"น้องดีเจ" วัย 3 ขวบ หายตัวลึกลับจากบ้านพักในภูเก็ต ครอบครัวเศร้า-กังวล กินไม่ได้นอนไม่หลับ หวังยังมีชีวิต วอนผู้พบเห็นให้เบาะแส ขณะที่ตำรวจวิชิต ประชุมชุดสืบสวนเร่งขยายผลหาเบาะแส...
จากกรณีที่ น.ส.เสาวลักษณ์ ไชโย อายุ 23 ปี พนักงานห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ร้องขอความเป็นธรรมผ่านโลกโซเชียลมีเดีย เพื่อขอให้ช่วยตามหา "น้องดีเจ" ด.ช.เจษฎากร ไชโย อายุ 3 ขวบ 9 เดือน บุตรชาย หลังหายออกจากบ้านเลขที่ 5/3 ม.3 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ไปเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 3 ก.พ. 59 ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 59 น.ส.เสาวลักษณ์ ไชโย และครอบครัว ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดเพิ่มเติมว่า วันเกิดเหตุตนเองได้พาน้องดีเจไปสมัครเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ก่อนจะกลับมาที่บ้านและปล่อยให้น้องดีเจเล่นอยู่ข้างบ้าน จากนั้นตนเองได้นอนดูโทรทัศน์อยู่ภายในบ้านพร้อมกับพ่อหรือตาของน้องดีเจ ก่อนที่น้องจะหายตัวไป ตนเองได้ช่วยกันตามหาโดยรอบแล้วไม่พบ จึงแจ้งให้คนที่อยู่ใกล้เคียงช่วยกันตามหา แต่ไม่พบเช่นกัน จึงได้เข้าแจ้งความที่ สภ.วิชิต ในวันเดียวกัน
...
"ขณะนี้ทุกข์ใจเป็นอย่างมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ ขณะเดียวกันยังได้พึ่งไสยศาสตร์ ให้ร่างทรงหลายแห่งช่วยดูให้ ซึ่งหลายคนบอกว่าน้องยังมีชีวิตอยู่ และหายไปตรงถนนใกล้บ้านประมาณ 50 เมตร แต่ตนได้ออกตามหา โดยรอบแล้วไม่พบ จึงได้แต่รอความหวังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตามตัวจนพบ และภาวนาว่าน้องดีเจจะยังมีชีวิตอยู่ และมีผู้ที่นำน้องไปนำมาคืน" น.ส.เสาวลักษณ์ กล่าว
น.ส.เสาวลักษณ์ ยังได้พาไปดูจุดที่ร่างทรงระบุ ซึ่งยังคงมีร่องรอยการจุดธูปขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พบว่าบริเวณใกล้เคียงเป็นพื้นดินต่ำลงไปเกือบ 10 เมตร คล้ายบ่อดิน เป็นที่โล่งกว้าง มีแคมป์คนงานอยู่อีกด้าน ซึ่งได้ลงไปตามหาพร้อมตำรวจ และชาวบ้านแล้ว แต่ก็ไม่พบ
ขณะที่นายสุจิตร ไชโย อายุ 53 ปี และนางนวลจันทร์ มีโรง อายุ 50 ปี ตาและยายของน้องดีเจ ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า เล่าว่า รับน้องดีเจมาเลี้ยงตั้งแต่อายุได้ 3 เดือน เนื่องจากแม่ต้องทำงานและพักอยู่ที่ อ.ถลาง ทั้งรักและผูกพัน ตั้งแต่น้องหายไป ทำให้กินไม่ได้นอนไม่หลับ ในวันเกิดเหตุนั้นตานอนดูทีวีในบ้าน ส่วนยายซักผ้าอยู่หลังบ้าน ก่อนน้องหายตัว ได้วิ่งเล่นในบ้านและบอกตาว่าจะออกไปเล่นรถตักดินกับฟุตบอลหน้าบ้าน เล่นได้สักพักก็ขอยายว่าจะขึ้นไปเล่นที่ลานหญ้าข้างบ้าน ซึ่งยายกำลังซักผ้า จึงอนุญาตให้น้องเล่นและก็ส่งเสียงเรียกน้องดีเจเป็นระยะ เรียกประมาณ 3 ครั้ง ยังได้ยินน้องขานรับ ก่อนจะเรียกอีกครั้งในเวลาต่อมา และไม่มีเสียงตอบรับ จึงรีบเดินมาดูพบว่าน้องหายไป พร้อมสุนัขที่เลี้ยงไว้ ซึ่งมักจะเล่นและอยู่ไม่ห่างตัวน้องดีเจก็หายไปพร้อมกัน
"รู้สึกเสียใจมาก ขอให้ทุกฝ่ายช่วยเหลือตามหาน้องกลับมา เพราะน้องดีเจเป็นดังแก้วตาดวงใจ ซึ่งทั้งสองเชื่อว่าหลานจะยังมีชีวิตอยู่และวิงวอนหากมีผู้พาตัวน้องไป ขอให้นำกลับมาคืน ซึ่งหากได้ตัวน้องคืนมาจะไม่ถือโทษโกรธเคืองใดๆ" ผู้เป็นตากล่าว
ขณะที่ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ คล้ายแก้ว ผกก.สภ.วิชิต ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทั้งหมด เพื่อออกติดตามหาเบาะแส ทั้งเสาะหาพยานบุคคล-ภาพจากกล้องวงจรปิดต่างๆ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ โดยจะมีการเชิญพ่อและแม่ของน้องดีเจ และบุคคลอื่นมาสอบสวนเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง.