จนท.สนธิกำลัง ปิดล้อมตรวจค้นโรงเลื่อยจักร อ.บางเลน จ.นครปฐม พบของกลางเป็นไม้หวงห้ามแปรรูปจำนวนมาก คุม 2 ราย รับเป็นเจ้าของ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ...
วันที่ 11 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ และรัฐบาล โดย ฯพณฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายในการแก้ปัญหาผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น โดยได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 324/2558 ลงวันที่ 29 ต.ค.58 กำหนดให้มีการแก้ปัญหา ผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นที่มีพฤติการณ์เป็นผู้กระทำความผิด 16 มูลฐานความผิด และ คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 13/2559 ลงวันที่ 29 มี.ค.59 เรื่อง การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดบางประการที่เป็นภยันตรายต่อความสงบเรียบร้อย หรือ บ่อนทำลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศนั้น
จากการสืบสวน หาข่าวของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง พบว่าในพื้นที่ จ.นครปฐม มีบุคคลที่มีพฤติการณ์ร่วมกัน มีไม้กระยาเลยหวงห้ามแปรรูปไว้ในความครอบครองเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด, มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้อนุญาต, มีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในความครอบครองฯ, อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และ พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้รับคำสั่งให้เข้าดำเนินการสืบสวน ปราบปราม จับกุมตัวดำเนินคดี
...
ต่อมา เวลาประมาณ 13.00 น. วันนี้ (11 เม.ย.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ควบคุม กำกับดูแลการปฏิบัติ ประกอบกำลังจาก กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร นำโดย พล.ท.ธนเกียรติ ชอบชื่นชม ผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย, กำลังจาก กอ.รมน.ศปป.4 กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส. โดย พ.ต.อ.บัญชา ปั้นประดับ รอง ผบก.ปทส., ภ.จว.นครปฐม, สภ.บางเลน
กำลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นำโดย นายสุรสิทธิ์ สิทธิกรวณิช นายอำเภอบางเลน กับพวก กำลังเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ นำโดย นายสมชัย มาเสถียร รองอธิบดีกรมป่าไม้, นายอรรถพล เจริญชันษา ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า, เจ้าหน้าที่จัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) กับพวก ได้ร่วมกันเข้าทำการตรวจค้น บ้านเลขที่ 29/1 ต.บางไทรป่า อ.บางเลน จ.นครปฐม ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทค้าไม้แห่งหนึ่ง มี นายชำนาญ สิริยะเสถียร และ นางสาวปรียากาญจน์ ผ่านสำแดง ผู้ครอบครอง และนำตรวจค้น
ผลการตรวจค้นพบ ไม้กระยาเลยแปรรูปหวงห้าม ประมาณ 700 แผ่น/เหลี่ยม (เป็นไม้พะยูง ประมาณ 20 ท่อน ที่เหลือเป็นไม้ชิงชัน) คิดเป็นปริมาตรไม้ 100 ลบ.ม. มูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท, เครื่องกระสุนปืน .357 จำนวน 14 นัด, เลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 2 ตัว จึงได้แจ้งข้อหา นายชำนาญ และนางสาวปรียากาญจน์ ว่า “ร่วมกันมีไม้กระยาเลยหวงห้ามแปรรูปไว้ในความครอบครองเกิน 0.20 ลบ.ม. โดยไม่ได้รับอนุญาต, เป็นผู้ได้รับอนุญาตมีไม้กระยาเลยแปรรูปหวงห้ามไว้ในความครอบครองโดยไม่มีหลักฐานการได้มา, มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” คุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ได้รับแจ้งว่า ที่โรงไม้ดังกล่าว มีการลักลอบนำไม้กระยาเลยมาแปรรูปโดยผิดกฎหมาย จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและเข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้น พบของกลางในที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบหลักฐาน พบใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ ออกโดย ที่ทำการศาลากลางจังหวัดเชียงราย ระบุปลายทางมายังโรงเลื่อยจักรก่อเกียรติค้าไม้ ที่เกิดเหตุ ได้สอบถามนายชำนาญ ยืนยันว่าโรงไม้ที่เกิดเหตุ เป็นของ นายก่อเกียรติ สิริยะเสถียร ซึ่งใช้อ้างเป็นหลักฐานการได้มาซึ่งไม้ของกลาง ทั้งนี้ จะได้ติดตามตัว นายก่อเกียรติ มาสอบสวน หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.