ตร.หนองคายจับหนุ่มวัย 19 ปี มิจฉาชีพภัยสังคมก่อเหตุขี่ จยย.จี้ชิงทรัพย์และบังคับข่มขืนหญิงสาวขี่รถมาตามลำพัง ใช้วิธีดึงกุญแจให้เครื่ิองดับ เหยื่อจำได้ว่าคนร้ายเจาะลิ้นและอวัยวะเพศฝังมุก ตำรวจใช้เป็นหลักฐานเด็ดจนดิ้นไม่หลุด...  

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 19 พ.ย. 58 ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองหนองคาย พ.ต.อ.อภิศักดิ์ กรองทิพย์ ผกก.สภ.เมืองหนองคาย พ.ต.อ.ปรีดา ดวงพุทธา พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ วงศ์สนิทธีรา รอง ผกก.(ส.) พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ สว.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ทำการตรวจค้นจับกุม พบรถจักรยานยนต์ 1 คัน มีดปลายแหลมยาวประมาณ 20 ซม. โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และชุดที่สวมใส่กระทำความผิด

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 00.15 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ก่อเหตุชิงทรัพย์หญิงสาวอายุ 21 ปี บริเวณถนนมิตรภาพหนองคาย-อุดรธานี ในพื้นที่ อ.เมืองหนองคาย คนร้ายชิงเงินสด 800 บาทแล้วหลบหนีไป หลังจากนั้นวันที่ 12 พ.ย.58 เวลา 04.30 น. มีคนร้าย 1 คน ก่อเหตุข่มขืนหญิงสาว อายุ 22 ปี คนหนึ่ง จุดเกิดเหตุที่ป่าละเมาะ พื้นที่เดิม อีกทั้งยังได้ชิงเงินสด 360 บาท พร้อมโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายไปด้วย เจ้าหน้าที่สอบสวนผู้เสียหายจนทราบรูปพรรณสัณฐานคนร้าย โดยเฉพาะจุดสังเกตที่ลิ้นและอวัยวะเพศมีการเจาะฝังมุก จึงสืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายโหน่ง และติดตามจับกุมได้ขณะทำงานที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน ต.หนองสองห้อง โดยมีหญิงสาวผู้เสียหายมาชี้ตัวยืนยัน

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ลงมือก่อเหตุจริง โดยช่วงหลังเที่ยงคืนตนจะขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนไปตามถนนมิตรภาพ หากพบเหยื่อเป็นผู้หญิงขี่รถมาตามลำพัง ก็จะขี่ประกบดึงพวงกุญแจรถออก จนเครื่องยนต์ดับ แล้วใช้มีดจี้ชิงทรัพย์ โดยเหยื่อคนแรกเพียงแค่ชิงทรัพย์นำเงินไปเสพยาบ้า ไม่ได้ข่มขืน ส่วนคนที่สองได้ก่อเหตุลักษณะเดียวกัน แต่พอรถเหยื่อเครื่ิองยนต์ดับแล้ว ตนใช้มีดจี้คอบังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ พร้อมกับชิงเงินไปด้วย

...

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาอ้างว่า เหตุที่ลงมือข่มขืนเหยื่อ เพราะภรรยาของตนกำลังตั้งท้อง ร่วมหลับนอนด้วยไม่ได้ หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปทำงานก่อสร้างที่ จ.ชลบุรี เพิ่งจะเดินทางกลับมาเมื่อเร็วๆ นี้ และก็มาถูกจับ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้อาวุธ หรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมหรือรับของโจร จึงควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.