เรื่องราวระหว่างพ่อตาบอดกับลูกๆ ครอบครัวยากจนที่ จ.นครราชสีมา ที่จำเป็นต้องทำคอกกั้นไม่ให้พ่อออกไปไหน เพราะกลัวเกิดอันตราย หรือหลงหาทางกลับบ้านไม่ถูก เพราะทุกคนต้องออกไปทำงานหาเงิน ขณะที่พ่อเฒ่าบอกสั้นๆ ‘อยู่ได้ ไม่เป็นไร’...
เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 58 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านใน อ.คง จ.นครราชสีมา ว่ามีชายชราอายุ 74 ปี ถูกลูกชายจับขังไว้ในคอกกั้นด้วยไม้ที่มีสภาพเก่าทรุดโทรม เป็นที่สลดหดหู่แก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก จึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านดอนทะบวง ม.11 ต.เทพาลัย อ.คง จ.นครราชสีมา
พบตัวบ้าน ปลูกเป็นบ้านชั้นเดียวสภาพเก่าทรุดโทรม ลักษณะคล้ายเพิง โดยใช้ไม้อัดทำเป็นฝา ส่วนด้านหลังบ้านมีคอกวัว ห่างจากคอกวัวประมาณ 5 เมตร พบนายผัน ผ่องพูน พ่อเฒ่าวัย 74 ปี สภาพร่างกายอ่อนล้า ผอมแห้ง ลุกยืนขึ้นไม่ค่อยจะได้เพราะไม่มีแรง ทั้งยังตาบอดสนิททั้ง 2 ข้าง อาศัยอยู่ในคอกไม้พื้นที่ขนาดความกว้าง 2 X 2 เมตร สูงประมาณ 1.50 เมตร มุงด้วยสังกะสีเก่าผุ ส่วนฝาผนังทั้ง 4 ด้าน เอาไม้แผ่นมาตอกกั้นเอาไว้ด้านละ 2-3 แผ่น ไม่ให้ออกไปไหนได้
ส่วนการขับถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ พบว่า ถ่ายลงใต้ถุนที่ยกสูงกว่าพื้นดินเพียง 30 ซม. ทำให้บริเวณนั้นมีกลิ่นเหม็นของปัสสาวะและอุจจาระคละคลุ้งไปทั่ว ซึ่งตลอดทั้งวันนายผันจะคลานไปมาและนั่งอยู่ในพื้นที่แคบๆ เป็นที่น่าอนาถใจ
ผู้สื่อข่าวสอบถาม นายจันทร์ ผ่องพูน อายุ 41 ปี ลูกชายคนที่ 3 ซึ่งป่วยเป็นโรคปอดอักเสบ และโรคตับ เล่าว่า ครอบครัวมีพี่น้อง 7 คน ก่อนหน้านี้ตนเองไปรับจ้างทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯ แต่หลังจากล้มป่วยได้กลับมารักษาตัวที่บ้านได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว เพื่อมาอยู่ดูแลพ่อตาบอด และแม่ที่ชรา โดยมีน้องชาย และหลานช่วยกันทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ตนเองทำงานไม่ได้จึงต้องอยู่บ้านดูแลพ่อ ส่วนแม่คือนางดำ มีโพธิ์ อายุ 64 ปี ออกไปเก็บเศษข้าวตามทุ่งนาที่รถเกี่ยวข้าวทำหล่นไว้ เพื่อนำมาเลี้ยงคนในครอบครัว สภาพยากจนมาก ตอนหลังน้องชายที่เป็นกำลังหลักก็มาป่วยเป็นโรคเบาหวาน ทำงานหนักไม่ได้อีกคน แต่จำเป็นต้องออกไปทำงาน เพื่อหาเงินมาเลี้ยงทุกคนในบ้าน
...
นายจันทร์ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ต้องขังพ่อไว้ในคอก เนื่องจากพ่อตาบอด เมื่อปล่อยออกมาข้างนอกก็จะคลานไปเรื่อยๆ จำทางกลับบ้านไม่ได้ เกรงว่าจะเป็นอันตราย อาจคลานไปตกน้ำได้ หรือพลัดหลงไปที่อื่น จึงจำเป็นต้องขังไว้ในคอกดังกล่าว เพราะทุกคนต้องออกไปทำมาหากิน ไม่มีคนคอยดูแลพ่อ ก็จำเป็นจะต้องเอาไว้ในสภาพนี้ ตนยืนยันว่า ไม่ใช่การทรมานแต่อย่างใด และในช่วงกลางคืนจะพาพ่อเข้ามานอนในบ้านบ้าง แต่ก็น้อยครั้ง ส่วนใหญ่จะอยู่ที่คอกมากกว่า เพราะเวลาถ่ายของเสียทั้งปัสสาวะและอุจจาระก็ง่าย ไม่เลอะเทอะในบ้าน ซึ่งพ่อเองก็จะคุ้นเคยกับพื้นที่ที่จัดให้ เวลากินอาหารตนเองก็จะเอาไปป้อน หรือบางครั้งจะพาพ่อออกมาเดินเล่นที่หน้าบ้านบ้าง ถ้ามีเวลา
ด้านนายผัน พ่อเฒ่า ซึ่งนอกจากตาบอดสนิททั้ง 2 ข้างแล้ว ยังหูตึงฟังไม่ค่อยได้ยิน บอกเพียงสั้นๆ ว่า "อยู่ได้ ไม่เป็นไร" พร้อมกล่าวว่า ตนอยู่แบบนี้มานานหลายปี ชินกับสภาพนี้แล้ว แต่ช่วงกลางคืนอาจจะมียุงรบกวนบ้าง
ขณะที่นายไพศาล เกียรติชัยพัฒน กำนันตำบลเมืองคง กล่าวว่า เบื้องต้นทางอำเภอ และภาคเอกชน โดยนายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ อดีต ส.ส. ในฐานะประธานรื่นจิตอาสา ได้เข้าไปดูแลให้การช่วยเหลือแล้ว รวมทั้งสาธารณสุขอำเภอก็ส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลเรื่องความสะอาดให้ถูกสุขลักษณะ โดยจะเข้าไปดูสัปดาห์ละ 2 ครั้ง รวมทั้งแนะนำลูกหลานช่วยกันอาบน้ำ เช็ดตัว รวมถึงเรื่องอุจจาระปัสสาวะต้องทำให้มิดชิด ส่วนเรื่องฐานะยากจน เราได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้ส่วนหนึ่ง
"เรื่องที่จะมีหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ หรือให้ไปอยู่บ้านสงเคราะห์คนชรานั้น จากการพูดคุย เขาก็อยากจะอยู่กับครอบครัวมากกว่า เพราะอบอุ่นดี จะได้อยู่กับลูกหลาน ไม่อยากไปไหน และการที่อยู่แบบนี้เขาก็บอกว่า คุ้นเคยแล้ว และขณะนี้มีผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เข้าไปดูแลแล้ว" กำนันไพศาลกล่าว
สำหรับผู้ที่ต้องการช่วยเหลือครอบครัวของนายผัน สามารถติดต่อได้ที่นายไพศาล เกียรติชัยพัฒน กำนันตำบลเมืองคง โทรศัพท์ 08-9848-5787 หรือนายพัลลภ สิงห์ทอง นายอำเภอคง จ.นครราชสีมา โทรศัพท์ 0-4445-9188.