ตำรวจอุดรธานี ออกหมายจับ ด.ต.นอกราชการ ร่วมกับพวก ฆ่าชิงทรัพย์เจ้าแม่เงินกู้อุดรฯ จับหักคอสุดโหด นำศพไปเผาอำพรางในสุสานนั่งยางที่บ้านผือ มีพยานเป็นลูกน้องที่อยู่ในเหตุการณ์ให้การมัดตัว รอง ผบ.ตร.บินมาแถลงข่าวเอง...
วันที่ 16 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี กรณีฆ่าเผานั่งยาง นางบังอร ทองอ่อน อายุ 52 ปี เจ้าแม่เงินกู้ ที่ สุสานเผานั่งยาง ป่าสงวนแห่งชาติป่ากุดจับ บ้านคำบอนเวียงชัย ต.หนองแวง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2557 ซึ่งญาติได้ร้องสื่อมวลชนว่า คดีไม่คืบหน้า คนร้ายยังลอยนวล และยังพบร่องรอยเผานั่งยางอีก 23 จุด จนตำรวจต้องรื้อคดีใหม่
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 16 พ.ค. ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ์ ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม ผกก.สส.ภ.4 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายบุญหนา ทองงาม อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 2 บ้านภูดง ต.โนนทอง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี และ ด.ต.ปราโมทย์ บุพศรี 63 ปี อดีต ผบ.หมู่ สส.สภ.บ้านผือ จ.อุดรธานี (ต้องโทษคุกเรือนจำคลองไผ่ คดียิง น.ส.วารุณี ชัยรินทร์ อายุ 40 ปี หัวหน้าส่วนการคลัง อบต.จำปาโมง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เสียชีวิต)
...
ทั้งนี้ เป็นการจับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 192 และ 193/2559 ข้อ "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อตระเตรียมการ หรือเพื่อสะดวกในการที่จะทำความผิดอย่างอื่น ร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป จนเป็นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และร่วมกันซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย" หมายจับศาล จังหวัดอุดรธานี ที่ 192 และ 193/2559
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2557 พ.ต.ท.องอาจ ปลัดขวา สว.สอบสวน สภ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ออกไปสอบสวนคดี พบศพเผานั่งยาง ในป่าสงวนแห่งชาติป่ากุดจับ หมู่ 3 ต.คำบอนเวียงชัย ต.หนองแวง อ.บ้านผือ เป็นศพ นางบังอร ทองอ่อนอายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 172 หมู่ 8 บ้านดงบัง ต.โนนทอง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี โดยญาติได้ชี้ยืนยันว่าเป็นนางบังอร ซึ่งออกไปรดน้ำผักที่กระท่อมนาท้ายหมู่บ้าน และหายตัวไป เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2557 จากการตรวจดีเอ็นเอกับลูกชาย ยืนยันว่าเป็นศพนางบังอรจริง ซึ่งตำรวจได้ตั้งประเด็นฆาตกรรม ชู้สาว ฆ่าล้างหนี้ และชิงทรัพย์ แต่ให้น้ำหนักไปที่ชิงทรัพย์ เพราะมีทรัพย์สินเงินสด 6 หมื่น สร้อยคอทองคำ 2 บาท เลสทองคำหนัก 2 บาท แหวน 3 วง หายไป แต่การสืบสวนสอบสวนยังขาดประจักษ์พยานสำคัญ จึงทำให้ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า หลังญาตินางบังอร ร้องสื่อมวลชนว่าคดีไม่คืบ คนร้ายยังลอยนวล ตำรวจจึงรื้อฟื้นคดี ออกสืบสวนหาประจักษ์พยานใหม่ โดยนำนายบุญหนา มาสอบสวน รับสารภาพว่า วันเกิดเหตุ ด.ต.ปราโมทย์ ขับรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มารับตนที่บ้าน ชวนไปฆ่าชิงทรัพย์นางบังอร ที่กระท่อมนาของผู้ตาย เพราะรู้ว่านางบังอรใส่สร้อยทอง แหวนทอง และพกเงินสดติดตัวตลอด เมื่อไปถึงพบนางบังอร กำลังรดน้ำผักและต้นไม้ ด.ต.ปราโมทย์ จึงได้จับนางบังอรหักคอ ส่วนนายบุญหนาเป็นคนดูต้นทาง เสร็จแล้วให้อุ้มร่างผู้ตายขึ้นรถกระบะของ ด.ต.ปราโมทย์ นำไปเผาทำลายที่สุสานเผานั่งยาง โดยใช้ยางรถยนต์ 2 เส้น แต่ศพไหม้ไม่หมด ด.ต.ปราโมทย์ได้นำยางรถยนต์มาอีก 1 เส้น รวมเป็น 3 เส้น เผาต่อจนกระทั่งสว่าง ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี ด.ต.ปราโมทย์ ให้ส่วนแบ่งมาเป็นเงินเพียง 14,000 บาท ส่วนเงินสดและทองรูปพรรณที่เหลือเป็นของ ด.ต.ปราโมทย์ ทั้งหมด
"คดีนี้ตอนแรกขาดประจักษ์พยาน เมื่อได้พยานที่เห็นเหตุการณ์และร่วมฆาตกรรม จนสามารถขออนุมัติหมายจับได้ ถือว่าเป็นการปิดคดีฆ่าเผานั่งยาง นางบังอร ทองอ่อน ได้สำเร็จ ส่วนคดีเผานั่งยางอีก 23 คดี ต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอ เทียบกับญาติผู้สูญหาย จึงจะรื้อคดี หรือเริ่มสืบสวนสอบสวนคดี ส่วนกลุ่มคนร้ายจะเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่ ต้องรอผลทางวิทยาศาสตร์ก่อน" รองผบ.ตร.กล่าว
ขณะที่นายบุญหนา ผู้ต้องหา กล่าวว่า สาเหตุของการฆ่าชิงทรัพย์ น่าจะมาจาก ด.ต.ปราโมทย์ ถูกให้ออกจากราชการ เพราะเป็นผู้ต้องหา คดียิง น.ส.วารุณี ชัยรินทร์ อายุ 40 ปี หัวหน้าส่วนการคลัง อบต.จำปาโมง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เสียชีวิต ไม่มีเงินใช้จ่าย จึงก่อเหตฆ่าชิงทรัพย์นางบังอร ส่วนเหตุที่ไม่กล้าให้การ และรับสารภาพในครั้งแรก เนื่องจาก กลัว ด.ต.ปราโมทย์มาก อีกทั้งถูกขู่เอาไว้ว่า หากถูกตำรวจจับก็จะต้องถูกจับทั้งคู่ ตนจึงไม่กล้าบอกใคร กระทั่ง ด.ต.ปราโมทย์ ถูกจับติดคุกในคดีอื่น จึงกล้าสารภาพ
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ ได้คุมตัวนายบุญหนาไปชี้จุดเกิดเหตุทั้งที่บ้านผู้ตาย และสุสานเผานั่งยางป่ากุดจับ เพื่อทำแผนประทุษกรรมต่อไป.