ม็อบยึดสวนปาล์มหมดสัมปทาน จ.กระบี่ กลับเข้าพื้นที่อีกครั้ง หลังจากถูกสลายไปเมื่อวานนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เตรียมแจ้งหน่วยงานต่างๆ ดำเนินคดี 

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 14 พ.ย.58 พ.ต.อ.ชำนาญ ชำนาญกิจ ผกก.สภ.ปลายพระยา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรปลายพระยา อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ เข้าแจ้งให้กลุ่มชาวบ้าน ในนามภาคีเครือข่ายเกษตรกรไร้ที่ดินทำกินจังหวัดกระบี่ กลุ่มประชาชนเพื่อประชาชน ออกจากพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน ของ บริษัทยูนิวานิช จำกัด พื้นที่หมู่ 5 และหมู่ 8 ต.ปลายพระยา ริมถนนสายเซาเทิร์นซีบอร์ด ซึ่งได้รวมตัวกันกลับมาชุมนุม สร้างที่พักชั่วคราวในพื้นที่อีกครั้ง หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่หลายหน่วย สนธิกำลังกว่า 1,100 นาย ได้เข้าผลักดันออกจากพื้นที่ ตามคำสั่งของ นายพินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ที่ออกประกาศบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 ห้ามบุคคล กลุ่มบุคคลใดปิดกั้น บุกรุก ยึดถือครอบครอง หรือเข้าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองพระยา อำเภอปลายพระยา ตั้งแต่เวลา 05.00 น.วันที่ 13 พฤศจิกายน ถึงเวลา 05.00 น.วันที่ 14 พฤศจิกายน 2558

...


นายชูวงศ์ มณีกุล ประธานภาคีเครือข่ายเกษตรกรไร้ที่ดินทำกินภาคใต้ เปิดเผยว่า สาเหตุที่กลับมาชุมนุมในพื้นที่อีกครั้ง เนื่องจากเลยระยะเวลาตามประกาศของจังหวัดกระบี่ ที่กำหนดไว้แล้ว และชาวบ้านเรียกร้องอย่างสันติ ต้องการให้กรมป่าไม้ยึดพื้นที่คืนมาจากเอกชน เนื่องจากหมดอายุสัมปทานมากว่า 1 ปี แล้วนำมาจัดสรรให้กับคนจน ตามมติ ครม. ปี 2546 แต่ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ที่ผ่านมา รัฐบาลไม่จริงใจในการแก้ปัญหาที่ดินทำกินให้กับคนจน ตามมติ ครม.ปี 2546 มีพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันที่หมดอายุสัมปทาน ในจังหวัดกระบี่ กว่า 10 ปี พื้นที่ กว่า 70,000 ไร่ ยังมีกลุ่มทุนครอบครอง เก็บเกี่ยวผลผลิตต่อเนื่อง

ขณะที่ พ.ต.อ.ชำนาญ ชำนาญกิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปลายพระยา เปิดเผยว่า ได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบแล้ว เพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มชาวบ้านที่บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติในที่ดินสัมปทานดังกล่าว ซึ่งต้องให้ทางผู้มีหน้าที่ คือ ป่าไม้ว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ทั้งนี้ทางตำรวจก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย เมื่อมีการแจ้งความดำเนินคดี