รอง ผอ.สดร.เผย 13 พ.ย.นี้จะมีขยะอวกาศร่วงจากฟ้าตกในมหาสมุทรอินเดีย แถวศรีลังกา เป็นเพียงแสงวาบในตอนกลางวัน ไม่ต้องตกใจ ไม่มีอันตราย คล้ายกับที่เห็นบนฟ้าเมืองไทย 2 ครั้งที่ผ่านมา เผยในอวกาศมีเศษวัสดุนับล้านชิ้น...
เมื่อวันที่ 11 พ.ย.58 ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) เปิดเผยว่าในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 จะมีวัตถุ WT1190F เคลื่อนที่เข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกในเวลาประมาณ 13.19 น. ตามเวลาประเทศไทย ตกบริเวณมหาสมุทรอินเดีย ห่างจากชายฝั่งทางทิศใต้ของประเทศศรีลังกา ประมาณ 100 กิโลเมตร ผู้คนในบริเวณใกล้เคียงจะเห็นชิ้นส่วนขยะอวกาศเป็นเพียงแสงวาบในตอนกลางวันเท่านั้น
ทั้งนี้ WT1190F ถูกค้นพบโดยหอดูดาวคาทาลินาสกายเซอร์เวย์ สหรัฐอเมริกา ในปี 2013 ในระยะแรกที่วัตถุนี้ถูกค้นพบ ยังไม่สามารถระบุประเภทได้ จนกระทั่งมีการเฝ้าติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยศูนย์ประสานงานการติดตามวัตถุใกล้โลก (Near Earth Objects Coordination Centre: NEOCC) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้องค์การอวกาศยุโรป (ESA) และยืนยันว่าวัตถุดังกล่าวเป็นชิ้นส่วนของจรวดที่ดีดตัวออกมาในขณะที่ส่งยานขึ้นสู่อวกาศและโคจรอยู่เหนือชั้นบรรยากาศโลกด้วยวงโคจรที่รีมาก มีความหนาแน่นน้อยมาก และมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเพียงไม่กี่เมตร อาจลุกไหม้หมดขณะที่เคลื่อนที่เข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก
...
ดร.ศรัณย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาเกิดปรากฏการณ์ลูกไฟตกจากฟ้าในเมืองไทยถึงสองครั้ง นับเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่สามารถอธิบายได้โดยวิทยาศาสตร์ เนื่องจากในอวกาศมีเศษวัตถุหลายประเภทโคจรอยู่เป็นจำนวนนับล้านชิ้นจึงมีโอกาสที่เข้ามาในบรรยากาศโลกอยู่เสมอ แต่อาจตกในบริเวณมหาสมุทร ภูเขา ป่าทึบ หรือในที่ๆ ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ จึงไม่เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนบนโลก
สำหรับกรณี WT1190F วันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ ก็เช่นกัน เราอาจเห็นเพียงแสงวาบในตอนกลางวันเท่านั้น ไม่มีอันตรายหรือผลกระทบใดๆ ต่อโลก.