ทีมนักโบราณคดีเช็ก เตือนโลกยุคปัจจุบันกำลังเผชิญหายนะที่นำไปสู่การล่มสลาย สูญสิ้น เหมือนกับสมัยอียิปต์โบราณ หลังเพิ่งมีการพบหลุมพระศพราชินีเคนทาคาเวสที่ 3 อายุ 4,500 ปี เมื่อปีก่อน

เมื่อ 3 ก.พ.59 สื่อต่างประเทศรายงาน การทำนายการสิ้นโลกถูกจุดชนวนขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อนักโบราณคดี จากสถาบันการศึกษาอียิปต์โบราณ ในสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งได้พบหลุมพระศพพระราชินี เคนทาคาเวส ที่3  พระมเหสีของฟาโรห์ เนเฟอร์เรเฟร (Neferefre) แห่งอาณาจักรอียิปต์โบราณ สมัย 4,500 ปีก่อน ที่สุสานอาบูเซียร์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงไคโร เมื่อปลายปี 2558 โดยหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีเชื่อว่า หลุมพระศพพระราชินีเคนทาคาเวสที่ 3 หรือทรงมีพระนามเรียกขานว่า ‘ราชินีม่าย’ ที่พบนั้น สามารถนำไปสู่การเปิดเผยให้เห็นว่า อาณาจักรอียิปต์โบราณได้เผชิญหน้ากับปัญหาเดียวกับสิ่งที่มนุษย์ในยุคปัจจุบันกำลังเผชิญอยู่ ไม่ว่าจะเป็นความวุ่นวายทางการเมือง และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ

ทีมนักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยในเช็ก ระบุว่า ‘รอยปะสีดำ’ ในประวัติศาสตร์ของโลกอยู่ใต้พื้นดิน หายนะที่สามารถอุบัติขึ้นและทำลายโลกเราได้นั้น คล้ายคลึงกันระหว่างปัจจุบันกับอดีต โดยศาสตราจารย์มิโรสลาฟ บาร์ตา หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีของเช็ก กล่าวว่า กะโหลกศีรษะของพระราชินีเคนทาคาเวสที่ 3 ที่พบนั้น มีร่องรอยการถูกทุบ ซึ่งไม่ใช่เพราะพระองค์ทรงถูกฆาตกรรม แต่เป็นฝีมือของพวกที่บุกเข้ามาในสุสาน

...

ตามรายงานของนักโบราณคดี ระบุว่า อาณาจักรอียิปต์มีความร่ำรวยมั่งคั่งอย่างเหลือเชื่อ ในระหว่างที่พระราชินีเคนทาคาเวสที่ 3  ทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ แต่ทว่า 200 ปี หลังจากพระองค์สิ้นพระชนม์ไปแล้ว แม่น้ำไนล์กลับแห้งขอด และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้ทำลายอาณาจักรอียิปต์จนย่อยยับและนำไปสู่การล่มสลาย

ทีมนักโบราณคดีกำลังวิเคราะห์ว่า สิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่จาก 4,500 ปีก่อน ได้เริ่มต้นคล้ายๆ กับชีวิตบนโลกในวันนี้ อีกทั้งยังเชื่อว่า หายนะที่เกิดกับอาณาจักรอียิปต์โบราณสามารถเกิดขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้ อันเป็นผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่รุนแรงขึ้น

ข่าวแจ้งว่า นอกเหนือจากพบหลุมพระศพของพระราชินีเคนทาคาเวสที่ 3 แล้ว ยังพบเครื่องใช้สอยสมัยโบราณ รวมทั้งหม้อ ซึ่งสามารถตรวจสอบธาตุคาร์บอนเพื่อระบุอายุของเครื่องใช้ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ โดย ศ.บาร์ตา ยังกล่าวเตือนทิ้งท้ายว่า มนุษย์ทั้งหลายไม่ควรจะอิ่มเอมใจกับความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีกันอยู่ พร้อมกับย้ำว่า มีความสำคัญที่พวกเราควรเรียนรู้บทเรียนจากประวัติศาสตร์.