มูลนิธิกระจกเงาเข้าพบ ผกก.สภ.วิชิต ขอข้อมูลความคืบหน้าการติดตามน้องดีเจ วัย 3 ขวบ ที่หายออกจากบ้านพักกว่า 5 วันแล้ว มุ่ง 4 ประเด็นหลัก ก่อนพาตัวแม่เด็กออกแจกเอกสารให้ ปชช.ช่วยติดตาม ขณะที่ 9 ก.พ. เตรียมระดมกำลังออกค้นหาในป่าละเมาะใกล้บ้านพัก...

จากกรณี น.ส.เสาวลักษณ์ ไชโย อายุ 23 ปี พนักงานห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ร้องขอความช่วยเหลือผ่านไปทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ขอให้ช่วยตามหา "น้องดีเจ" หรือ ด.ช.เจษฎากร ไชโย อายุ 3 ขวบ 9 เดือน บุตรชายที่หายออกจากบ้านเลขที่ 5 /3 ม.3 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงใกล้เที่ยงวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยคนในครอบครัว-ชาวบ้าน และตำรวจ เร่งระดมค้นหาในพื้นที่ตลอด 4 วันที่ผ่านมา แต่ยังไร้วี่แวว ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 8 ก.พ.ที่ สภ.วิชิต จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ หรือ มูลนิธิกระจกเงา นำโดยนายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้เข้าพบ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ คล้ายแก้ว ผกก.สภ.วิชิต และชุดสืบสวน เพื่อขอทราบข้อมูลการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ทั้งการหาเบาะแส-ผลการสอบปากคำ และการตรวจสอบที่เกิดเหตุ

...


โดยใช้เวลาพูดคุยราว 2 ชั่วโมง ก่อนเดินทางไปพบกับ น.ส.เสาวลักษณ์ แม่ของน้องดีเจที่บ้านที่เกิดเหตุ เพื่อรับตัวไปแจกเอกสารติดตามตัวน้องดีเจในชุมชนต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ช่วยติดตามหา ซึ่งบรรยากาศภายในบ้านของ น.ส.เสาวลักษณ์ ยังคงโศกเศร้า คุณตาและคุณยายของน้องดีเจยังคงกินไม่ได้นอนไม่หลับ นั่งคอยภาวนาให้หลานกลับมาอย่างปลอดภัย ขณะเดียวกันสัตว์เลี้ยงที่มีทั้งสุนัขและกระต่าย เพื่อนเล่นของน้องดีเจมีท่าทีที่ซึม ไม่ค่อยกินอาหาร

โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงาได้ใช้เวลาพูดคุยกับ น.ส.เสาวลักษณ์และคุณตาราว 20 นาที ก่อนจะออกเดินทางไปพร้อมกับ น.ส.เสาวลักษณ์ ไปยังวัดไชยธาราราม หรือ วัดฉลอง ต.ฉลอง อ.เมือง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านไปราว 5 กม. ซึ่งมีการจัดงานประจำปี เพื่อแจกเอกสารข้อมูลคนหายที่มูลนิธิกระจกเงาจัดทำขึ้นให้แก่พ่อค้าแม่ค้า-ประชาชนที่ร่วมงาน เพื่อให้ช่วยติดตาม-สังเกตและแจ้งเบาะแส อย่างไรก็ตามในวันที่ 9 ก.พ. มูลนิธิกระจกเงาจะร่วมกับ สภ.วิชิต และมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตออกค้นหาพื้นที่โดยรอบบ้านพักของน้องดีเจอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากยังมีป่าละเมาะ เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กจะไม่พลัดหลงไปเองจากบ้าน


พ.ต.อ.กิตติพงษ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งหาเบาะแสทุกด้าน พูดคุยกับทุกคนในครอบครัว ไปดูสภาพพื้นที่ เป็นพื้นที่ปิด พื้นที่ส่วนบุคคล แต่ยังไม่คืบหน้า เบื้องต้นที่ตั้งไว้ 4 ประเด็น คือ 1.เด็กพลัดหลงไปเอง 2.อาจเกิดอุบัติเหตุ 3.คนใกล้ชิดที่พาตัวเด็กไป และ 4.ถูกลักพาตัว ซึ่งยังไม่ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งออก ส่วนเจ้าหน้าที่ยังตามหา มีการสรุปผลการปฏิบัติทุกวัน ณ เวลานี้ยังไม่พบตัวเด็ก ส่วนที่มีการแจ้งเบาะแสใดๆ มา มีการตรวจสอบหมด อยากจะฝากไปยังสื่อและประชาชนว่า ถ้ามีเบาะแสใดๆ ให้ประสานมาที่ สภ.วิชิต ด้านนายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ หรือ มูลนิธิกระจกเงากล่าวว่า ในส่วนของมูลนิธิกระจกเงาได้รับแจ้งและเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งพูดคุยกับญาติและตำรวจ เพื่อทำงานร่วมกัน โดยพยายามเอาข้อมูลคนหายในแต่ละกรณีที่เคยทำมา เป็นแนวทางในการวิเคราะห์ หวังว่าพี่น้องประชาชนที่ติดตามข่าวจะช่วยให้เบาะแส

"แน่นอนว่า เหตุลูกหลานหายตัวไปเป็นสิ่งที่สร้างความสะเทือนใจให้กับคนในครอบครัวและน่าเห็นใจผู้ปกครอง ทุกวันนี้ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง หรือหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องช่วยกัน แต่เป็นสิ่งที่สังคมจะต้องช่วยเหลือกัน" นายเอกลักษณ์กล่าว.