ยอมรับมาเสียดีๆ ว่า ครั้งหนึ่งคุณเคยคิดว่า สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “เพื่อน” ซื้อไม่ได้! แต่วินาทีนี้คุณอาจจะต้องเปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่ เพราะปัจจุบันมีคนหัวใสผุดไอเดียใหม่แก้ไขปัญหาให้แก่เหล่าสมาคมคนขี้เหงา หรือบุคคลไร้เพื่อนให้กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง จนพวกเขาสามารถทำกำไรได้เป็นกระบุงโกย ในรูปแบบที่เรียกว่า “เพื่อนเที่ยว”...

เรื่องราวจากซีรีย์ชื่อดังที่กระตุกสังคมให้รู้จักกับอีกหนึ่งอาชีพ นั่นก็คือ “เพื่อนเที่ยว” กระหึ่มจนออแกไนซ์แห่งหนึ่งยอมรับกับทีมข่าวว่า “หลังจากซีรีย์ฮอร์โมน ซีซั่น 3 มีการนำเสนอธุรกิจเพื่อนเที่ยวออกไป ยิ่งทำให้มีผู้สนใจมาสมัครงานเป็นอาชีพนี้เพิ่มมากขึ้น ล่าสุด มีผู้มาสมัคร 460 คน ภายในเวลาแค่ 3 วัน จากเมื่อก่อน ใน 1 สัปดาห์ จะมีเพียง 40-50 คนเท่านั้น”

ไม่ว่าจะข้อมูลมุมลับ หรือมุมแจ้ง ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ เจาะลึกละเอียดยิบเกี่ยวกับอาชีพ “เพื่อนเที่ยว” ทุกมิติ ทั้งเรตราคา ลูกค้า ดารา เน็ตไอดอล พริตตี้ ชีวิตบนกองเงิน ประสบการณ์โคตรอึ้ง เราเชื่อว่า คุณอ่านแล้วจะต้องสตั๊น ไม่เชื่อลองดู!

...

ขอบเขตระบบงาน “เพื่อนเที่ยว” ให้บริการมากที่สุดได้แค่ไหน?

ทีมข่าวพูดคุยกับ นายณัทกร พงศ์ชวนิศ หรือ กร วัย 35 ปี ออแกไนซ์จัดหาหนุ่มสาวรับจ้างเพื่อนเที่ยวเบอร์ต้นๆ ของเมืองไทยกับขอบเขตหน้าที่การบริการของอาชีพเพื่อนเที่ยว เขาตอบกับทีมข่าวว่า อาชีพดังกล่าวเน้นให้บริการความสุขแก่ลูกค้าในรูปแบบของเพื่อนที่สามารถไปกินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง ช็อปปิ้ง หรือเป็นกิจกรรมอื่นๆ ตามที่ลูกค้ากำหนด แต่ห้ามเกินเลยไปถึงการมีเพศสัมพันธ์ และไม่แตะเนื้อต้องตัวกันโดยเด็ดขาด

“ในกรณีที่ลูกค้าจะมีความสัมพันธ์อื่นใดกับเพื่อนเที่ยว ซึ่งกรณีนี้เป็นไปได้ยาก หรือมีโอกาสน้อยมาก เว้นเสียแต่ว่า ลูกค้าจะมีหน้าตาที่ดีมาก จนเพื่อนเที่ยวเผลอใจอยากสานสัมพันธ์ด้วย ซึ่ง ณ จุดๆ นี้ก็เป็นสิ่งที่ทางผมไม่สามารถควบคุมได้” กร พูดพร้อมเอียงคอเล็กน้อย

คัดเด็ก เช็กหน้า คุณต้องโดดเด่นแค่ไหน ถึงจะโลดแล่นเป็น “เพื่อนเที่ยว”

ส่วนกระบวนการคัดเมมเบอร์เข้ามารับงาน “เพื่อนเที่ยว” ออแกไนซ์แห่งนี้มีการเช็กประวัติบรรดาหนุ่มสาวที่เข้ามาเป็นเมมเบอร์ พร้อมกับนัดหมายมาเจอตัว เช่นเดียวกันกับการสัมภาษณ์งานทั่วไป โดยณัทกร ออแกไนซ์หนุ่มยอมรับกับทีมข่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดของคนที่จะเข้ามาทำอาชีพนี้ได้ ต้องมีรูปร่างหน้าตาที่ดี เวลาพูดจาต้องมีเสน่ห์ชวนฟัง และประวัติการทำงานของหนุ่มสาวคนนั้นๆ ห้ามมีการขายบริการทางเพศมาก่อน

“คนที่อยากประกอบอาชีพเพื่อนเที่ยว ต้องเข้าใจก่อนว่า การที่ลูกค้าจ้างให้คุณมากินข้าวเป็นเพื่อน ไม่ใช่ว่าคุณจะคุยอะไรก็คุยไป แต่สิ่งที่จะทำให้คุณโดดเด่นและแตกต่างนั้น อยู่ที่คาแรกเตอร์ส่วนตัวของคุณว่า คุณจะสามารถเป็นเพื่อนสร้างความสุข และรับฟังความทุกข์ของลูกค้าได้มากน้อยขนาดไหน” ณัทกร แนะข้อได้เปรียบของผู้ที่อยู่ในวงการเพื่อนเที่ยว

เมื่อผ่านกระบวนการคัดตัวแล้ว หนุ่มสาวที่เข้ามาเป็นเมมเบอร์ จะถูกจัดระดับออกเป็น 2 ระดับ โดยคัดจากหน้าตา ชื่อเสียงในสังคม และอาชีพเป็นสำคัญ ซึ่งแบ่งออกได้ ดังนี้ 1. ระดับธรรมดาปกติ คือ เหล่าพริตตี้ และอาชีพทั่วไปของสังคม เช่น เซลส์ขายสินค้า พนักงานธนาคาร เป็นต้น และ 2. ระดับท็อป คือ ดารา เน็ตไอดอล และ เชียร์ลีดเดอร์มหาวิทยาลัย

ทีมข่าวยิงคำถามที่หลายคนอาจยังไม่รู้ แต่ถ้าได้ฟังคำตอบคุณอาจสตั๊นนิดๆ “โดยทั่วไปแล้ว เมมเบอร์เพื่อนเที่ยวประกอบอาชีพอะไรกัน?” กร ออแกไนซ์เบอร์ต้น มองบน พร้อมตอบอย่างอารมณ์ดีว่า “ปัจจุบันมีทั้งแพทย์ ทันตแพทย์ สาวแบงก์ เซลส์ขายรถ ผู้ประกาศข่าว ดีเจ วีเจ ดารา นางเอกมิวสิค พิธีกร นักเรียนนานาชาติ ลูกครึ่งต่างชาติ สาวออฟฟิศ แต่ที่มากที่สุดจริงๆ ก็คือ พริตตี้ และ นักศึกษามหาวิทยาลัย”

...

สแกนกลุ่มลูกค้า วัยไหน กลุ่มไหนเป๋าตุง?

ขณะที่ ประเภทของลูกค้าที่เข้ามาจ้างงานนั้น ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าที่ค่อนข้างมีฐานะ และเป็นเพศชาย ไล่ไปตั้งแต่อายุ 17 ปี ไปจนถึงผู้สูงอายุ ซึ่งลูกค้าในกลุ่มอายุน้อยๆ มักจ้างไปเป็นแฟนปลอมๆ กินข้าว ดูหนังทั่วไป เพื่อหาประสบการณ์ในเชิงพูดคุยกับเพศตรงข้าม เนื่องจากไม่เคยมีแฟนมาก่อน ส่วนกลุ่มลูกค้าสูงอายุ มักเป็นกลุ่มคนที่เกษียณแล้ว แต่ลูกหลานไม่มีเวลาให้

อย่างไรก็ตาม ช่วงอายุระหว่าง 25-35 ปี ถูกจัดให้เป็นลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการมากที่สุด เรียงลำดับเพศจากมากไปน้อย คือ เพศชาย เกย์ หญิง ขณะที่ ลูกค้าที่กระเป๋าหนักที่สุด มีช่วงวัยตั้งแต่ 48-60 ปี เรียงลำดับเพศจากมากไปน้อย คือ เพศชาย เกย์ หญิง เช่นกัน

“ปัจจุบัน ทางออแกไนซ์เปิดรับผู้ชายให้เข้ามาเป็นเมมเบอร์มากขึ้น เนื่องจากกลุ่มลูกค้า ที่ต้องการผู้ชายเป็นเพื่อนกินข้าว ดูหนัง หรือ ช็อปปิ้ง นั้น มีกำลังซื้อสูงมาก โดยเฉลี่ยแล้วมักจะมีการเหมาเป็นรายเดือน หรือบางครั้ง 3 เดือนเลยทีเดียว” ออแกไนซ์คนเดิมกล่าวเพิ่มเติมถึงตลาดชาย

...

เห็นแค่ในรูป! ถ้าคุณจ้างเพื่อนเที่ยว แต่อยากเห็นหน้าตา ต้องจ่ายสตางค์

หากลงลึกถึงธุรกิจจ่ายเงินซื้อเพื่อนชั่วคราวที่ว่านี้ สามารถขยายความได้ว่า ธุรกิจเพื่อนเที่ยว หรือรับจ้างกินข้าวนั้น เปิดรับสำหรับลูกค้ากระเป๋าหนักที่มีกำลังทรัพย์พอที่จะจ่ายให้แก่หนุ่มสาวเหล่านี้ โดยเริ่มแรกลูกค้าจะต้องชำระเงินเพื่อขอดูข้อมูล อาทิ รูปร่างหน้าตา ประวัติพอสังเขปของเพื่อนเที่ยว ในสังกัดของออแกไนซ์เจ้าดังกล่าวเสียก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลของผู้ประกอบอาชีพเพื่อนเที่ยวรั่วไหลเกินความจำเป็น

ทว่า ตรงข้ามกันกับการส่งข้อมูลเมมเบอร์ของโมเดลลิ่ง ซึ่งโมเดลลิ่งจะเน้นไปที่การสร้างกรุ๊ป เพื่อให้พริตตี้เข้ามาหางานในกรุ๊ป และจะมีการส่งข้อมูลเมมเบอร์ให้กับลูกค้าก่อน หากลูกค้าโทรไปโมเดลลิ่ง 10 แห่ง ให้ส่งข้อมูลมาแห่งละ 10 คน เท่ากับว่า 1 วัน ลูกค้าจะได้ข้อมูลถึง 100 คน ทำให้ฝ่ายโมเดลลิ่งเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เพราะข้อมูลรั่วออกไปเกินจำเป็น รวมทั้งโมเดลลิ่งจะไม่มีการเปิดรับสมาชิกใหม่ แต่จะใช้วิธีดึงมาจากเครือข่ายที่เชื่อมโยงกัน ฉะนั้น โอกาสที่ลูกค้าจะได้เจอเมมเบอร์หน้าเก่าๆ จึงเป็นไปได้ง่าย

“เพราะฉะนั้น ทางออแกไนซ์จะคิดค่าบริการเฉพาะสำหรับการให้ข้อมูลเมมเบอร์ ที่ว่างและพร้อมจะรับงานในช่วง 1 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน ตามระยะเวลาที่ลูกค้าขอมาเท่านั้น โดยค่าบริการขั้นต่ำ สำหรับการให้ข้อมูลเมมเบอร์ จะอยู่ที่ครั้งละประมาณ​ 5,000 บาทต่อสัปดาห์ ดูข้อมูลเมมเบอร์ได้ 17 คน ซึ่งรายได้ในส่วนนี้เป็นรายได้หลักของบริษัทเรา” กร ออแกไนซ์เบอร์ต้น กล่าวตามสเต็ปการขอดูข้อมูล

ออแกไนซ์เจ้าเดิม คุยโตอีกว่า ตนมีรายได้จากการให้ข้อมูลรายสัปดาห์ค่อนข้างสูง โดยสมมติ 1 สัปดาห์ มีผู้มาติดต่อขอข้อมูลสมาชิก เพื่อว่าจ้างให้ไปเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์ 11 คน ทุกคนจ่ายคนละ 5,000 บาท เพื่อขอข้อมูล ก็เท่ากับว่าตนได้เงินจำนวน 55,000 บาทแล้ว นอกจากนี้ ตัวรายได้ที่วิ่งในบัญชีธนาคาร จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือสำหรับการไปติดต่อขอกู้เงินจากธนาคาร เพื่อไปต่อยอดทำธุรกิจอื่นๆ ได้อีกหลายชนิด พร้อมถามทีมข่าวกลับ ทำงานออฟฟิศได้เงินเดือนเท่าไหร่กัน?

...

วิธีปกป้องเมมเบอร์ รักษาชื่อเสียงลูกค้า การันตีไม่ค้าบริกาม ทำได้หรือ?

คำถามที่ตามมาคือ แม้ว่าจะมีการจ่ายเงิน ก่อนดูข้อมูลเมมเบอร์ก็ตาม ประวัติต้องห้ามของเมมเบอร์ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพหลัก รูปภาพ ข้อมูลส่วนตัว จะรั่วไหลออกไปหรือไม่? ทีมข่าวยิงคำถามไปสู่ออแกไนซ์หนุ่ม เขาไม่รอช้า ตอบกลับมาทันควันว่า “เรามีกระบวนการเช็กประวัติลูกค้าอย่างละเอียด หากลูกค้ามีจุดประสงค์ที่จะเข้ามาในรูปแบบของสืบค้นข้อมูล หรือเป็นนักข่าวแฝงตัวมา เราสามารถรู้ได้ทันที และจะไม่ให้บริการกับบุคคลนั้นๆ และผู้เกี่ยวข้องกับเขาอย่างเด็ดขาด”

ส่วนข้อกังขาอีกประเด็น คือ ลูกค้าและเมมเบอร์ จะมั่นใจได้อย่างไรว่า งานบริการดังกล่าว จะไม่เข้าข่ายเพศพาณิชย์ ณัทกร ผู้คร่ำหวอดวงการเพื่อนเที่ยว ตอบด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า ลูกค้าและเมมเบอร์ทุกคนถูกตรวจสอบประวัติมาเป็นอย่างดีแล้ว ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายลูกค้า หรือเมมเบอร์ ทุกฝ่ายไม่ต้องกังวลว่า ในช่วงของการบริการ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจถูกหลอกไปทำมิดีมิร้าย หรือก่อให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

“แม้กระทั่งคนที่อาจเป็นถึงรัฐมนตรี ก็ไม่กล้าเสี่ยงที่จะทำเรื่องไม่ดี คือพูดตรงๆ เลยก็ได้ว่า หากคุณคิดจะกินข้าว ก็ควรกินให้ถูกที่ ไม่ใช่นึกจะเอาข้าวไปกินในบ้านของใครก็ได้ เพราะฉะนั้นตอนแรกตกลงกันอย่างไร ลิมิตการทำงานได้แค่ไหนแค่นั้น และที่สำคัญคนเหล่านี้ไม่คิดเอาชื่อเสียงตัวเองมาเสี่ยง” ออแกไนซ์เบอร์ต้นกล่าวอย่างมั่นใจ

โดย ณัทกร ยกตัวอย่างลูกค้ารายหนึ่งว่า ครั้งหนึ่งเคยตกลงกับลูกค้าว่า ห้ามลวนลาม หรือละเมิดข้อตกลง แต่พอลูกค้าท่านนี้เจอหน้าเมมเบอร์ ลูกค้าเข้าประชิดตัวพร้อมหอมแก้ม ซึ่งทางผมก็เข้าไปแจ้งความที่โรงพักทันที เพราะถือว่าทำเกินจากที่ตกลง สุดท้ายลูกค้าท่านดังกล่าวจ่ายเงินค่าทำขวัญเฉียดแสน!

“เมื่อถึงเวลาทำงานเป็นเพื่อนเที่ยว หากน้องๆ เมมเบอร์พิจารณาแล้วว่า ลูกค้าท่านดังกล่าวพยายามจะทำมิดีมิร้าย เมมเบอร์สามารถกลับบ้านได้เลย โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้รับค่าตัว เพราะลูกค้าได้โอนเงินค่าบริการมาให้ตั้งแต่ก่อนที่เราให้บริการแล้ว” กร เล่าถึงวิธีการปกป้องเมมเบอร์

คุณคิดเห็นอย่างไรกับ “อาชีพเพื่อนเที่ยว” อยากเข้าวงการนี้ หนีออกห่าง หรือมองดูอยู่ไกลๆ ติดตามต่อได้ในวันพรุ่งนี้ กับรายงานพิเศษ “เพื่อนเที่ยว” ไม่ว่าจะเรตราคา ค่าจ้างกินข้าว ประสบการณ์ชวนอึ้ง และชีวิตที่โลดแล่นบนกองเงิน พรุ่งนี้คุณได้รู้จักวงการนี้มากขึ้นแน่นอน!

ขอบคุณภาพประกอบจาก : gth