แม่พาลูกชาย วัย 14 ร้อง พ.ต.อ.สกล เฟื่องกระแสร์ ผกก.พงส.ผทค. ถูกชายอ้างเป็น ตร. ซ้อม-ยัดยาบ้า บังคับให้รับสารภาพ ซ้ำถูกยาบ้ากรอกปาก ก่อนหลบหนีมาได้ หนีกลับบ้าน แม่พาส่ง รพ. รักษาตัว ก่อนแจ้งความ ตร. แต่หวั่นคดีไม่คืบ ...
วันที่ 21 ม.ค.59 ที่ สภ.บางบัวทอง นายภูวริน บุญภูพันธ์ตันติ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อำเภอบางบัวทอง จ.นนทบุรี พานางเอ (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี ผู้เป็นแม่ พร้อมด้วย ด.ช.บี (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ลูกชาย เข้าพบ พ.ต.อ.สกล เฟื่องกระแสร์ ผกก.พงส.ผทค. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายและยัดยาบ้า ลูกชาย หลังเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วคดีไม่มีความคืบหน้า
ด.ช.บี เล่าเหตุการณ์ โดยอ้างว่า เมื่อวันที่ 12 ม.ค.59 เวลา 18.00 น. ขณะที่ตนกำลังขี่รถ จยย. กลับบ้านมาตามถนนเลียบคลองลำรี ระหว่างทางเจอกับรถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีบีอาร์ ขี่ตามมา ก่อนที่คนขี่ที่แต่งชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนคนซ้อนท้ายแต่งชุดครึ่งท่อน บอกให้ตนจอดรถ แต่ตนไม่ยอมจอด กระทั่งมีรถยนต์กระบะสีขาว 4 ประตู จำนวน 2 คัน มีคนมากับรถยนต์กระบะประมาณ 10 คน ขับมาปาดหน้ารถ จยย.ของตน เมื่อตนหยุดรถ ชายคนขับรถกระบะคันแรก ได้เดินลงมาจากรถแล้วถีบรถของตนจนล้ม ก่อนที่ชายคนดังกล่าว จะต่อยเข้าที่หน้าตน 3 ครั้ง พร้อมกับถามว่าขับรถหนีทำไม ซึ่งตนตอบไปว่าไม่รู้ว่าเป็นตำรวจ ก่อนที่กลุ่มบุคคลที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะตรวจปัสสาวะตน แต่ไม่พบสารเสพติด หลังจากนั้น ชายคนดังกล่าว ได้สั่งให้ลูกน้องเดินไปหยิบยาบ้า จำนวน 2 ถุง เงินสดอีกจำนวนหนึ่ง มายัดใส่มือตน พร้อมทั้งถ่ายรูป
...
ด.ช.บี กล่าวต่อว่า กลุ่มชายที่เป็นตำรวจได้นำตนมานั่งที่ท้ายรถกระบะ ที่มีชายวัยรุ่นนั่งอยู่ก่อนแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บังคับให้ตนเซ็นรับสารภาพว่า ยาบ้าและเงินสดเป็นของตน แต่ตนไม่ยอม จึงถูกกลุ่มชายเตะเข้าที่ชายโครง จนยาบ้าที่อยู่ในมือกระเด็นเกลื่อนท้ายรถ กลุ่มชายฉรรจ์ จึงบังคับให้ตนเก็บยาบ้าทั้งหมดใส่ถุง แล้วเอายาบ้าและเงินสดใส่ในกระเป๋ากางเกงของตนทั้งสองข้าง แต่มียาบ้าอีกประมาณ 10 กว่าเม็ด ที่มันติดมือตนอยู่ กลุ่มชายฉกรรจ์จึงบังคับให้ตนเอายาบ้าที่เหลือใส่ปาก และนำน้ำมาให้ตนดื่ม เพื่อกลืนยาบ้าเข้าไปในท้อง ระหว่างนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ได้หันไปซ้อมชายวัยรุ่นอีกคนที่จับกุมมาก่อนหน้านี้ เพื่อให้บอกว่ายาบ้าทั้งหมดเป็นของตน ตนจึงฉวยโอกาสกระโดดลงจากรถ แต่ถูกกลุ่มตำรวจคว้าเสื้อไว้ได้ ระหว่างนั้นตนได้ล้วงเอาเงิน และยาบ้า ทิ้งไว้ข้างรถ ก่อนจะสะบัดจนหลุดแล้ววิ่งหลบหนีไป ขอความช่วยเหลือจากคนงานใกล้เคียงเพื่อให้ส่งตนกลับบ้าน ระหว่างทางตนก็ พบรถ จยย. ของตนถูกทิ้งอยู่ข้างทางห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร ตนจึงได้ขี่รถ จยย. กลับบ้าน ก่อนจะเล่าเหตุการณ์ให้แม่ฟัง
ด้านนางเอ กล่าวว่า หลังจากที่ลูกชายตนกลับมาที่บ้าน ก็พบว่าลูกชายเบ้าตาช้ำ ตนจึงได้ถามว่า เกิดอะไรขึ้น ลูกชายตนจึงเล่าให้ฟังว่า ถูกตำรวจซ้อมมา ตนจึงได้พาลูกชายตนไปที่โรงพยาบาลไทรน้อย เพื่อรักษา ระหว่างนั้นลูกชายเกิดอาการชัก เกร็ง และอาเจียน พยาบาล จึงถามว่า ลูกชายตนไปกินอะไรมา ลูกชายจึงบอกว่าถูกตำรวจบังคับกรอกยาบ้า พยาบาลจึงได้ทำการล้างท้อง และให้นอนพัก ระหว่างที่นอนพักอยู่ที่โรงพยาบาล ลูกชายได้อาเจียนออกมาเป็นเศษยาบ้า ทางพยาบาลจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบางบัวทอง มาตรวจสอบ
นางเอ(นามสมมุติ) กล่าวต่อว่า วันที่ 13 ม.ค. ตน จึงได้ไปร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรม อำเภอบางบัวทอง แต่ทางศูนย์ดำรงธรรม ให้ตนมาแจ้งความกับร้อยเวรบางบัวทอง แต่ทางร้อยเวรบอกให้ตนพาลูกชายมาพบในวันรุ่งขึ้น ตนจึงได้พาลูกชายมาพบ แต่ทางร้อยเวรทำเพียงสอบปากคำ เบื้องต้นโดยที่ไม่มีเอกสารอะไรให้เซ็น
หลังจากทราบข้อมูลเบื้องต้น ทาง พ.ต.อ.สกล เฟื่องกระแสร์ ผกก.พงส.ผทค. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ปกครองนำตัว ด.ช.บี ไปชี้จุดเกิดเหตุ ก่อนจะนัดมาสอบปากคำต่อหน้านักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ เนื่องจากเป็นเยาวชน ในวันพรุ่งนี้.