ผบช.ภ.1 แถลงรวบ 3 ผู้ต้องหา บุกปล้นร้านทองยิงเจ้าของร้านดับ เผยตามแกะรอยจากกล้องวงจรปิด ผู้ต้องหารับสารภาพ อ้างเป็น รปภ.รายได้ไม่พอใช้ ชักชวนวางแผนร่วมก่อเหตุ สั่งซื้อ ปืนจากอินเตอร์เน็ต เจอเหยื่ออยู่ร้านคนเดียวบุกก่อเหตุ แต่เจ้าของร้านไหวตัวทันชักปืนเลยยิงสวนดับ ตำรวจกว่า 100 นาย หิ้วตัวทำแผนญาติฮือรุมประชาทัณฑ์
ตำรวจแถลงรวบ 3 ผู้ต้องหา บุกปล้นร้านทองยิงเจ้าของร้านดับและนำตัวทำแผน เปิดเผยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ธ.ค. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธนา ชูวงษ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ยงยุทธ เดชะรัฐ รอง ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วสันต์ บุญเจริญ รอง ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.เลิศชาย จำปาทอง ผกก.สส.ภ.จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.นพดล สุคนธวิท ผกก.สภ.สำโรงเหนือ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายธนากร เพ็ชรนิน อายุ 22 ปี นายพัลลพ ณะสูงเนิน อายุ 22 ปี และนายสมชาย วิเศษโวหาร อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันปล้นร้านทอง ห้างทองสุวิมล เยาวราช เลขที่ 1526/53-54 ปากซอยเทพารักษ์ 10 ถนนเทพารักษ์ ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ และยิงนายสุพล ชวาลากุล อายุ 60 ปี เจ้าของร้านเสียชีวิต เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมของกลาง ลำกล้องปืน .380 จำนวน 1 ชิ้น สปริงลูกเลื่อน 1 ชิ้น ซองกระสุน 1 อัน กระสุนปืน .380 จำนวน 16 นัด รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 ทะเบียน 1 กก 9795 ร้อยเอ็ด รถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน และชุดที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ
พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รอง ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า สำหรับแนวทางสืบสวนตำรวจแกะรอยจากภาพจากกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี กระทั่งไปพบเบาะแสทั้ง 3 คน ขี่รถ จยย.เข้าไปภายในซอยเทศบาลบางปู 61 ก่อนที่จะตามจับกุมนายพัลลพได้คนแรก และขยายผลไปจับกุมได้ทั้งหมด เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ร่วมกันฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
...
จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า ร่วมกันก่อเหตุจริงเนื่องจากทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยแห่งหนึ่งแต่รายได้น้อย ชักชวนกันก่อเหตุปล้นร้านทองจะได้ทรัพย์สินมาก โดยมีนายธนากรเป็นคนวางแผนและสั่งซื้อปืนจากอินเตอร์เน็ตราคา 9 พันบาท ไปซ้อมยิงที่ป่าละเมาะข้างคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ วันเกิดเหตุได้ขี่รถ จยย.ตระเวนหาร้านทอง จนพบร้านดังกล่าวมีเจ้าของร้านอยู่คนเดียว แต่มีตำรวจเข้ามาตรวจรอจนกระทั่งตำรวจออกจากร้าน จากนั้นนายธนากรและนายพัลลพบุกเข้าไปในร้านส่วนนายสมชายขี่รถ จยย.ไปรอบริเวณริมถนนเทพารักษ์ ห่างจากร้านประมาณ 30 เมตร แต่เจ้าของร้านไหวตัวทันและพยายามหยิบปืนยิงใส่ นายธนากร ยิงใส่เจ้าของร้านจนเสียชีวิต และรีบหนีออกมาโดยไม่ได้ทรัพย์สิน หลบหนีไปย่านซอยเทศบาลบางปู 61 ระหว่างทางมีการเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อตบตาตำรวจ และแยกย้ายกันหลบหนี นายธนากรนำปืนไปแยกชิ้นส่วนและโยนทิ้งริมแม่น้ำโขง ต.บ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนม กระทั่งถูกตำรวจตามจับได้ทั้งหมดพร้อมของกลาง
ต่อมาตำรวจนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณที่เกิดเหตุ โดยมีประชาชนมามุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก ตำรวจต้องนำกำลังทั้งในและนอกเครื่องแบบมาคอยรักษาความปลอดภัยกว่า 100 คน เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุชุลมุน โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ระหว่างที่ตำรวจกำลังคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไปขึ้นรถตู้เพื่อเดินทางกลับ ทางญาติผู้เสียชีวิตพยายามเข้ามารุมประชาทัณฑ์ ตำรวจต้องช่วยกันห้ามปรามและรีบนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถเพื่อดำเนินคดีต่อไป