เจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหา 'น้องดีเจ' หายจากบ้าน 6 วัน จนพบตัวอยู่ในป่ารกหลังบ้าน ที่ภูเก็ต สภาพผอม อิดโรย ยังไม่พูดอะไร เร่งนำส่ง รพ. ...

ตามที่ น.ส.เสาวลักษณ์ ไชโย อายุ 23 ปี พนักงานห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ร้องขอความช่วยเหลือผ่านไปทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ขอให้ช่วยตามหา "น้องดีเจ" หรือ ด.ช.เจษฎากร ไชโย อายุ 3 ขวบ 9 เดือน บุตรชายที่หายออกจากบ้านเลขที่ 5/3 ม.3 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงใกล้เที่ยงวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยคนในครอบครัว ชาวบ้าน ตำรวจ เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา เร่งระดมค้นหาในพื้นที่ตลอด 5 วันที่ผ่านมา แต่ยังไร้วี่แวว 


ความคืบหน้า เมื่อเวลาประมาณ 11.40 น.  วันที่ 9 ม.ค. เข้าสู่วันที่ 6 ของการหายตัว มูลนิธิกระจกเงา ได้แจ้งข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ว่า "พบตัวน้องดีเจแล้ว เมื่อสักครู่ ที่ป่ารกหลังบ้านเด็ก น้องปลอดภัยครับ รายละเอียดจะแจ้งต่อไปครับ"

ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา นายสุจิตร ไชโย อายุ 53 ปี ตาของน้องดีเจ และ เจ้าโจ้ สุนัขที่เลี้ยงไว้เป็นเพื่อนน้องดีเจ ได้ตั้งแถวเรียงหน้ากระดาน เพื่อปูพรมค้นหาตัวน้องดีเจ ภายในป่าละเมาะใกล้บ้านพักที่เป็นผืนป่าต่อเนื่องยาวไปถึงภูเขาทางด้านหลัง โดยเป็นป่าสลับกับสวนผลไม้ สวนยางพารา และภูเขา โดยเป็นเส้นทางเดินเท้าที่ยากลำบาก 

ทั้งนี้ ระหว่างการค้นหา นายสุจิตร ตาของน้องดีเจ ได้มีการไหว้บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง และเจ้าป่าเจ้าเขาเป็นระยะๆ ซึ่งคุณตาเชื่อมั่นว่า หลานชายอยู่บนภูเขาแห่งนี้ จากนั้นจึงได้ยินเสียงคุณตา ร้องตะโกนอยู่บนยอดเขาสูง ทุกคนจึงรีบวิ่งขึ้นไปสมทบ พบว่าเส้นทางดังกล่าว สามารถทะลุถนน 200 ปี ที่ตัดผ่านไปยังยอดเขา ซึ่งมีสวนผลไม้อยู่ โดยมีชายอ้างว่าเป็นเจ้าของสวน ระบุ พบน้องดีเจ อยู่ใกล้ลำธาร ลึกลงไปจากยอดเขาประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่จึงลุยลงไปค้นหาอีกครั้ง โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที กระทั่งพบ น้องดีเจ อยู่ในโพรงหญ้าใกล้ลำธาร

...

เบื้องต้น พบว่า น้องดีเจ อยู่ในสภาพอิดโรย ผอมโซ มีบาดแผลจากยุงและแมลงกัดต่อย จนเต็มแขนและขาทั้งสองข้าง โดยเจ้าหน้าที่ได้นำน้ำให้น้องดื่ม ก่อนเร่งช่วยเหลือนำน้องขึ้นมาจากหุบเขา ซึ่งจากการสอบถามเด็กยังไม่พูดอะไร คาดว่าอยู่ในอาการอ่อนเพลีย ท่ามกลางความดีใจของครอบครัว จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเด็กส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อทำการรักษา

สอบถามจากชายเจ้าของสวนเล่าว่า ตนเองเห็นน้องดีเจมา 3 วันแล้ว ขณะนั้นคิดว่าเป็นลูกของแรงงานชาวเมียนมา จึงบอกให้เด็กขึ้นไปข้างบน เพราะว่าตนเลี้ยงสุนัขไว้ เกรงจะได้รับอันตราย และไม่ได้แจ้งให้ใครทราบ เพราะไม่รู้ว่าเป็นลูกใคร เพราะยุ่งอยู่กับสวน จากนั้นตนก็ไปทำงานในสวนปกติ แต่ได้ยินเสียงเด็กร้องอยู่บ่อยๆ จนพบตาของเด็ก ซึ่งเป็นอดีตลูกน้องของตนมาถามหา จึงบอกว่าเห็นเด็กอยู่ทางนั้น และรีบพาลงไปหา ซึ่งถ้าตนทราบตอนแรกว่าเป็นหลานของนายสุจิตร ก็คงจะพาไปส่งแล้ว

สำหรับอาการของน้องดีเจ ล่าสุดสอบถามไปยัง นพ.จิรเดช ปัญญาสุทธิกิจ นายแพทย์ผู้ทำการรักษา โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ทราบว่า ภาพรวมจากการตรวจร่างกายนั้น อาการของน้องดีเจนั้นอยู่ในเกณฑ์ดี เด็กมีร่างกายอ่อนเพลีย ต้องให้น้ำเกลือ วิตามินซี และอาหารเสริม พักผ่อนให้มากๆ ขณะที่บาดแผลตามแขนขาและลำตัวนั้น แพทย์ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว

ขณะที่บ้านเลขที่ 5 /3 หมู่ 3 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นบ้านของน้องดีเจนั้น มีเพื่อนบ้านและพนักงานของสุโขสปา ที่อยู่ใกล้เคียงมาร่วมแสดงความยินดี พร้อมสอบถามเรื่องราวทั้งหมดจาก นายสุจิตร คุณตาของน้องดีเจ ถึงตอนไปพบ โดยคุณตาเล่าว่า เจ้าโจ้ สุนัขเพื่อนรักของน้องดีเจ เป็นคนนำไปเจอ ทำให้ทุกคนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ พร้อมเข้าไปขอบคุณเจ้าโจ้ สุนัขของน้องดีเจ ที่นำน้องดีเจกลับมาสู่อ้อมอกครอบครัวอีกครั้ง

ด้าน นางนวลจันทร์ มีโรง คุณยายของน้องดีเจ กล่าวว่า ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะตำรวจ มูลนิธิกระจกเงา มูลนิธิกุศลธรรม พนักงานสุโขสปาและชาวภูเก็ตทุกคน ที่ช่วยตามหาน้องดีเจจนพบตัว กลับมา ไม่รู้จะตอบแทนน้ำใจอย่างไร ส่วนตนเองรู้สึกดีใจมาก

...

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเจ้าของสวนผลไม้ที่พบตัวน้องดีเจนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต จะได้เชิญตัวไปสอบปากคำอีกครั้ง.