ระบบสหกรณ์เข้ามาอยู่ในวังวนระบบเศรษฐกิจของประเทศมาเกือบจะครบ 100 ปีบริบูรณ์...26 ก.ย.2559 จะเริ่มย่างก้าวเข้าสู่ ศตวรรษที่ 2
ในโอกาสประชุมใหญ่สามัญสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ประจำปีนี้ เมื่อ 19 ธ.ค.นี้...ที่ประชุมมีมติจะยกระดับขีดความสามารถของขบวนการสหกรณ์ครั้งใหญ่ ใน 4 ยุทธศาสตร์สำคัญ
1.ยกระดับการมีส่วนร่วมของภาคีสหกรณ์เพื่อความเข้มแข็งเป็นปึกแผ่น 2.ยกระดับมูลค่าเพิ่มแก่ผลิตภัณฑ์สหกรณ์ 3.พัฒนาระบบการเงินสหกรณ์ที่เอื้อต่อความมั่นคงและมีเสถียรภาพ และ 4.พัฒนาระบบสนับสนุนและสิ่งอำนวยความสะดวก
ทั้งนี้เนื่องจาก 100 ปีที่ผ่านมา ขบวนการสหกรณ์ไทยยังไปไม่ถึงไหน ด้วยผลการศึกษาของ รศ.จุฑาทิพย์ ภัทรวาท ผอ.สถาบันวิชาการสหกรณ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่าสถานการณ์ของสหกรณ์ไทยวันนี้น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะสหกรณ์ที่มีอยู่ทั้งหมด 8,174 แห่ง มีสมาชิก 11.4 ล้านคน แต่มีสหกรณ์ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานแค่เพียง 80% ซ้ำร้ายจำนวนสหกรณ์มีแนวโน้นจะค่อยๆลดลง เห็นได้จากวันนี้ สัดส่วนการเกิดสหกรณ์ต่อสหกรณ์จะต้องเลิกกิจการอยู่ในอัตรา 1:1.5
มีสหกรณ์เจ๊งมากกว่าสหกรณ์เกิดใหม่
และเหตุที่เป็นเช่นนั้น ดร.ก๊ก ดอนสำราญ ประธานกรรมการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศ มองไปที่ปัญหาในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา สหกรณ์ไทยที่มีอยู่ทั้งหมด 7 ประเภท ต่างทำงานกันแบบต่างคนต่างอยู่ เลยทำให้สหกรณ์ไทยไปได้ไม่ถึงไหน ไม่มีพลังที่จะไปต่อรองอะไรกับใครได้
“แต่ต่อไปเราจะต้องทำงานร่วมกันแบบเป็นเครือข่าย รวมทีมกันทำกันแบบให้ครบวงจรเหมือนธุรกิจเอกชน จะทำกันตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ จนไปถึงมือผู้บริโภค ผลิตสินค้าวัตถุดิบเอง แปรรูปเอง มีแบรนด์สินค้าเป็นของตัวเอง และขายสินค้าเอง โดยมีสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยจะเข้ามาทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางประสานงานการทำงานร่วมกันของสหกรณ์ทุกประเภทให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน”
...
ฝันนี้จะเดินไปถึงฝั่งฝันหรือไม่...มีเสียงกระซิบดังๆ ภาคราชการจะยอมปล่อยมือแค่ไหน.
ชมชื่น ชูช่อ