กรธ. เผย เอกสารข้อเสนอจาก คสช. ขอ ส.ว.ลากตั้ง 250 คน นั่งคุมงานบริหาร-อภิปรายซักฟอก แต่โหวตนายกฯ ไม่ได้ ผบ.เหล่าทัพ นั่งเก้าอี้โดยตำแหน่ง เปิดช่องนายกฯ คนนอก ตัดเสนอ 3 ชื่อ ยันไม่สืบทอดอำนาจ แทรกแซง ลต.-ตั้ง รบ.ใหม่
เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า กรธ. ได้เผยแพร่เอกสารข้อเสนอแนวทางการปรับปรุงบทเฉพาะกาลในร่างรัฐธรรมนูญ จาก คสช. ลงวันที่ 13 มี.ค. 59 ด่วนที่สุด ที่ คสช.(สลธ.)/145 ลงนามโดย พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช. เรื่อง ข้อเสนอแนวทางการปรับปรุงบทเฉพาะกาลในร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 6 หน้า ส่งถึง กรธ. วันที่ 14 มี.ค. เวลา 10.16 น. มีสาระสำคัญ คือ ข้อเสนอดังกล่าวได้จากการประชุมหารือภายใน ระหว่างหัวหน้า คสช., นายกรัฐมนตรี, ประธาน สนช. และ ประธาน สปท. ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ประชุมเชื่อว่า เมื่อเข้าสู่โรดแม็ประยะที่ 3 พ.ศ. 2560 จะมีการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาล และเปลี่ยนผ่านไปสู่ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติชุดใหม่ ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ประเทศอาจจะประสบปัญหารุนแรง ไม่สงบเรียบร้อย และเกิดเงื่อนไขความขัดแย้งขึ้นใหม่ และปัญหาอาจหวนกลับเข้าสู่วงจรเดิม
คสช.จึงเห็นว่าในช่วงดังกล่าวควรเขียนรัฐธรรมนูญในบทเฉพาะกาล ให้มี ส.ว.ชุดแรกมาจากการสรรหา ให้มีจำนวน 250 คน มาจากคณะกรรมการที่เป็นอิสระ และเป็นกลาง 8-10 คน มีวาระ 5 ปี เพื่อประโยชน์ในการดูแลพิทักษ์รักษาความมั่นคง และความสงบเรียบร้อย ให้ปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.สส., ผบ.ทบ., ผบ.ทร., ผบ.ทอ. และ ผบ.ตร. เข้ามาเป็น ส.ว. ได้โดยตำแหน่ง และกรณีตำแหน่งดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งราชการไป ก็ให้ผู้ดำรงตำแหน่งใหม่เข้ามาแทน และไม่มีอำนาจพิเศษกว่า ส.ว.คนอื่นๆ ทั้งนี้ วุฒิสภาในวาระแรกไม่มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรี แต่มีหน้าที่พิทักษ์รัฐธรรมนูญ ดูแลขับเคลื่อนการปฏิรูปและยุทธศาสตร์ชาติ รวมทั้งมีหน้าที่ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน เช่น อภิปรายไม่ไว้วางใจ ทำหน้าที่ตามกระบวนการยุติธรรมตามสมควร
...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เอกสารดังกล่าวยังกำหนดวิธีการเลือกตั้ง ส.ส. ควรให้ใช้บัตร 2 ใบ ใบแรกใช้เลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต 350 คน และให้เขตเลือกตั้งใหญ่ขึ้น มี ส.ส.ไม่เกิน 3 คน ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งใช้สิทธิเลือกได้เพียง 1 คน แล้วให้นับคะแนนเรียงลำดับลดหลั่นจนได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ ใบที่สอง สำหรับเลือก ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 150 คน และไม่เห็นด้วยที่กำหนดให้พรรคการเมืองต้องเสนอรายชื่อนายกรัฐมนตรี 3 ชื่อก่อนการเลือกตั้ง เพราะอาจจะไม่เหมาะสม และอ่อนไหวต่อระยะเปลี่ยนผ่าน รวมทั้งอาจทำให้เกิดปัญหาภายหลัง เพราะทำให้เข้มงวด ผู้ถูกเสนอชื่ออาจขัดคุณสมบัติภายหลัง รวมทั้งอาจไม่มีพรรคการเมืองใดไม่ได้เสียงข้างมาก จนต้องจัดรัฐบาลผสม ทำให้ตกลงรายชื่อไม่ได้จนทำให้เกิดปัญหา อีกทั้ง การนำกติกาใหม่ๆ มาใช้อาจเป็นอีกกับดักหนึ่งที่ปิดทางออกในยามวิกฤติ จนทำให้การเมืองเดินหน้าต่อไปไม่ได้ จึงเห็นว่าควรงดเว้นไม่นำเรื่องการแจ้งรายชื่อนายกรัฐมตรี 3 รายชื่อมาบังคับใช้ช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยให้บัญญัติไว้ในบทเฉพาะกาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงสุดท้ายของเอกสาร ระบุว่า "คสช. ขอเรียนว่าอย่าได้หวาดระแวงว่าจะมีการสืบทอดอำนาจ คสช. ยินดีจะพ้นจากตำแหน่ง และยุติอำนาจหน้าที่ทั้งปวง ตามกำหนดเวลาในโรดแม็ป และในร่างรัฐธรรมนูญ โดยจะไม่เข้ามาแทรกแซงการจัดการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลใหม่ การประคับประคองสถานการณ์ต่อจากนั้นเป็นเรื่องของรัฐบาลใหม่ รัฐสภาใหม่ ซึ่งรวมถึงวุฒิสภาด้วย เพื่อให้บรรลุเจตนารมณ์ในการยึดอำนาจ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และความมั่นคงแห่งชาติ คสช.จึงขอเสนอแนวทางการปรับปรุงบทเฉพาะกาลในร่างรัฐธรรมนูญ ตามผลการหารือมาเพื่อกรุณาพิจารณา"