เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 19 พ.ย. ที่บ้านป่าจี้ หมู่ 3 ต.ป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน นางทิวาพร ศรีวิชา อายุ 44 ปี แกนนำชาวบ้านพร้อมด้วย ส.ท.พรพิพัฒน์ สามภูศรี ผู้ใหญ่บ้าน นายอัครเดช คัมภีร์ระมน นายกเทศมนตรีตำบลป่าไผ่ ทหาร ป่าไม้ และชาวบ้านประมาณ 1,000 คน ร่วมประกอบพิธีบวชป่าเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ เนื่องจากพื้นที่ป่าดังกล่าวกำลังถูกนายทุนเข้ามาสัมปทานเพื่อทำเหมืองแร่แมงกานีส เมื่อชาวบ้านทราบข่าวได้พากันออกมาต่อต้านและถือโอกาสบวชป่าแห่งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกสัมปทาน
นางทิวาพร แกนนำชาวบ้าน เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2556 มีนายทุนบริษัทหนึ่งเตรียมเข้ามาสัมปทานเหมืองแร่แมงกานีสในพื้นที่ป่าแห่งนี้ในเนื้อที่กว่า 96 ไร่เศษ จึงร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน นายกเทศมนตรี ปรึกษาหารือกันและไม่ยอมให้มีการสัมปทานป่าทำเป็นเหมืองแร่หรือกระทำการใดๆที่เป็นการทำลายผืนป่าแห่งนี้ เนื่องจากหวั่นจะกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งเรื่องมลพิษทางอากาศ เสียงและกระทบแหล่งน้ำของชาวบ้าน ในฐานะคนในพื้นที่ขอยอมตายกับการต่อสู้ในครั้งนี้ เพื่อให้ผืนป่าแห่งนี้คงอยู่สืบไปจนชั่วลูกชั่วหลาน เพราะเป็นป่าต้นน้ำเพียงแห่งเดียว เป็นแหล่งทำมาหากินของชาวบ้านเข้าไปเก็บของป่า และจะไม่ยอมให้ใครเข้ามาทำลายผืนป่าที่เหลือน้อยแห่งนี้อย่างแน่นอน
...
ด้านนายอัครเดช คัมภีร์ระมน นายกเทศมนตรีตำบลป่าไผ่ กล่าวว่า จากการสอบถามไปยังจังหวัดได้รับคำตอบว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีบริษัทใดได้รับสัมปทานในการใช้พื้นที่ป่าแห่งนี้แต่อย่างใด นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีเพราะเป็นผืนป่าแห่งเดียวของหมู่บ้านที่ชาวบ้านสามารถเข้าเก็บหาของป่าได้ เมื่อทราบว่าจะมีการทำเหมืองแร่เกิดขึ้น ทำให้ชาวบ้านโดยเฉพาะคนเฒ่าคนแก่พากันนอนไม่หลับ อย่างไรก็ตาม เราจะขอต่อสู้เพื่อไม่ให้มีการทำเหมืองแร่ และพร้อมจะเดินหน้าต่อสู้ร่วมกับชาวบ้านตลอดไปจนกว่าจะมีการยกเลิกล้มความคิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทำพิธีบวชป่าเสร็จแล้วชาวบ้านได้ร่วมกันถวายอาหารเพลพระและร่วมกันนำอาหารที่พกติดตัวมาจากที่บ้านกินเลี้ยงกันบริเวณจุดดังกล่าว ทำให้เห็นบรรยากาศการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชาวบ้าน ซึ่งทุกคนต่างสัญญาว่าจะต่อสู้ต่อไปจนถึงที่สุด ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน.