โซเชียลแชร์กระหน่ำ หนุ่มโพสต์ข้อความงานศพสาว วัย 20 ปี ครรภ์เป็นพิษเข้ารักษา รพ. ในสุพรรณฯ อ้างแพทย์ไม่พร้อมทำคลอด เสียชีวิตทั้งคู่แม่-ลูก สลดภาพพ่ออุ้มทารกยังไม่ทันลืมตาดูโลก ด้าน สสจ.ไม่นอนใจ ตั้งสอบแล้ว ยันเป็นธรรม...
เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 58 จากกรณีที่มีการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ "บุรุษนักรบนิรนาม โก๋ เมืองกาญจน์" และมีการแชร์กว่า 20,000 ครั้ง โดยข้อความระบุถึงความเศร้าสลดของครอบครัวหนึ่ง บรรยายภาพชายผู้เป็นพ่ออุ้มลูกทารกน้อยที่ยังไม่มีโอกาสแม้จะได้ลืมตาดูโลก เสียชีวิตพร้อมภรรยาสาววัย 20 ปี จากอาการครรภ์เป็นพิษ โดยก่อนหน้านำตัวส่ง รพ.แห่งหนึ่ง ในจ.สุพรรณบุรี ได้ทัน แพทย์ช่วยกันรักษาเป็นการด่วน กระทั่งแพทย์ที่รับฝากท้องพิเศษไว้มาถึง ญาติลงความเห็นว่าต้องให้รอดสักคนหนึ่ง อีกทั้ง อ้างถึงคำพูดของแพทย์ที่กล่าวว่าไม่สามารถผ่าทำคลอดให้ได้ เนื่องจากห้องผ่าตัดล็อก และไม่มีคนให้ยาสลบ สุดท้ายจึงต้องส่ง 2 แม่ลูกรักษาต่อที่ รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช และทั้งคู่ก็หมดลมหายใจในที่สุด ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของสามีและญาติ
...
ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ วัดศรีจันทร์ภาวนาราม หมู่ 3 ต.สามชุก อ.สามชุก ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศก โดย นายสุริยัน หลงจู อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 626/1 หมู่ 2 ต.สามชุก สามี น.ส.รวีนิภา ตุ่นเฮ้า อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/4 หมู่ 3 ต.สามชุก ผู้เสียชีวิตพร้อมกับ ด.ญ.อัยรดา หลงจู หรือ น้องอัยย์ อายุครรภ์ 8 เดือนเศษ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อเวลา 01.15 น. วันที่ 12 พ.ย. ภรรยาบ่นว่าแน่นหน้าอกและไอเป็นเลือด จึงรีบพาไปส่งรักษาที่ รพ. โดยแพทย์เวรได้นำตัวเข้ารักษายังห้องฉุกเฉินเป็นการด่วน จนอาการเริ่มดีขึ้น ก่อนให้นอนพักรักษาที่ห้องผู้ป่วยรวมเพื่อดูอาการ แต่ระหว่างนั้นมีอาการกำเริบขึ้นอีก จึงเรียกแพทย์มาดูปรากฏว่าอาการเริ่มทรุด โดยแพทย์บอกว่าภรรยาหายใจเองไม่ได้ ต้องปั๊มหัวใจตลอด เนื่องจากมีอาการครรภ์เป็นพิษ
นายสุริยัน กล่าวอีกว่า บอกกับแพทย์ว่าฝากครรภ์พิเศษไว้แล้ว ก่อนจะเรียกญาติมาคุย และขอให้ติดต่อแพทย์ที่ฝากคลอดพิเศษเพื่อผ่าทำคลอดช่วยเหลือเด็กออกมา เพราะแม่ของเด็กอาการแย่แล้ว แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถช่วยเหลือทั้งคู่ไว้ได้ ทำให้สามี และญาติติดใจว่าถ้าไม่มีความพร้อม เหตุใดจึงไม่ส่งโรงพยาบาลใหญ่ เพราะคนไข้วิกฤติมาก
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อ นพ.ชัยวัฒน์ จัตตุพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ได้มอบหมายให้ นายเอนก อ่ำสกุล นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญด้านส่งเสริมและพัฒนา พร้อมทีมงาน เดินทางมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวน ซึ่งหากพบว่าเป็นความบกพร่องของแพทย์ที่ดูแลรักษา จะต้องมีมาตรการลงโทษอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ทางสาธารณสุขจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ และรู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน โดยจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายแน่นอน.