มีหมายจับ หัวโจกแล้ว จ้องอีก20
ศาลทหารออกหมายจับผู้ต้องหาโพสต์ผังอุทยานราชภักดิ์แล้ว โดน 3 ข้อหาทั้งมาตรา 112 มาตรา 116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่ทหารยังไม่ส่งตัวให้ตำรวจสอบสวน ขณะที่ชุดสืบสวนกองปราบปรามเก็บข้อมูลเพจ “สถาบันคนเสื้อแดงแห่งชาติ” ที่โพสต์ผังราชภักดิ์ในเฟซบุ๊ก พบผู้ต้องสงสัยทำผิดหลายร้อยคน แอดมินอีกกว่า 20 คน ด้าน นศ.กลุ่มเอ็นดีเอ็มเปิดแถลงข่าวที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ อัดแถลงการณ์ของ มธ. ห้าม นศ.เคลื่อนไหวนอกสถานที่ขัดอุดมการณ์ โวยแนวร่วมถูกทหารล็อกแต่ปล่อยแล้ว โต้ไม่เอี่ยวพรรคการเมือง ยังหนุน “จ่านิว” ไปราชภักดิ์ก่อนปีใหม่ ส่วน “เพื่อไทย” ขย่ม “ประยุทธ์” ต้องร่วมรับผิดชอบการทุจริต สวนนงนุชแถลงมอบต้นไม้ตกแต่งอุทยานราชภักดิ์ทั้งหมดฟรี แต่เสียค่าขนส่งและคนงาน 4 ล้านบาท
กรณีปมร้อนการตรวจสอบทุจริตโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่เริ่มก่อสร้างสมัย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหมเป็น ผบ.ทบ.ยังเป็นประเด็นทางการเมืองออกมาเรียกร้องให้ พล.อ.อุดมเดช รับผิดชอบโดยการลาออก ก่อนหน้านี้นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.นัดหมายแนวร่วม เดินทางไปที่อุทยานราชภักดิ์มาแล้ว แต่ถูกทหารดักคุมตัวไปปรับทัศนคติ 10 ชม.แล้วปล่อยตัวออกมา ต่อมานายสิรวิชญ์ หรือจ่านิว เสรีธิวัฒน์ นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยศึกษาพร้อมพวก ขึ้นรถไฟมุ่งหน้าไปยังอุทยานราชภักดิ์ แต่ถูกสกัดไว้บริเวณสถานีรถไฟบ้านโป่ง จ.ราชบุรี นำตัวไปเจรจาแล้วปล่อยตัว ต่อมายังมีคนทำแผนผังเครือข่ายราชภักดิ์เผยแพร่ในโลกโซเชียล โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นกยกฯและ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม รวมอยู่ด้วย จึงสั่งการให้สืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด จนทหารจับกุมนายฐนกร หรือเอฟ ศิริไพบูลย์ อายุ 27 ปี อ้างว่าเซฟแผนผังดังกล่าวมาจากเพจคนเสื้อแดงแล้วเอามาเผยแพร่
...
ออกหมายจับมือโพสต์ผังราชภักดิ์
ความคืบหน้าจากศาลทหารกรุงเทพ เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 10 ธ.ค. พนักงานสอบสวนกองปราบปรามเดินทางมาขออำนาจศาลทหารออกหมายจับ กรณีที่นายทหารพระธรรมนูญส่วนปฏิบัติการคณะความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าแจ้งความดำเนินคดีนายฐนกร หรือเอฟ ศิริไพบูลย์ อายุ 27 ปี กรณีโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จเผยแพร่ผังทุจริตอุทยานราชภักดิ์ โดยนำหลักฐานและเอกสารมาแสดงต่อศาล ศาลพิเคราะห์หลักฐานตามสมควรว่า ผู้ต้องหาน่าจะกระทำ ผิดความผิดอาญา มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 3 ปี มีเหตุที่จะออกหมายจับตามกฎหมาย ศาลทหารจึงอนุมัติออกหมายจับเลขที่ 63/2558 ให้จับกุมนายฐนกร ศิริไพบลูย์ ข้อหาผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี ตามมาตรา 112 ข้อหากระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวีดิโออื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแก่รัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักรตามมาตรา 116 และข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งมีข้อความเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนก
รรท.ผบก.ป.ยันโดน 3 ข้อหา
พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก.รรท.ผบก.ป. เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เดินทางไปยื่นคำร้องต่อศาลทหารเพื่อขออำนาจศาลทหารออกหมายจับนายฐนกร หรือเอฟ ศิริไพบูลย์ อายุ 27 ปี ผู้โพสต์แผนผังการทุจริตโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ในเฟซบุ๊กแล้ว ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นควรออกหมายจับตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอ ก่อนออกหมายจับเลขที่ 63/2558 ลงวันที่ 10 ธันวาคม 2558 ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ 116 รวมถึงความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วย
พบคนเข้าข่ายผิดอีกหลายร้อย
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากตำรวจขออนุมัติหมายจับจากศาลแล้ว ทหารจะยังคงควบคุมตัวนายฐนกร ผู้ต้องหารายนี้ไว้ จนกว่าจะมีคำสั่งจากผู้บังคับ-บัญชาว่า จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องควบคุมตัวให้ครบ 7 วัน หากพิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่มีความจำเป็นจะนำตัวมาส่งให้กับพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนนำตัวไปฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพตามขั้นตอนต่อไป อย่างไรก็ตาม จาก การตรวจสอบเฟซบุ๊ก “สถาบันคนเสื้อแดงแห่งชาติ” ของพนักงานสอบสวนกองปราบปรามพบว่า มีผู้กระทำความผิดเข้าข่ายเดียวกับนายฐนกรอีกหลายร้อยคน และ 1 ในสมาชิกเพจดังกล่าวคือ นายอานนท์ นำภา ทนายความที่ร่วมเดินทางไปตรวจสอบอุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ กับคณะของนายสิรวิชญ์ หรือจ่านิว เสรีธิวัฒน์ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวที่สถานีรถไฟบ้านโป่ง จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ล่าสุดพบการแจ้งเตือนในเพจดังกล่าวใจความว่า “ด่วนที่สุด ช่วยแชร์และตามเพื่อนด้วย ให้คนที่มีชื่อในกลุ่มนี้รีบออกจากกลุ่มให้หมด เพราะเป็นเพจเจ้าหน้าที่สร้างไว้ดัก ทหารกำลังจะเล่น 112 กับทุกคน”
เตรียมจับแอดมินเพจอีกกว่า 20 คน
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า แอดมินของเพจ “สถาบันคนเสื้อแดงแห่งชาติ” มีจำนวนกว่า 20 คน ขณะนี้เจ้าหน้าที่มีข้อมูลของแอดมินทั้งหมดแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมดำเนินคดี นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังรวบรวมรายชื่อเจ้าของเฟซบุ๊กที่เป็นสมาชิกเพจดังกล่าว ที่กดถูกใจและแชร์ข้อความหรือรูปภาพที่ไม่เหมาะสม ส่อเค้าว่าจะกระทำความผิดข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูงฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เอาไว้ทั้งหมดแล้ว สำหรับเรื่องดังกล่าวฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะ ดำเนินการจับกุมบุคคลที่ทำผิดกฎหมายในลักษณะที่ส่อว่า เป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างเด็ดขาด หลังจากนี้จะออกหมายจับกลุ่มบุคคลในฐานความผิดนี้เพิ่มเติมอีกหลายร้อยราย
กลุ่มประชาธิปไตยใหม่แถลงข่าว
ที่ลานปรีดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ท่าพระจันทร์ พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รอง ผบก.น.1 พ.ต.ท.สมยศ อุมรักษา รอง ผกก.สส.สน.ชนะสงคราม พ.ต.ท.ปิติพันธ์ กฤษดากร ณ อยุธยา สว.สส.สน.ชนะสงคราม พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ชุดข่าวกรองความมั่นคงนอกเครื่องแบบนับสิบนาย เฝ้าสังเกตการณ์และบันทึกข้อมูลการแถลงข่าวของกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่หรือเอ็นดีเอ็ม นำโดยนายรังสิมันต์ โรม นศ.ป.โทนิติศาสตร์ มธ.โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ปรับแผนใหม่ไม่นำ ตำรวจในเครื่องแบบมาสกัดกั้น หรือห้ามนั่งโต๊ะแถลง เหมือนกรณีนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นศ.รัฐศาสตร์ มธ. ที่หน้าหอประชุมใหญ่เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.
อัดแถลงการณ์ฝ่ายการ นศ.มธ.
ในการแถลงข่าวนายวรวุฒิ บุตรมาศ นศ.ปริญญาโท มธ.สมาชิกกลุ่มเอ็นดีเอ็ม กล่าวถึงกรณีฝ่ายการนักศึกษา มธ.ออกแถลงการณ์ห้ามนักศึกษาเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกสถานที่ ระบุว่าน่าเศร้าที่หน่วยงานซึ่งดูแลนักศึกษา มธ.ทั้งหมดมีท่าทีเช่นนี้ เนื้อหาที่ออกมามองว่า ต้องการให้ นศ.หยุดการเคลื่อนไหว ทางการเมือง และอยู่ภายใต้การปรองดอง ไม่ขัดขวางรัฐบาล จึงมีคำถามว่า แนวคิดเช่นนี้ขัดต่อหลักอุดมการณ์ของ มธ.หรือไม่ สิ่งที่ รศ.ชาลี เจริญลาภนพรัตน์ รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษาและการเรียนรู้
แถลงการณ์ออกมาตีความว่า ในยุคของรองอธิการคนใหม่ จะลดหรือยุติการช่วยเหลือ นศ.ที่ได้รับอันตรายจากการทำกิจกรรมนอก มธ. ต่างจากสมัยก่อน จึงคิดว่าแถลงการณ์นี้เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ได้มองจากสังคมของ มธ.โดยรวม ขอเรียกร้องให้ถอนคำพูดและให้ขอโทษ ศิษย์เก่า มธ.ตายไป เท่าไรเพราะการต่อสู้ทางการเมือง ไม่ว่าส่วนตัวท่านจะมีความคิดยังไงอย่าเอามาครอบคนใน มธ. ขณะนี้พยายามติดต่อกับองค์การนักศึกษา มธ.และสภา นศ.มธ. เพื่อให้ร่วมกันแสดงบทบาทคัดค้าน แต่ยืนยันไม่ยุติการทำกิจกรรม แม้อธิการบดีจะมาห้ามก็ไม่เชื่อ เพราะสิ่งที่ทำคือ จิตวิญญาณของ มธ.
ให้สื่อ–ภาคประชาชนตรวจสอบ
ขณะที่ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว อดีต นศ.มศวประสานมิตร อ่านแถลงการณ์ในนามเอ็นดีเอ็ม ระบุว่า ทางกลุ่มติดตามเรื่องอุทยานราชภักดิ์มาตลอด ได้เห็นข้อเท็จจริงที่น่าสงสัย อย่างการหักหัวคิวการหล่อพระบรมราชานุสาวรีย์ ราคาต้นปาล์ม การใช้งบแผ่นดินในการสร้าง ฯลฯ รวมทั้งมีนายทหารบางนายออกมายอมรับว่า มีการทุจริตจริง เช่น พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม แต่การตั้งกรรมการตรวจสอบเป็นทหารด้วยกันเอง รวมทั้งการสกัดผู้ที่จะเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์เพื่อตรวจสอบ แสดงให้เห็นว่า ทหารไม่มีความจริงใจที่จะเปิดเผยข้อมูลโครงการนี้ให้ประชาชนรู้ มีความคลุมเครือ กลับกลอก เล่นละครตรวจสอบในหมู่ผู้มีส่วนได้เสีย จึงไม่อาจคาดหวังให้ทหารและกลไกของ คสช.เป็นผู้บอกกล่าวความจริงได้ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดให้สื่อและภาคประชาชนเข้าไปตรวจสอบข้อมูลโครงการอุทยานฯทั้งหมดให้สังคมไทยรู้ว่า ใครพูดจริงใครโกหก หากพบข้อความใดที่เอ็นดีเอ็มกล่าวเท็จให้มาฟ้องหมิ่นประมาทได้
ปฏิเสธไม่เกี่ยวกับพรรคการเมือง
ด้านนายรังสิมันต์ โรม แกนนำกลุ่มเอ็นดีเอ็ม กล่าวว่า แม้พวกตนเป็นปฏิปักษ์กับ คสช.แต่ขอนับถือ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ที่ออกมายอมรับว่า มีการทุจริตในโครงการอุทยานราชภักดิ์ จึงขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ หันมาดูแบบอย่างจากรุ่นน้อง ไม่ใช่นักข่าวมาถามเรื่องนี้แล้วก็โกรธ ขณะนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า นับตั้งแต่กลุ่ม นศ.พยายามตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ นอกจากจะถูกจับแล้ว ขณะนี้ยังถูกโจมตีว่า เป็นกลุ่มคนเสื้อแดง รับเงินมา และล้มเจ้า ถามว่าการโจมตีแบบนี้มีเป้าหมาย สร้างความชอบธรรมให้มีความรุนแรงเหมือนสมัยเหตุการณ์ 6 ตุลาหรือไม่ ที่ผ่านมาเราไม่เคยพูดถึงสถาบัน จุดยืนแค่ต่อต้าน คสช.และตรวจสอบทุจริต เพราะองค์กรของรัฐไม่ทำหน้าที่ แต่จะไปตรงกับแนวทางกลุ่มการเมืองกลุ่มไหนเป็นแค่เรื่องหลักการ ประเด็นคือ มีการทุจริตจริงหรือเปล่า ถ้ามีใครหนุนหลังจะทำกิจกรรมตามมีตามเกิดกันแบบนี้หรือ ใครมีหลักฐานน่าจะเอามาแสดง เพราะพูดแบบนี้ใครก็พูดได้
โวยแนวร่วมถูกทหารจับแต่ปล่อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผังทุจริตในโครงการอุทยานราชภักดิ์ที่มีคนนำไปแชร์แล้วถูกจับกุม มีที่มาในเฟซบุ๊กแฟนเพจของกลุ่มเอ็นดีเอ็มมาก่อน จะรับผิดชอบอย่างไร แกนนำเอ็นดีเอ็ม ยืนยันว่า เป็นเรื่องจริง แต่ไม่รู้ว่าใครทำขึ้น เพราะแนวร่วมเอ็นดีเอ็มมีจำนวนมาก ข้อมูลได้รับมาจากหลายที่ คนที่ถูกจับตอนแรกเข้าใจว่า เพราะแผงผังนี้ แต่เอาเข้าจริงๆทราบว่ากลับมีเรื่องอื่นรวมทั้งมาตรา 112 ด้วย เรายินดีรับผิดชอบ ถ้าข้อมูลมีการหมิ่นประมาท และยืดอกน้อมรับความผิดพลาด พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ คสช.ไม่เคยออกมาพูดว่า สิ่งที่เราเสนอมามีสิ่งไหนผิด มีแต่การคุกคามอย่างเดียว ล่าสุดวันนี้มีเป็นแนวร่วมที่มาทำกิจกรรมกับเอ็นดีเอ็มรายหนึ่ง ชื่อนายฉัตรมงคล วัลลี เพิ่งถูกทหารควบคุมตัวไปเข้าค่าย ทางกลุ่มได้ติดต่อมารดานายฉัตรมงคลให้มาร่วมแถลงข่าวด้วยแต่ยกเลิกไป เพราะได้รับการปล่อยตัวแล้ว ส่วนตัวไม่เข้าใจเหตุผลที่แนวร่วมถูกจับกุม แต่มองว่าเป็นการจับเพื่อให้เป็นแพะรับบาป ขอเรียกร้องคสช.จะดำเนินการอะไร ให้ทำตาม ป.วิอาญา ทุกวันนี้ใครถูกจับไปก็ไม่รู้ถูกเอาไปไว้ไหน ทนายขอพบก็ไม่ได้ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ไม่ต่างกับการลักพาตัว
หนุน “จ่านิว” ไปอุทยานฯก่อนปีใหม่
ส่วนกรณีที่นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นศ.รัฐศาสตร์ มธ.ยืนยันจะไปอุทยานราชภักดิ์อีกครั้งก่อนปีใหม่นี้ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เอ็นดีเอ็มพร้อมยืนเคียงข้างและสนับสนุนจ่านิว เพราะมองว่าที่ทำนั้นถูกต้องแล้ว ไม่มีเหตุผลจะห้าม ส่วนจะไปด้วยกันกี่คนนั้นต้องหารือกับจ่านิวอีกครั้ง ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังการแถลงข่าวทางกลุ่มเอ็นดีเอ็มได้นำหนังสือพิมพ์ “ก้าวข้าม” ประจำเดือน ต.ค.ของกลุ่มมาแจกจ่ายให้เจ้าหน้าที่และสื่อ พร้อมยืนโชว์หน้าปกที่เป็นรูปอุทยานราชภักดิ์ ข้อความว่า “โกงอย่างจงรัก หักหัวคิวอย่างภักดี” ให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ
“วิษณุ” ปฏิเสธอุทยานราชภักดิ์เรี่ยไร
ที่รัฐสภา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีการนำเอกสารการประชุมของคณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไรของภาครัฐ (กคร.) ในโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ออกมาเปิดเผยว่า ไม่มีการขอเรี่ยไรเงินจากกองทัพบกส่งเข้าที่ประชุมเพื่อขอจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ตลอดปีงบประมาณ 2558 ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี การบริจาคไม่ถือเป็นการเรี่ยไร หากทำในรูปแบบของมูลนิธิก็ไม่เข้าเงื่อนไขดังกล่าว ต้องแยกระหว่างการเรี่ยไรกับการบริจาค หากไม่เข้าข่ายการเรี่ยไรก็ไม่เข้าระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี หากมูลนิธิฯเป็นผู้ดำเนินการต้องไปว่ากันในส่วนของมูลนิธิฯ ไม่ใช่การเรี่ยไรของทางราชการ ตนตอบกลางๆ เพราะไม่รู้ใครเป็นคนทำและทำอย่างไร แต่ยอมรับว่า การบริจาคกับการเรี่ยไรใกล้เคียงกัน และเหตุที่มีการควบคุมการเรี่ยไรเพราะจะมีเงินเข้ามามาก อาจยักย้ายถ่ายเททำให้สับสน จึงต้องทำบัญชีให้ชัดเจน แต่การบริจาคเป็นการเจาะจงว่า จะนำเงินไปใช้ทำอะไร แต่ไม่ว่าจะเป็นการเรี่ยไรหรือบริจาค ต้องควบคุมโดยกฎหมายหรือระเบียบที่แตกต่างกัน