ขู่พวก‘ควํ่า’ประชามติ ชิงแก้รธน.5ประเด็น

“บิ๊กตู่” นั่งหัวโต๊ะถกร่วม ครม.-คสช. “วิษณุ” สรุปแก้ รธน.ชั่วคราว 5 ประเด็น ผ่าทางตันใช้เสียงข้างมากผู้มาใช้สิทธิประชามติ ร่าง รธน. ทุบโต๊ะไม่นับบัตรโหวตโนดัดหลังฝ่ายต้าน พวกรณรงค์คว่ำต้องทำในเวทีที่ กกต.จัดเท่านั้น เปรียบไทยเหมือน “พระลักษมณ์” ต้องหอกโมกขศักดิ์ สนช.-สปท.ดี๊ด๊าแห่หนุนโมเดล “บิ๊กป้อม” ให้ ส.ว.ลากตั้งคุมเกมช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปี “วันชัย” ฉวยจังหวะขอสิทธิจิ้มเลือกนายกฯ “พีระศักดิ์” อ้อนขอเพิ่มโควตาภูธร “มีชัย” ชิ่งตอบสูตร ส.ว.ลากตั้ง “บิ๊กป้อม” บอกพูดก่อนไม่ได้เดี๋ยวเขาโกรธเอา กรธ. ตีกรรเชียงยังแค่ความเห็นส่วนตัว “นิคม” ดักคอน่าคิดร่างให้เข้าทางใคร “นิพิฏฐ์” เหน็บจัดอันดับใหม่ไทยถูกลดเกรดไปต่อท้ายแถวพม่า แฉเล่ห์ทำให้คนหน่ายระบบเลือกตั้ง

หลังจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ระบุว่าจะให้มี ส.ว.แต่งตั้งล้วนๆ เพื่อควบคุมกลไกในช่วงระยะเปลี่ยนผ่าน 5 ปี ตามโรดแม็ปของ คสช.นั้น ล่าสุด ทั้ง สนช.และ สปท. ต่างออกมาแสดงความเห็นสนับสนุน พร้อมขอสิทธิในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย

“บิ๊กตู่” หัวโต๊ะถกแก้ รธน.ชั่วคราว

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 มี.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี (ครม.) และ คสช. โดยมีสมาชิก คสช. อาทิ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช. พล.อ.สมหมาย เกาฏีระ ผบ.ทหารสูงสุด นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ในฐานะสมาชิก คสช. เข้าร่วมหารือเพื่อพิจารณาการปรับแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ว่าด้วยการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หลัง ครม.ได้ให้คณะกรรมการกฤษฎีกา ไปปรับแก้เนื้อหาตามมติ ครม.

...

ครม.-คสช.ทุบโต๊ะไม่นับบัตรโหวตโน

จากนั้นเวลา 15.30 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมร่วม ครม.กับ คสช. ว่า ได้ชี้แจงความจำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว โดยแก้ 5 ประเด็น คือ 1.การนับคะแนนเสียงที่จะถือว่าผ่านประชามติ จากเดิมที่ไม่มีความชัดเจน จึงให้ยึดเสียงข้างมากของผู้ใช้สิทธิ แต่กังวลว่าอาจเกิดความเข้าใจไม่ตรงกันอีก คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จึงเสนอให้ใช้คำว่าคะแนนเสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธิออกเสียงที่เห็นชอบ ส่วนบัตรเสียและบัตรโหวตโนไม่นับเป็นคะแนน คำนี้ถือว่าปิดช่องโหว่ข้อโต้แย้งแล้ว 2.อายุของผู้มีสิทธิลงประชามติ ให้ยึดผู้มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ในวันลงประชามติ 3.การแจกจ่ายรัฐธรรมนูญให้ได้ร้อยละ 80 ของครัวเรือน กรธ.กำลังทำคำอธิบายร่างรัฐธรรมนูญโดยละเอียด จึงจะใช้ตัวนี้ไปแจกจ่ายเผยแพร่ทางเว็บไซต์ และเผยแพร่ทางสื่อมวลชนแทน ดังนั้น จึงไม่ต้องแจกจ่ายให้ได้ร้อยละ 80 ของครัวเรือน

ค้านร่าง รธน.ได้ในเวทีที่ กกต.จัดให้

นายวิษณุกล่าวอีกว่า 4.คำถามพ่วงประชามติ ให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นผู้ตั้งคำถาม แล้วส่งไปยัง กกต.ภายใน 15 วันหลังจากแจกจ่ายร่างรัฐธรรมนูญ และ 5.หลักเกณฑ์การรณรงค์ ให้เป็นไปตามที่ กกต.กำหนด ซึ่งอยู่ระหว่างยกร่าง พ.ร.บ. โดยจะเป็นมาตรฐานเดียวกับการเลือกตั้งทั่วไป ประกอบกับหลักเกณฑ์การออกเสียงประชามติปี 50 การชักชวนให้ต่อต้านการลงประชามติถือเป็นความผิด แต่การต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญถ้าพูดในเวทีที่ กกต.จัดไม่มีปัญหา เพราะ กกต.จะดูแลกติกา แต่ถ้าไปจัดกันเองต้องรับความเสี่ยงและความรับผิดชอบเอง เพราะมีกฎหมายหลายฉบับ ทั้งเรื่องหมิ่นประมาท พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ขณะนี้ถือว่าสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้คำตอบในสิ่งที่ติดค้างอยู่ เข้าใจว่าภายในสัปดาห์นี้จะยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวเสร็จ จากนั้นส่งมายังตนเพื่อส่งต่อให้นายกรัฐมนตรีเสนอไปยัง สนช. พิจารณาภายใน 15 วัน

อุบไต๋ทางออกหากประชามติถูกคว่ำ

นายวิษณุกล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นทางออกถ้าร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามตินั้น ยังไม่มีการพูดคุยกัน แต่ถ้าสุดท้ายผ่านประชามติจะได้ไม่ต้องคิดอะไร หรือถ้าไม่ผ่านจะได้เร่งแก้ไข ตอนนั้นคงรู้คำตอบว่าจะใช้วิธีการอย่างไร หากบอกไปตอนนี้จะเกิดอคติ และยังไม่รู้ว่าวิธีการใดเป็นวิธีการที่ดีที่สุด เรายังไม่รู้ว่าถ้าร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านเป็นเพราะคนไม่ชอบประเด็นอะไร จะได้แก้ไขได้ถูกจุด แต่ยืนยันถึงอย่างไรจะมีการเลือกตั้ง ส.ส.ในปี 60 แน่นอน เพราะเป็นมติของที่ประชุม

เปรียบไทยเหมือนถูกหอกโมกขศักดิ์

“เปรียบสถานการณ์ในประเทศไทยกับวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ วันนี้ประเทศไทยเหมือนกับพระลักษมณ์ที่โดนหอกโมกขศักดิ์ ต้องมียาคือ สังขรณีและตรีชวา ผสมกับน้ำปัญจมหานที และต้องทำก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้น หนุมานจึงต้องไปห้ามไว้ก่อน โดยยาสังขรณีเข้าใจว่าคือประชา ส่วนตรีชวานั้นคือรัฐต้องร่วมกัน แล้วไปเอาน้ำปัญจมหานทีมาผสม ซึ่งตนไม่ทราบว่าแม่น้ำ 5 สายคืออะไร” เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วในประเทศไทยใครคือหนุมาน นายวิษณุตอบว่า “ไม่บอก แต่ต้องไปบอกก่อนว่าอย่าเพิ่งออกมามากนัก” จากนั้นนายวิษณุย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า “พระอาทิตย์สีอะไร พระจันทร์สีเหลือง ทีนี้ใครคือหนุมาน ผมไม่ทราบ”

สั่งหาช่องลดงบฯทำประชามติ

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯขอความร่วมมือ คสช. รณรงค์ให้ประชาชนไปลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ทำอย่างไรถึงจะให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิลงประชามติให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เช่น เรื่องการออกหลักเกณฑ์ วิธีการและกฎระเบียบต่างๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจแก่ทุกฝ่ายว่าการลงประชามติมีความโปร่งใส ชัดเจน จะได้ไม่ต้องถกเถียงกันต่อไป ส่วนงบประมาณการทำประชามติ จากตัวเลขล่าสุดที่ กกต.เสนอมา 3 พันล้านบาทนั้น ถือเป็นตัวเลขที่มาก ที่ประชุมให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปหารือปรับลด เช่น เมื่อไม่จำเป็นต้องแจกจ่ายร่างรัฐธรรมนูญถึงร้อยละ 80 ของครัวเรือนทั่วประเทศแล้ว จะลดงบฯได้เท่าใด

ร่วมกิจกรรมพีอาร์งานอีเวนต์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนประชุมร่วม ครม. คสช. พล.อ.ประยุทธ์ได้ร่วมรณรงค์ประชาสัมพันธ์กิจกรรมของหน่วยงานต่างๆ โดย พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน นำคณะเข้าพบเพื่อประชาสัมพันธ์การจัดแสดงผลิตภัณฑ์ด้านพลังงาน “เพลินพลังงาน งานวิจัยขายได้” ในโครงการตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ต่อมา น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นำคณะเข้าพบเพื่อประชา-สัมพันธ์การจัดกิจกรรม “งานเทศกาลนวัตศิลป์นานาชาติ ครั้งที่ 5” ภายใต้แนวคิด “วิถีใหม่ ไทยนวัตศิลป์” สื่อถึงงานหัตถศิลป์สมัยใหม่ เรียนรู้ผลงานชั้นครู ต่อยอดสู่กระบวนการคิด และการออกแบบใหม่ๆ จัดขึ้นวันที่ 10-13 มี.ค. ที่ศูนย์ประชุมไบเทค บางนา จากนั้น นพ.พิทยภูมิ ภัทร-นุทาพร ผอ.โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และคณะผู้บริหารเข้าพบนายกฯ ขอรับบริจาคเงินสมทบเพื่อสนับสนุนโครงการจัดสร้างโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ส่วนขยาย และมอบเหรียญที่ระลึก “พระพุทธสิรินาคเภษัชยคุรุจุฬาภรณ์”

พรีเซ็นเตอร์แว่นส่องสุริยุปราคา

ต่อมาสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) นำคณะเข้าพบเพื่อประชาสัมพันธ์การจัดแสดงนิทรรศการ รณรงค์กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ภายใต้โครงการ “ปิดเทอมนี้...สนุกคิด...สนุกเรียนรู้...สู่อนาคต” ระหว่างที่นายกฯเดินชมนิทรรศการ มีนักเรียนจาก จ.ฉะเชิงเทรา นำอุปกรณ์ดาราศาสตร์ กล้องโทรทรรศน์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อใช้ส่องดูสุริยุปราคาที่จะเกิดขึ้นวันที่ 9 มี.ค. มาจัดแสดง นายกฯได้ทดลองใช้อุปกรณ์แว่นส่องสุริยุปราคาส่องดูพระอาทิตย์ และทดลองกล้องรูเข็มที่ใช้ส่องดูดาว ที่นักเรียนประดิษฐ์ขึ้น บนตัวกล้องเขียนข้อความว่า “we love ลุงตู่” พร้อมกับหันกล้องมาที่กลุ่ม ผู้สื่อข่าว พร้อมกล่าวว่า “ไหนลองส่องดูนักข่าวสิ”

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ฝากทุกคนเน้นเรื่องสเต็มศึกษา (STEM) หรือองค์ความรู้ทางวิชาการ ศาสตร์ที่เชื่อมโยงบนโลกของความเป็นจริง อย่าลืมเรื่องลดเวลาเรียน เพิ่มการเรียนรู้ ฝึกฝนและคิดให้เร็ว เขียนเร็ว ไม่ใช่ดูแต่โลกโซเชียลมีเดียแต่เขียนบรรยายไม่ได้ ย่อความไม่เป็น ที่สำคัญอย่าลืม 3 สถาบันหลักชัย คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และต้องเรียนประวัติศาสตร์เพื่อให้รู้ความเป็นมาของชาติไทย เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และยึดตามหลักค่านิยม 12 ประการ

ยันไม่จำกัดสิทธิทั้งกลุ่มหนุน-ต้าน

ที่สำนักงาน กกต. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า หลัง การหารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เห็นพ้องให้นำร่างประกาศ กกต. ว่าด้วยหลักเกณฑ์วิธีการออกเสียงประชามติ และร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความเรียบร้อยในการออกเสียงประชามติ มารวมเป็นฉบับเดียวกัน เรียกว่าร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะดำเนินการเสร็จ ซึ่งจะมีความชัดเจนมากขึ้น เช่น วิธีการนับคะแนน วิธีการตัดสิน รวมถึงบทกำหนดโทษที่ปรับให้เข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ แต่ยืนยันว่าไม่จำกัดสิทธิและเสรีภาพประชาชนต่อการแสดงความเห็นหรือวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งฝ่ายเห็นด้วยและฝ่ายไม่เห็นด้วย แต่ต้องไม่กล่าวร้าย ให้ความเท็จ ใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ หรือขัดขวางกระบวนการต่างๆ

กกต.ถกงบประชามติพบซ้ำซ้อน

นายธนิศร์ ศรีประเทศ ผู้ทรงคุณวุฒิ กกต. กล่าวว่า ที่ประชุม กกต.พิจารณาเรื่องการยื่นคำของบประมาณการออกเสียงประชามติพบว่าหลายรายการซ้ำซ้อนกันอยู่ จึงมอบให้สำนักงานเลขาธิการ กกต. กลับไปพิจารณาอีกครั้ง รวมถึงประเด็นที่เป็นข่าวตามสื่อว่า กกต.ถังแตก จะตัดเงินค่าตอบแทนพนักงาน ที่ประชุม กกต.จึงสั่งการให้รักษาการเลขาธิการ กกต.แถลงทำความเข้าใจ และทำหนังสือแจ้งบุคลากรให้เกิดความมั่นใจว่า สิทธิที่เคยได้ยังมีเหมือนเดิม อย่าตกใจ กกต.สามารถบริหารส่วนนี้ได้ ขณะนี้ส่งคำของบประมาณปี 2560 ไปแล้ว วงเงิน 3,400 ล้านบาท เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการบริหารงานผิดพลาด แต่เกิดจากการจัดสรรเงินจากสำนักงบฯไม่เพียงพอ

สนช.แนะแก้ปมประชามติให้ชัด

ที่รัฐสภา นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกวิปสนช. แถลงว่า ที่ประชุมวิป สนช.หารือเพื่อเตรียมความพร้อมการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว หาก ครม.เสนอมายัง สนช. คาดว่าจะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้า ส่วนหลักเกณฑ์การจัดทำประชามติไม่ทราบว่าสุดท้ายจะออกเป็น พ.ร.บ.หรือประกาศ กกต. ต้องขึ้นอยู่กับเนื้อหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว ซึ่งควรกำหนดให้ชัดเจน สำหรับกระบวนการพิจารณาเมื่อได้รับร่างแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราว มาแล้ว สนช.จะพิจารณา และทิ้งไว้ 15 วัน ก่อนลงมติ เหมือนการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวเมื่อปีที่ผ่านมา

“มีชัย” ชิ่งตอบสูตร ส.ว.ลากตั้ง

วันเดียวกันเวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญในหมวดรัฐสภา โดยนายมีชัยให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ระบุจะให้มี ส.ว.จากการสรรหาทั้งหมดในช่วงการเปลี่ยนผ่าน 5 ปี ว่า กรธ.ยังไม่ได้หารือเรื่องนี้ ข้อเสนอดังกล่าวไม่ได้ระบุให้สรรหา ส.ว.เฉพาะในช่วงเปลี่ยนผ่าน แต่จะเอา ส.ว.จากการสรรหาทั้งหมด เมื่อถามว่าเหตุผลฟังขึ้นหรือไม่ นายมีชัยตอบว่า กรธ.เห็นว่าที่กำหนดให้ ส.ว.มาจากการคัดเลือกกันเองถือว่าดีแล้ว เหมือนกับประเด็นอื่นที่ กรธ.พิจารณาดีแล้ว กรธ.ต้องไปหารือกันก่อนคาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์จะมีความชัดเจน

พูดก่อนไม่ได้เดี๋ยวเขาโกรธเอา

เมื่อถามว่า หากเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของที่มา ส.ว.ทั้ง 2 แบบ แตกต่างกันอย่างไร นายมีชัยตอบว่า คนที่เสนอมาคงเปรียบเทียบแล้ว เราไม่ได้เสนอ เมื่อถามย้ำว่า สองแนวคิดนี้จะไปด้วยกันได้หรือไม่ ประธาน กรธ.ตอบว่า ยังไม่ได้คุยกัน คงตอบอะไรก่อนไม่ได้ เดี๋ยวเขาโกรธเอา คนที่เสนอมาคงคิดว่าเสนอมาแล้วดี เมื่อถามว่าถ้าแก้เรื่องที่มา ส.ว.ตามข้อเสนอ ต้องไปแก้เรื่องอำนาจหน้าที่ด้วยหรือไม่ นายมีชัยตอบว่า ยังตอบอะไรไม่ได้ ยังไม่ได้มีหารือกัน ส่วนการเก็บตัวร่างรัฐธรรมนูญช่วงโค้งสุดท้ายระหว่างวันที่ 23-26 มี.ค. ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กรธ.จะไปนั่งอ่านทบทวนกันให้ดี พิมพ์เสร็จแล้วจะไปดูว่าตกหล่นตรงไหนบ้าง การเว้นวรรค คำถูก คำผิด จะไม่มีประเด็นที่แขวนไว้จากที่กรุงเทพฯแล้วนำไปพิจารณาต่อ

ตีกรรเชียงขอดูข้อดีข้อเสียก่อน

นายอุดม รัฐอมฤต โฆษก กรธ. กล่าวว่า กรธ.ต้องขอดูในรายละเอียดก่อนว่าหากให้ ส.ว.มาจากการสรรหาทั้งหมดในช่วงเปลี่ยนผ่าน จะมีข้อดีและข้อเสียอย่างไร เวลานี้ก็ยังตอบไม่ได้ว่าจะปรับตามความเห็นของ พล.อ.ประวิตรได้หรือไม่ ยืนยันว่าการปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญของ กรธ. ได้ทบทวนทุกข้อเสนอจากส่วนต่างๆอย่างละเอียดรอบคอบที่ผ่านมา กรธ.ปรับแก้หลายมาตราในส่วนของหมวดของสิทธิปวงชนชาวไทย มีการเพิ่มเติมสิทธิประโยชน์ประชาชนมากขึ้นกว่าเดิม น่าจะเป็นที่พอใจของประชาชนอย่างมาก

กรธ.แจงแค่ความเห็น “บิ๊กป้อม”

นายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษก กรธ. กล่าวว่า ยังเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของ พล.อ.ประวิตร ถือเป็นข้อเสนอหนึ่งที่ กรธ.รับฟังไว้ แต่ยังพิจารณาไม่ถึงที่มา ส.ว. ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะปรับแก้หรือกำหนดอย่างไร ต้องนำข้อเสนอจากทุกภาคส่วนมาประมวลข้อดีข้อเสียก่อน ยืนยันว่า กรธ.พิจารณาทุกข้อเสนอแนะ ไม่ใช่ให้ความสำคัญข้อเสนอใดเป็นพิเศษ เมื่อถามว่า ถือเป็นการส่งสัญญาณจากรัฐบาลและ คสช.หรือไม่ นายอมรตอบว่า ไม่ใช่ สัญญาณอะไร เป็นแค่ความเห็นของ พล.อ.ประวิตร

ยืนยันว่าไม่มีใครหรืออะไรมากดดันการทำงานของกรธ. ได้ กรธ.เป็นอิสระไม่มีใครมาครอบงำหรือสั่งการเราได้ จะปรับแก้ในเรื่องนี้หรือไม่ขึ้นอยู่กับมติของ กรธ.เอง ขณะนี้การพิจารณายังอยู่ในหมวดรัฐสภา โดยหลักการสำคัญยังคงเดิมไม่ได้ปรับแก้อะไร

รอสัญญาณกดปุ่มจาก ครม.-คสช.