ภาพจาก สภ.ปักธงชัย
ลุงสุดโหด! สารภาพลวงหลานสาวไปฆ่าทิ้ง กลางป่าละเมาะ ที่โคราช ปมทะเลาะเงินค่านายหน้าที่ดิน ใช้ไม้ตีเข้าที่ศีรษะจนล้มลง ขณะเหยื่อไม่ได้ระวังตัว ก่อนตีซ้ำที่ใบหน้าแล้วลากร่างผู้ตายไปหมกพงหญ้า ก่อนนำทรัพย์สินไปเผาทิ้ง
เมื่อวันที่ 30 มกราคม 59 เวลาประมาณ 17.30 น. ขณะที่ ร.ต.อ.นคร ถนอมทรัพย์ พนักงานสอบสวน สภ.ปักธงชัย อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ปฏิบัติหน้าที่เวรสอบสวน ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบศพผู้เสียชีวิต เป็นหญิง สภาพมีร่องรอยถูกทำร้ายบริเวณใบหน้า และศีรษะจนถึงแก่ความตาย ไม่พบหลักฐานใดๆ ในตัว จึงไม่ทราบว่า ผู้ตายเป็นใคร และไม่ทราบว่า ถูกผู้ใดทำร้าย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น จึงร่วมกันตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พร้อมส่งศพผู้เสียชีวิตชันสูตรที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา เพื่อตรวจสอบว่าผู้ตายเป็นใคร พร้อมแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด ประชาชนในพื้นที่ประชาสัมพันธ์แจ้งข้อมูลข่าวสาร เพื่อสืบหาผู้ตายเป็นใคร หรือหาญาติผู้ตาย เพื่อจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ต่อมา เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 59 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบข้อมูลว่า ผู้เสียชีวิตคือ น.ส.สุดารัตน์ หรือ รัตน์ เรียบเจิม อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 165 ม.2 บ้านหนองหญ้าขาว ต.ธงชัยเหนือ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เมื่อญาติตรวจสอบหลักฐานบางอย่าง และยืนยันว่า ผู้เสียชีวิต คือ น.ส.สุดารัตน์ จริง จึงได้เชิญเจ้าของบ้านที่ น.ส.สุดารัตน์ มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน คือ นายสลัก งอยตะคุ (มีศักดิ์เป็นลุง) อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 165 ม.2 บ้านหนองหญ้าขาว ต.ธงชัยเหนือ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา มาสอบถามข้อมูลรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับ น.ส.สุดารัตน์ แต่นายสลัก ไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยอ้างเพียง ว่า น.ส.สุดารัตน์ มาขอโอนชื่อเข้าทะเบียนบ้านของตน เพื่อใช้ในการขอกู้ยืมเงินจากกองทุนหมู่บ้าน และ น.ส.สุดารัตน์ ก็ไม่ได้พักอาศัยในบ้านเลขที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้เฝ้าติดตามดูความเคลื่อนไหวของ นายสลัก ตลอดเรื่อยมา และได้รับแจ้งจากสายลับ (ไม่ประสงค์จะออกนาม) ว่า นายสลัก มีพฤติกรรมจะหลบหนีออกจากหมู่บ้าน เนื่องจากมีบุตรสาวและบุตรเขย ได้นำรถยนต์มารอรับ
...
กระทั่ง เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 59 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนายสลัก มาสอบสวนซักถามรายละเอียดอีกครั้ง จนกระทั่งนายสลัก ยอมรับสารภาพว่า ตนเองได้ฆ่า น.ส.สุดารัตน์ จริง โดยกระทำเพียงคนเดียว โดยให้การเบื้องต้นว่า เมื่อวันที่ 29 มกราคม 59 เวลาประมาณ 19.30 น.ตนเองได้ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ หมายเลขทะเบียน งลท 169 นม โดยสวมเสื้อแขนยาว ลายน้ำตาล ไปรับ น.ส.สุดารัตน์ ที่รออยู่ริมถนนหน้า รพ.ปักธงชัย เพื่อไปส่งที่บ้านพัก โดยนายสลัก เป็นผู้ขับขี่ ส่วน น.ส.สุดารัตน์ นั่งซ้อนท้าย ระหว่างทางได้ทะเลาะกัน เกี่ยวกับเรื่องเป็นนายหน้าที่ดิน ซึ่งบุคคลทั้งสองมีข้อตกลงกันก่อนหน้านี้แล้ว
นายสลัก โมโหจึงแกล้งบอกว่า จะพาไปดูแปลงที่ดินที่เจ้าของจะขาย จึงขี่ จยย.ไปบริเวณป่าละเมาะ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ บ้านขอนขว้าง ม.9 ต.เมืองปัก อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา จากนั้นได้จอดรถ พร้อมแกล้งเดินชี้ไปแปลงที่ดิน ซึ่งชาวบ้านปลูกอ้อยไว้ว่า เจ้าของแปลงที่ดินจะขาย เมื่อ น.ส.สุดารัตน์ เผลอไม่ทันระวังตัว ตนเองได้ใช้ท่อนไม้ที่เตรียมไว้ตีที่ศีรษะของ น.ส.สุดารัตน์ จนล้มลงและตีที่ใบหน้าซ้ำอีก จากนั้น จึงลากร่างของ น.ส.สุดารัตน์ ออกจากทางเดินไปซ่อนไว้ห่างจากทางเดินพอประมาณ พร้อมได้นำทรัพย์สินหลายรายการของ น.ส.สุดารัตน์ ไปเผาทิ้ง เพื่อมิให้ใครรู้เห็น หรือ ติดตามได้ จนกระทั่งวันนี้ (13 ก.พ.59) จึงให้การรับสารภาพ พร้อมได้นำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไป ตรวจยึดเศษชิ้นส่วนทรัพย์สินต่างๆ ของ น.ส.สุดารัตน์ ที่ตนนำไปเผาทำลายทิ้ง ประกอบรับคำสารภาพ.