จนท.ป่าไม้ร่วมกับทหาร ตร. ฝ่ายปกครอง อ.แม่สะเรียง แม่ฮ่องสอน ตรวจป่าสงวนแม่ยวมฝั่งซ้าย พบต้นไม้ใหญ่ถูกกานและหยอดยาให้ยืนต้นตายเอาไปเผาถ่านแล้วปลูกกล้วยแทนเพื่อยึดพื้นที่ มีต้นสักใหญ่ด้วย 2 ต้น เผยรู้ตัวคนทำแล้ว... 

เมื่อตอนบ่ายวันที่ 23 พ.ย.58 นายสมจินต์ เนตรประดิษฐ์ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.10 (ห้วยชมพู) พ.ต.ต.วิเชียร ธรรมปัญญา สวป.สภ.แม่สะเรียง ร.ต.ศุภวัฒน์ คิดดี ตัวแทน หน่วย ฉก.ทพ.36 นายธงชัย เรือนศรี ปลัดอำเภอแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ได้ลงตรวจสอบพื้นที่ ป่าสงวนฯ แม่ยวมฝั่งซ้าย เขตบ้านห้วยหลวง ต.บ้านกาศ อ.แม่สะเรียง

ทั้งนี้ เนื่องจาก มีชาวบ้านมาแจ้งว่า นายน้อง ไม่ทราบนามสกุล อายุ 54 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ต.บ้านกาศ อ.แม่สะเรียง ร่วมกับพวก ลักลอบเข้าไปกานไม้ และเจาะใส่ยา เพื่อให้ต้นไม้ยืนต้นตาย จากนั้นจะล้มต้นเพื่อนำมาเผาถ่านขาย แล้วนำต้นกล้วยเข้าไปปลูกในแทน เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของเอาไว้ โดยมีนายทุนอยู่เบื้องหลัง

นายสมจินต์ เนตรประดิษฐ์ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.10 เผยว่า ทางหน่วยได้รับหนังสือที่ชาวบ้านยื่นร้องเรียนแล้ว จึงประสานกับนายอุดม ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สะเรียง ทพ.36 และปลัดฝ่ายปกครอง เข้าทำการตรวจสอบเขตพื้นที่ที่มีการบุกรุกกานต้นไม้ โดยในวันนี้ได้ตรวจสอบพบว่า ในเขตป่าสงวนแม่ยวมฝั่งซ้าย พื้นที่ทั้งหมด 2,800 ไร่ ยืนยันพื้นที่ถูกบุกรุกประมาณ 100 ไร่ มีไม้กระยาเลย ไม้เต็ง ไม้รัง ไม้สัก ถูกกาน และหยอดเคมีฆ่า ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ตีตราประทับไว้ทุกต้น

...

ทั้งนี้ รวมถึง ต้นไม้สักใหญ่ กว่า 2 คนโอบ บริเวณหน้าวัดห้วยหลวง ความโต 280 ซม. สูงกว่า 10 เมตร และในโรงเรียนบ้านห้วยหลวง ความโต 420 ซม.ต้นสูงกว่า 10เมตร ถูกมือดีลักลอบกาน และเผาโคนต้น เช่นกัน เบื้องต้นทราบตัวผู้กระทำผิดแล้ว

ขณะที่ พลตรีนพพร เรือนจันทร์ ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร ได้เน้นย้ำให้แต่ละหน่วยงานบูรณาการทำงานร่วมกัน ในการป้องกันการลักลอบตัดไม้ในพื้นที่เขตป่าสงวนและป่าสาละวิน และภายในปีงบประมาณ 2559 ให้ดำเนินการจัดทำโฉนดชุมชน ในพื้นที่ 8 หมู่บ้าน ที่อยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติสาละวิน เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มเติม โดยแต่ละครอบครัวจะสามารถครอบครองพื้นที่ทำกินได้ไม่เกิน 20 ไร่ต่อครัวเรือน ส่วนพื้นที่ทำกินในปัจจุบันจะต้องรอพิสูจน์สิทธิ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2541 และภาพถ่ายทางอากาศ ปี 2545 หากพบว่ามีการบุกรุก จะต้องคืนพื้นที่ป่า หากไม่คืนก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.