ทหารนำตัว ‘บุรินทร์ อินติน’ หนึ่งในพลเมืองโต้กลับ ส่งตัวให้ ปอท. แจ้งข้อหา ผิด "ม.112- พ.ร.บ.คอมพ์" อีกทั้ง ศาลทหารยังออกหมายจับ ผู้ทำผิด ม.112 อีก 2 ราย คือ นายหฤษฎ์ มหาทน และ นางสาวณัฎฐิกา วรธัยวิชญ์ เพิ่มเติมด้วย...
จากกรณีกลุ่มพลเมืองโต้กลับนัดทำกิจกรรม "ยืนเฉยๆ" บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท จะคุมตัวสมาชิกในกลุ่ม 16 ราย ประกอบด้วย นายอานนท์ นำภา นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ นายปกรณ์ อารีย์กุล นายอภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ นายปิยะรัฐ จงเทพ นายณัทพัช อัคฮาท นายนัชชา กองอุดม นางนัตตา ภาณุทัต นายศุภชัย เจริญศักดิ์วัฒนา น.ส.สุวิมล ไทยเจริญ นางอาภรณ์ทิพย์ ยี่ร่อสา นางยุภา แสงใส นายวศิน ไวยนิยา นายวิศรุต อนุกุลการย์ นายกิติธัช สุมาลย์นพ และนายบุรินทร์ อินติน ก่อนได้รับการปล่อยตัวออกมา โดยเหลือเพียงนายบุรินทร์ อินติน ที่ทหารคุมตัวไป และยังไม่ได้รับการปล่อยตัว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 29 เม.ย.59 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายเสนาธิการผู้บังคับบัญชา คณะทำงานพิเศษฝ่ายกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำตัว นายบุรินทร์ อินติน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหาร ข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(3) นำส่ง พ.ต.ท.สัณห์เพ็ชร หนูทอง รอง ผกก.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท.ดำเนินคดี
พ.อ.บุรินทร์ เปิดเผยว่า ทหารเฝ้าติดตามพฤติกรรมนายบุรินทร์ หลังจากสายข่าวพบการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ "Burin Intin" ในลักษณะต่อต้านการบริหารงานของรัฐบาลและ คสช.รวมทั้งมีการแชตพูดคุยกับบุคคลอื่นโดยมีข้อความลักษณะหมิ่นเบื้องสูง เข้าข่ายผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กระทั่งวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา เวลา 12.13 น. นายบุรินทร์โพสต์คลิปวิดีโอความยาวประมาณ 40 นาที พร้อมข้อความ "นู๋อยากโดนอุ้ม#ปล่อยเพื่อนเราที่โดนอุ้ม" ก่อนจะมีบุคคลเข้ามาแสดงความคิดเห็นในคลิปดังกล่าว และนายบุรินทร์ตอบความคิดเห็นในลักษณะหมิ่นเบื้องสูง หลังจากนั้นในวันเดียวกัน ช่วงเวลา 18.00 น. นายบุรินทร์ เดินทางมาร่วมกิจกรรม "ยืนเฉยๆ" ร่วมกับกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ก่อนจะเป็น 1 ใน 16 ราย ที่ถูกตำรวจ สน.พญาไท ควบคุมตัว
...
พ.อ.บุรินทร์ กล่าวว่า จากนั้นทหารจึงเดินทางไปยัง สน.พญาไท เพื่อเชิญตัว นายบุรินทร์มาควบคุมตามคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 และเมื่อวันที่ 28 เม.ย. ทหารมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปอท.เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับ นายบุรินทร์ และวันนี้ศาลทหารจะออกหมายจับ เมื่อตรวจค้นตัวกลับไม่พบโทรศัพท์ของนายบุรินทร์ จึงสอบถามนายบุรินทร์ได้ความว่าฝากโทรศัพท์ให้กับเพื่อนชื่อว่าน (นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นเพื่อนนายสิรวิชญ์ เสรีวัฒน์ หรือ จ่านิว) อยู่ระหว่างติดตามตัวนายว่าน จากนั้นจึงขยายผลตรวจค้นที่ร้านอัดรูปสปอร์ตดิจิตอลโฟโต้ ปากซอยปลูกจิตร 1 ถนนพระราม 4 แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร ที่นายบุรินทร์อาศัยอยู่ พบซีพียูคอมพิวเตอร์ จำนวน 3 เครื่อง ที่ใช้ในการเล่นเฟซบุ๊ก และขันแดง (ที่แจกในวันสงกรานต์) 1 ใบ
ด้าน นายบุรินทร์ รับว่า ตนเข้าร่วมกับกลุ่มพลเมืองโต้กลับตั้งแต่ 19 กันยายน 2558 จากนั้นจึงมีโอกาสรู้จักกับ นายสิรวิชญ์ และติดต่อพูดคุยกันมาตลอด จนรู้จักกับแม่จ่านิว และแชตพูดคุยกันผ่านเฟซบุ๊ก ชื่อ "Nuengnuch chankij" ในทำนองว่าร้ายสถาบันจริง เนื่องจากรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ตนโพสต์ข้อความต่างๆ ผ่านโทรศัพท์และโพสต์ครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 27 เมษายน ก่อนถูกจับกุม ไม่คิดว่าจะถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นสถาบัน และสาเหตุที่นำโทรศัพท์ให้เพื่อนชื่อว่านนั้น เพราะแบตโทรศัพท์จะหมด จึงให้ไปเพื่อชาร์จแบตเท่านั้น ไม่มีเจตนาจะทำลายหลักฐาน จึงอยากฝากผ่านสื่อไปถึงว่านและจ่านิวว่า ให้นำโทรศัพท์กลับมาคืนด้วย
ส่วน พ.ต.ท.สัณห์เพ็ชร กล่าวว่า รับตัวนายบุรินทร์จากทหาร ก่อนจะสอบปากคำ พร้อมตรวจสอบซีพียูคอมพิวเตอร์ที่ได้มาว่ามีข้อมูลใดบ้าง ทั้งนี้จะนำตัวนายบุรินทร์ฝากขังศาลทหารก่อนเวลา 09.00 น. ในวันที่ 30 เมษายน พร้อมขยายผลหากพบบุคคลใดเกี่ยวข้องจะดำเนินคดีทันที
เมื่อ 20.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ ศาลทหารได้อนุมัติหมายจับ นายหฤษฎ์ มหาทน และ นางสาวณัฎฐิกา วรธัยวิชญ์ ให้ฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 เพิ่มเติมตามที่พนักงานสอบสวนยื่นคำร้อง ซึ่งทั้ง 2 คนถูกออกหมายจับในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ 2550 ก่อนหน้านี้