นายธนศักดิ์ วัฒนฐานะ ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) เปิดเผยว่า จากการที่ กปน.ได้คอยเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด พบว่า สถานการณ์ภัยแล้งของประเทศไทยยังมีแนวโน้มที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนหลักปีนี้น้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อกระบวนการผลิตน้ำของ กปน. ทั้งด้านปริมาณ และคุณภาพน้ำประปาช่วงหน้าแล้งตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ เนื่องจากอาจมีน้ำดิบไม่เพียงพอต่อการผลักดันน้ำเค็มในภาวะน้ำทะเลหนุนสูงในช่วงเวลาดังกล่าว ดังนั้น เพื่อเป็นการสงวนน้ำดิบไว้ใช้ในช่วงภัยแล้งนี้ กปน.ได้เริ่มดำเนินการตามแผนการผลิตและสูบจ่ายน้ำประปาเพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ภัยแล้งปี 59 โดยปรับลดปริมาณการสูบน้ำดิบจากแม่น้ำเจ้าพระยาลง พร้อมลดแรงดันน้ำประปา เฉพาะช่วงเวลากลางคืน ตั้งแต่เวลา 23.00-05.00 น. ของวันรุ่งขึ้น และสูบจ่ายปกติในช่วงกลางวัน ตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไป

นายธนศักดิ์กล่าวว่า กปน.จะค่อยๆปรับลดแรงดันน้ำประปาลงวันละประมาณ 50 เซนติเมตร (ค่าเฉลี่ยแรงดันน้ำในระบบท่อประปาทั่วทั้งเขตบริการของ กปน. อยู่ที่ประมาณ 8-10 เมตร) และจะลดลงเรื่อยๆ เฉพาะในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งมีปริมาณการใช้น้ำค่อนข้างน้อยอยู่แล้ว อาจทำให้น้ำประปาไหลอ่อนลงบ้าง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำของประชาชนแน่นอน เพื่อให้ผู้ใช้น้ำได้ปรับพฤติกรรมการใช้น้ำให้ลดลง เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ภัยแล้งที่จะเกิดขึ้น.