทำไมเราสนใจในรัสเซีย เพราะมีเทคโนโลยีที่น่าสนใจและราคาดึงดูดใจ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การซื้ออาวุธ ยุทโธปกรณ์เขามีคณะกรรมการจัดหายุทโธปกรณ์ในกองทัพ ซึ่งมีการกำหนดความต้องการ ต้องไปดูจากของที่ใช้แล้วมีเท่าไหร่ มีความจำเป็นอย่างไร ต้องหามาเสริมกัน ถ้าคุณภาพใกล้เคียงขั้นต่ำจะต้องเท่านี้ ไม่ใช่ถูกอย่างเดียว จะต้องผ่านมาตรฐานที่เรายอมรับได้ ซึ่งทั้งหมดซื้อตามแผนพัฒนากองทัพ 5 ปี 10 ปี 20 ปี เพราะต้องย้อนกลับไปว่า ยุทโธปกรณ์ในกองทัพใช้มากี่สิบปีแล้ว ตนถามว่าไม่มีได้ไหม ถ้าเราไม่มีเราต้องผลิตเอง เราก็ต้องแลกเปลี่ยน เมื่อเราไปซื้อมา เขาจะมาสร้างโรงงานในประเทศและเอาคนของเราไปเรียนรู้ เมื่อถามว่าจะมีการพูดคุยเรื่องรถถัง T-90 ด้วยหรือไม่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ถ้าทางตนก็คือทั้งหมดไปพิจารณามา ว่าคณะกรรมการเขาผ่านไหม ถ้าไปบอกว่าจะซื้อนี่ ซื้อนู่น มันไม่ใช่ อันไหนถูกซื้อตรงนั้น รถถังก็รถถังจะเอามาใส่ปืนได้ไหม ถ้าทำได้ก็ไม่ต้องซื้อ วันนี้รถถังก็มีอายุมากกว่าตน เครื่องนั่งเฮลิคอปเตอร์ที่จะต้องเอามือไปปัดน้ำฝนไหม ตนนั่งมาหมดแล้ว มันยังบินอยู่ นั่นแหละคือสิ่งที่เราต้องเป็นห่วงชีวิตคน ถ้ามีภัยพิบัติเกิดขึ้น และจะต้องไปขนคน ทหารก็เสี่ยงอยู่ทุกวัน ก็หาอะไรเท่าที่สามารถทำได้ คิดว่าเราจะซื้อที่อื่นก็ได้ แต่จะต้องมีการทำประกัน มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต มีการนำคนไปเรียนที่ประเทศเขา.