กลายเป็นคนดังไปแล้ว นักข่าวขันแดง เชียงใหม่ หลังทหารเชิญไปเข้าค่าย สื่อนอกส่อในรุมตอม อยากรู้ถูกเรียกไปทำอะไร เจ้าตัวยืนยันรายงานตามข้อเท็จจริง ประเด็นเป็นเรื่องเล่นน้ำสงกรานต์อย่างประหยัด ไม่เกี่ยวกับการเมือง...
กรณี ‘ข่าวขันแดง’ และแผ่นกระดาษอวยพรปีใหม่เมือง 2559 ที่มีข้อความและรูปถ่ายของอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งต่อมามีการนำรูปสาวเชียงใหม่ถือขันแดงมาลงในเฟซบุ๊ก และกลายเป็นข่าว (อ่าน'แม้ว-ปู' อ้อนคิดถึงคนเชียงใหม่ ส่งขันแดงอวยพรสงกรานต์)
ทำให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเห็นเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงภายในประเทศ จึงได้มีคำสั่งให้มีการดำเนินคดีกับสาวเชียงใหม่ที่ถือขันแดงและแผ่นคำอวยพรโดยใช้มาตรา 116 ดำเนินคดีทางศาลทหาร ต้องใช้หลักทรัพย์เงินสดจำนวน 100,000 บาทประกันตัวไป (อ่านสาวโพสต์คู่ขันแดง โดน ม.116 ประกันตัว 1 แสน รดน้ำมนต์ 3 วัด!)
พร้อมกันนี้ ได้ให้ทางตำรวจดำเนินการกับผู้สื่อข่าวที่นำเสนอข่าวนี้ โดยเรียกตัวมาทำประวัติ และสอบถามที่มาขอรูปภาพที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะปล่อยตัวออกมา โดยกำชับไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวในการทำข่าวที่ล่อแหลมละเอียดอ่อน ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองอีก (อ่านทหารเชิญ 2 นักข่าวเชียงใหม่เข้าค่ายสอบ 'ขันแดง' เตือนเรื่องละเอียดอ่อน)
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ ที่กลายเป็นหัวข้อ มีการพูดถึง และวิพากษ์วิจารณ์กันในโซเชียล จนตลอดทั้งวันที่ 31 มี.ค.นี้มีผู้สื่อข่าวทั้งสำนักภายในประเทศและต่างประเทศได้ติดต่อสัมภาษณ์ นายชัยพินธ์ ขัติยะ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ที่ถูกฝ่ายตำรวจนำตัวไปสอบสวนร่วมกับฝ่ายทหาร ในมณฑลทหารบกที่ 33 ค่ายกาวิละ อ.เมืองเชียงใหม่ ถึงขั้นตอนต่างๆในการดำเนินการของฝ่ายทหาร และตำรวจ
...
ทั้งนี้ นายชัยพินธ์ ได้ให้สัมภาษณ์ความรู้สึกที่ถูกเชิญหรือนำตัวเข้าไปในค่ายทหารว่า ตกใจที่เห็นมีสารวัตรทหารมากันหลายนาย ไม่นึกว่าจะเป็นเรื่องราวที่ใหญ่โต เพราะตำรวจระบุว่าเชิญตัวไปสอบในฐานะพยาน และตามกฎระเบียบใหม่ ทหารมีอำนาจเป็นพนักงานสอบสวนร่วมอยู่แล้ว ซึ่งตนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจริง และระบุว่าข่าวที่รายงานไปทางต้นสังกัดที่กรุงเทพฯ เป็นเพียงข่าวเกี่ยวกับการเล่นน้ำอย่างประหยัดในเทศกาลสงกรานต์เชียงใหม่ เนื้อหาต่างๆ ไม่ได้เป็นการชักจูงในเรื่องการเมือง ซึ่งทางฝ่ายทหารก็เข้าใจ และขอให้ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนถ่ายภาพ ทางนายชัยพินธ์ ก็ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องใดๆ ในการถ่ายภาพ และฝ่ายเจ้าหน้าที่ได้โทรศัพท์ถึงหญิงชาวเชียงใหม่ที่ตกเป็นผู้ต้องหา ซึ่งก็ยืนยันว่านายชัยพินธ์ ไม่ได้ถ่ายภาพ ทางฝ่ายทหารจึงปล่อยตัวออกมา
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศแห่งหนึ่ง ได้ขอสัมภาษณ์ความรู้สึกที่ถูกนำตัวเข้าค่ายทหาร นายชัยพินธ์ บอกว่า ทุกอย่างตนบริสุทธิ์ใจ จึงไม่กลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง แต่เสียความรู้สึกในช่วงที่ลงจากรถ เห็นทหารจำนวนมากมารออยู่ และให้ยืนถ่ายรูปทำประวัติ แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ด้วยเหตุและผล อย่างไรก็ตาม จะทำหน้าที่รายงานข่าวต่อไป ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง
ทางด้าน สาวเชียงใหม่ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในมาตรา 116 ทางผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปขอสัมภาษณ์ แต่นางจีรวรรณ ซึ่งอยู่ในช่วงประกันตัวสู้คดี ไม่ขอให้สัมภาษณ์ หรือพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีก บอกเพียงว่า ทางตำรวจให้ไปหาขันแดงและรูปภาพที่ถือในวันเกิดเหตุมาประกอบคดี แต่ตนไม่รู้จะไปหาที่ไหน เพราะหลังที่มีข่าวขันแดงเกิดขึ้น ก็ไม่ใครนำขันอออกมาอีก คงจะนำไปทิ้งหรือซ่อนหมดแล้ว ตนจึงไม่รู้จะไปหาขันที่ไหน ซึ่งก็อยากให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี.