รองโฆษก วท.เผย เหตุเรือโดยสารระเบิด อาจมาจากแก๊สรั่ว หรือถังแก๊สมีปัญหาไม่สามารถรองรับความดันได้ ชี้ การดัดแปลงเครื่องยนต์ เพื่อลดปริมาณการใช้น้ำมัน ทำให้เผาไหม้ไม่ดี ใช้ไปนานๆ เสี่ยงอุบัติเหตุ
วันที่ 5 มี.ค. นายวรวรงค์ รักเรืองเดช รองโฆษกกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เปิดเผยถึงกรณีเหตุระเบิด ของเรือโดยสาร ที่ท่าเรือวัดเทพลีลา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 มีนาคม ว่า เรือโดยสารดังกล่าว ติดตั้งเชื้อเพลิง 2 ระบบ คือ ดีเซล และแก๊สแอลเอ็นจี ซึ่งจากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้น คาดว่าน่าจะเกิดจากการระเบิดของถังแก๊สเชื้อเพลิงบริเวณท้ายเรือ โดยมีผู้สังเกตว่า มีควันและกลิ่นแก๊สท้ายเรือ บริเวณที่ตั้งถังแก๊ส ในขณะที่เจ้าของเรือให้ข้อมูลว่า เหตุเกิดจากบริเวณห้องเครื่องยนต์
รองโฆษก วท. กล่าวว่า โดยปกติแก๊สธรรมชาติเหลว หรือ แอลเอ็นจี เป็นแก๊สที่มีสัดส่วนของแก๊สมีเทน มากถึง 80-90% ซึ่งเป็นแก๊สที่ไวไฟกว่าแก๊สแอลพีจี หรือแก๊สหุงต้ม สามารถติดไฟได้ก็ต่อเมื่อมีปริมาณแก๊สรั่วไหลในอากาศมากถึงร้อยละ 5-15 ของปริมาตรของอากาศ ซึ่งหากมีประกายไฟในบริเวณที่เกิดเหตุ ก็อาจจะทำให้เกิดการติดไฟที่ลุกลาม สังเกตเป็นลูกไฟขนาดใหญ่ได้ อีกสาเหตุหนึ่งของการระเบิดอาจมาจากการที่ถังบรรจุแก๊สธรรมชาติเหลวเกิดปัญหา ทำให้ไม่สามารถรองรับความดันของแก๊สธรรมชาติได้
“โดยปกติการดัดแปลงเครื่องยนต์เชื้อเพลิง 2 ระบบ เครื่องยนต์ดีเซล มีหลักการทำงานที่เริ่มต้นด้วยการฉีดอากาศเข้าไปในกระบอกสูบของเครื่องยนต์ แล้วลูกสูบจะอัดอากาศให้มีปริมาตรลดลง ซึ่งจะทำให้เกิดความร้อนสูงขึ้น จากนั้นจะฉีดละอองน้ำมันดีเซลที่เป็นฝอยเล็กๆ เข้าไป เมื่อละอองน้ำมันสัมผัสกับอากาศที่ร้อนสูงมากกว่า 500 องศา จะติดไฟและก่อให้เกิดการลุกลาม ส่วนเครื่องยนต์ที่ดัดแปลงจะใช้แก๊สผสมกับอากาศ ซึ่งจะทำให้ลดการใช้น้ำมันดีเซลลง แต่จะทำให้เกิดการเผาไหม้ที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่า และทำให้เครื่องยนต์สึกหรอได้เร็วขึ้น ซึ่งหากใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน โดยไม่ได้มีการดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสม จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ” นายวรวรงค์ กล่าว.
...