ซีสังเกตว่า ตอนนี้คนในเมืองเริ่มนำความก้าวหน้าของโลกเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน มาใช้ในการป้องกันตัวเอง หรือเป็นพยานสำคัญที่ทำให้เราปลอดภัยจากเหตุการณ์ต่างๆ โดยการ “ติดกล้องหน้ารถ” มันนิยมขนาดที่ว่าไม่ใช่แค่รถเก๋งเท่านั้นที่ติด แต่ตอนนี้มอเตอร์ไซค์ก็เริ่มติดแล้วด้วยนะคะ
กล้องติดหน้ารถ ทำหน้าที่เป็นกล้องสำหรับบันทึกเหตุการณ์ขณะขับขี่ ถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็ก ใช้งานง่าย โดยใช้ไฟฟ้าจากรถยนต์ และติดตั้งระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ คือเมื่อเราสตาร์ทรถ กล้องจึงจะเริ่มทำงาน และปิดเองเมื่อเราดับเครื่องยนต์นั่นเอง
สำหรับหน่วยความจำ ส่วนใหญ่จะใช้หน่วยความจำอย่างเมมโมรี่การ์ดเป็นตัวเก็บไฟล์วิดีโอ แต่แน่นอนค่ะ หากบันทึกภาพตลอดเวลา การ์ดก็ต้องเต็มอย่างรวดเร็ว เลยทำให้กล้องหลายรุ่นจะมีระบบจัดไฟล์อัตโนมัติ เช่น ลบไฟล์เก่าทิ้ง แบ่งไฟล์เป็นพาร์ตเล็กๆ รวมถึงลดความละเอียดเมื่อรถเคลื่อนที่ช้าหรือหยุด ซึ่งช่วยลดขนาดไฟล์ ทำให้เราไม่ต้องวุ่นวายในการจัดการกับไฟล์ด้วยตัวเอง
อุบัติเหตุและภัยต่างๆ บนท้องถนน เริ่มทวีคูณความเข้มข้นและซับซ้อนขึ้นทุกวัน จะเห็นได้ว่ามันถูกประณามด้วย “คลิปวิดีโอ” จากกล้องหน้ารถ ลงสื่อสังคมออนไลน์บ่อยครั้ง แชร์ในยูทูบบ้าง เฟซบุ๊กบ้าง
ขนาดตำรวจสั่งติดกล้องทุกพื้นที่ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี และลดการปะทะกับประชาชน แต่ยังไงมันก็ยังไม่ทั่วถึงอยู่ดี ภาพจากกล้องหน้ารถเนี่ย จึงเป็นหลักฐานสำคัญที่เป็นความจริงที่สุดในยามคับขัน ที่สามารถช่วยเราได้ดีกว่าการเล่าเรื่องด้วยปาก เนื่องจากเวลาเกิดอุบัติเหตุ ต่างคนต่างคิดว่าตนเป็นฝ่ายถูก
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ทุกวันนี้ เราอาจจะเรียกคนกลุ่มนั้นว่า “ตำรวจประชาชน” หรือ “นักข่าวประชาชน” ก็ได้ เพราะการที่นำภาพจากกล้องไปลงโซเชียลมีเดียมีประโยชน์มาก มันช่วยขยายผลในการจับกุม และสามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดได้ในหลายๆ เหตุการณ์จริง เผลอๆ อาจจะเรียกว่าได้ว่า “ตำรวจจับตำรวจ” เพราะไม่ใช่แค่บันทึกอุบัติเหตุบนท้องถนน แต่ยังสามารถตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ไปในตัว ในการยืนยันว่าเราบริสุทธิ์บนท้องถนนจริงรึเปล่า?
...
ซีขอสรุปคร่าวๆ ว่าทำไมถึง “ต้องมีกล้องติดหน้ารถ”
ข้อแรกเนี่ยส่วนตัวนิดนึงนะ ซีว่ามันดีมากสำหรับผู้หญิงอย่างเรา เพราะทุกวันนี้มีสารพัดโจรเลย ผู้หญิงที่ขับรถคนเดียวก็ควรมีไว้ป้องกันตัวนะจ๊ะ เผื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุบนถนน ใครถูก ใครผิด ก็ไม่ต้องมานั่งเถียงกันให้เสียเวลา บางทีจอดรถไว้อยู่ดีๆ ก็มีคนมากรีดรถ ถอยมาชนแล้วหนี ภาพมันฟ้องทุกอย่าง! ง่ายๆ คือ มันเป็นหลักฐานที่ช่วยพิสูจน์โดยไม่ต้องสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น แถมเผลอๆ เพิ่มความเร็วในการเรียกร้องประกันได้ด้วย
ย้อนดูวิดีโอที่บันทึก ย้อนดูตัวเอง จะได้นำมาปรับปรุงถ้าเราขับขี่ไม่ดี
กล้องบางรุ่นสามารถใช้ข้อมูล GPS ซึ่งจะแสดงตำแหน่งยานพาหนะ และแสดงผลการบันทึกเส้นทางที่รถวิ่งอยู่ได้ แสดงว่าภาพถ่ายที่ไหน ใช้ความเร็วเท่าไร
รู้สึกมั่นใจและปลอดภัยที่จะรู้ว่า ที่ๆ คุณไปจะถูกบันทึกไว้ แม้แต่เสียงยังสามารถบันทึกได้ ยิ่งทุกวันนี้พวกเราใช้เวลาอยู่บนท้องถนนกันมากเหลือเกิน
วิธีการเลือกซื้อ หรือข้อควรคำนึง
วัตถุประสงค์การใช้งาน - กล้องตัวหนึ่งอาจทำได้หลายอย่าง เช่น บันทึกวิดีโอ ภาพถ่าย เป็นกล้องวงจรปิด หรือบางรุ่นอาจมี GPS ในตัวด้วย เลือกให้เหมาะสมกับตัวเรา เหมาะสมกับการใช้งานของเรา เพื่อประโยชน์สูงสุดนะคะ
ขนาดของกล้อง - ไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ถ้ารถของคุณเป็นรถขนาดเล็ก แล้วติดกล้องที่มีขนาดใหญ่ มันจะทำให้กล้องไปบังทัศนวิสัยการมองเห็น ก็จะไม่ดีนะคะ
ความคมชัดของวิดีโอ - สำคัญมากนะคะข้อนี้ จำเป็นต้องมีภาพที่ดี มีความคมชัดสูงสุด ปัจจุบันกล้องติดรถยนต์เดี๋ยวนี้มีกล้องที่ให้ภาพคมชัดสูงสุดระดับ Full HD ในราคาหลักพันบาทขึ้นไปก็มี กล้องบางรุ่นอาจให้ภาพที่คมชัดในตอนกลางวัน แต่เมื่อใช้งานตอนกลางคืนแล้วคุณภาพไฟล์เข้าขั้นแย่ ดูตัวเองก่อนว่าเราใช้งานในเวลาไหน แต่หากอยากจะเน้นราคาถูกไว้ก่อน นั่นหมายถึงคุณภาพที่ต่ำลงมาด้วยนะคะ อย่างเช่นขับกลางคืนกล้องก็แทบจะมองไม่เห็นอะไรเลย
อย่าลืมเรื่องฟิล์มหน้ารถด้วยนะคะ ฟิล์มหน้ารถก็มีส่วนทำให้ถ่ายไม่ชัดตอนกลางคืน ซีว่าถ้าจะซื้อ ก็ซื้ออันที่แบบติดแล้วไม่ต้องยุ่งกับมันอีกเลยดีกว่า
G-sensor - คือเซ็นเซอร์วัดแรงสั่นสะเทือน เมื่อเกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เช่น เบรกกะทันหัน เกิดการชนขึ้น กล้องจะทำการป้องกันไม่ให้ไฟล์ที่กำลังบันทึกอยู่ถูกเขียนทับ โดยไฟล์ที่ถูกการบันทึกจะดึงช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุการณ์มารวมเอาไว้อยู่ในไฟล์ เพื่อที่เมื่อเราเปิดไฟล์ขึ้นมาดู จะได้รู้ว่าสาเหตุนั้นเกิดจากอะไร
มุมมองภาพกว้าง - ซื้อกล้องติดรถยนต์ที่เลนส์มุมกว้าง 120 องศาขึ้นไป สามารถบันทึกรายละเอียดภาพได้มุมกว้าง มองเห็นได้เยอะกว่า ส่วนกล้องติดรถมุมมองแคบ เมื่อเกิดเหตุอาจจะบันทึกภาพได้แค่หน้ารถเท่านั้น ไม่สามารถเก็บมุมมองด้านข้างรถได้
...
หาดูรีวิวจากอินเตอร์เน็ต, Youtube - หาดูรีวิวกล้องติดรถยนต์ที่มาจากผู้ใช้งานจริง ภาพจากการใช้งานจะสามารถบอกได้ว่ากล้องรุ่นที่เราสนใจ มีคุณสมบัติเป็นอย่างไร ยิ่งรีวิวเยอะ ยิ่งมีตัวเปรียบเทียบเยอะ และช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
จริงๆ แล้ว กล้องติดรถยนต์อาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญต่อการขับขี่ แต่ในยามที่เกิดเหตุไม่คาดคิด มันจะเป็นพยานสำคัญที่จะช่วยเราได้ ในกรณีที่เราไม่ผิด แต่ถ้าเราผิดมันก็จะเป็นเครื่องเตือนสติให้เรากลับมาพิจารณาว่าเหตุเกิดจากอะไร และควรปรับปรุงอย่างไร ขับรถด้วยความระมัดระวังกันดีกว่านะคะ...