แม่วัย 15 ชาวสกลนคร หอบลูกสาววัย 8 เดือน เข้าตรวจรักษาจากหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ กฟภ. เผย ลูกมีอาการผิดปกติ ศีรษะโตผิดรูป กะโหลกศีรษะแยกกัน เจ็บปวด-ร้องไห้ตลอดเวลา อีกทั้ง ฐานะยากจน ไม่มีเงินรักษา วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ...
วันที่ 20 พ.ย. 58 น.ส.เทียมฟ้า ศรีนาไทย อายุ 15 ปี อยู่ใน ต.ห้วยหลัว อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร ได้นำบุตรสาว คือ ด.ญ.ศิริลักษณ์ พรหมศาลาเมฆ อายุ 8 เดือน มารับการบริการ จากหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของ คณะแพทย์ที่ออกมาให้บริการทางสาธารณสุขแก่ประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นโครงการที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จัดขึ้นมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2540 มีการบริการรักษาตั้งแต่โรคทั่วไป ไปจนถึงการรักษาโรคขั้นสูง และอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย รวมถึงคลินิกเด็ก 23 คลินิก ที่ ร.ร.มัธยมวานรนิวาส อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร
สำหรับอาการป่วยของด.ญ.ศิริลักษณ์ พบว่า ศีรษะโตผิดรูป เวลาจับโดนที่ศีรษะจะเจ็บปวด และร้องไห้ตลอดเวลา ซึ่งในการเข้ารับการตรวจรักษา มี น.ส.จินดาพร วิเศษโกหาญ และ น.ส.อลิษา ฤทธิธรรม พยาบาลวิชาชีพ สาธารณสุขตำบลห้วยหลัว ซึ่งเป็นหมอประจำครอบครัว มาติดตามคอยดูแลตลอดเวลา
น.ส.เทียมฟ้า กล่าวว่า ครั้งแรกที่คลอดบุตรสาวออกมา ก็มีอาการปกติดีทุกอย่าง แต่พออายุได้ 4-5 วัน ก็มีอาการผิดปกติให้เห็น คือศีรษะโตขึ้นทุกวัน จนตอนนี้โตขึ้นกว่าเดิมถึง 3 เท่า เคยพาไปพบแพทย์ ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่า ป่วยเป็นโรคหัวบาตร หรือ โรคโพรงน้ำในสมองขนาดใหญ่ (ไฮโดรเซฟฟาลัส -HYDROCEPHALUS) เป็นความผิดปกติ ที่มีน้ำในโพรงสมองมากเกินปกติ เนื่องจากท่อทางเดินน้ำหล่อสมองและไขสันหลังอุดตัน ทำให้น้ำที่อยู่ในสมองและไขสันหลัง ซึ่งปกติเป็นตัวคอยป้องกัน และหล่อเลี้ยงสมองไม่ให้กดทับกับส่วนกะโหลก เกิดคั่งจนท่วมอยู่ในสมอง จนความดันในช่องสมองมีสูง ดันได้ช่องสมองโตออกจนไปเบียดเนื้อสมอง และดันกะโหลกศีรษะให้โตออก จนมีขนาดใหญ่ผิดปกติ ทุกวันนี้จึงต้องคอยดูแลลูก เพราะสงสารลูก แพทย์บอกว่า ถ้าจะให้หายต้องทำการผ่าตัด แต่ฐานะทางบ้านยากจน
...
ขณะที่ น.ส.อลิษา กล่าวว่า เริ่มแรกน้องมาฝากครรภ์ ที่ รพ.สต.ห้วยหลัว ครั้งแรกตรวจอัลตราซาวนด์ไม่พบว่ามีอาการผิดปกติ จากนั้นน้องย้ายไปทำงานที่กรุงเทพฯ กับสามี แล้วก็ไปฝากครรภ์ต่อที่กรุงเทพฯ แต่ตรวจไม่ครบถ้วนตามกำหนด เมื่อถึงเวลาจะคลอด ทางเจ้าหน้าที่ได้โทรไปประสาน แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ หลังจากคลอดลูกออกมาแล้วกลับมาอยู่ที่บ้าน จนมาแจ้งเจ้าหน้าที่ ที่ รพ.สต.ห้วยหลัว เมื่อเด็กมีอายุได้ 7 เดือนแล้ว ส่วนทางครอบครัว ฐานะยากจน ไม่มีเงินค่ารักษา และลำบากในเรื่องการเดินทาง จึงไม่ได้ไปรักษาที่อื่นต่อ ขณะที่การรักษานั้น หากได้รับการผ่าตัดก็สามารถหายได้
สำหรับผู้ใจบุญ อยากยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ น.ส.อลิษา โทร. 09-3520-4928 หรือ น.ส.จินดาพร โทร. 08-6218-8327 และสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ น.ส.เทียมฟ้า มารดาของเด็ก โทร. 09-2657-5867.