นักท่องเที่ยวได้เฮ! บั้งไฟพญานาค ผุดให้เห็นกลางน้ำโขง ที่ จ.หนองคาย โดยพื้นที่ริมแม่น้ำโขงถูกจับจองจนเต็มตั้งแต่ช่วงบ่าย ส่วนที่ นครพนม นักท่องเที่ยวนับแสน แห่ชมไหลเรือไฟ ซึ่งมีการประดับตกแต่งอย่างสวยงาม ...
วันที่ 27 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศริมฝั่งแม่น้ำโขง จ.หนองคาย สถานที่ชมบั้งไฟพญานาค ว่า พื้นที่ริมฝั่งโขงนั้นถูกจองเต็มทุกพื้นที่ตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา กระทั่งช่วงค่ำ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีบวงสรวงพญานาค บริเวณหน้าวัดไทย อ.โพนพิสัย
จากนั้น เวลา 18.16 น. มีเสียงเฮจากนักท่องเที่ยว หลังบั้งไฟพญานาคผุดให้เห็นกลางแม่น้ำโขง ที่บ้านโพนแพง ต.โพนแพง อ.รัตนวาปี จำนวน 33 ลูก โดยขึ้นเป็นชุดต่อๆ กัน หลังจากนั้นเวลา 18.55 น. ได้เกิดบั้งไฟพญานาคขึ้นอีกที ที่บ้านตาลชุม ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี จำนวน 8 ลูก, บ้านปากสวย อ.โพนพิสัย 4 ลูก และ บ้านหนองกุ้ง อ.โพนพิสัย 3 ลูก
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่เวลา 18.16 น. จนถึงเวลา 19.00 น. มีบั้งไฟพญานาค เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ อย่างน้อย 255 ลูกแล้ว
...
ขณะที่ จ.นครพนม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการท่องเที่ยว งานประเพณีออกพรรษาไหลเรือ และงานกาชาด ประจำปี 2558 เป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชน นักท่องเที่ยว จากทั่วสารทิศ นับแสน เดินทางเข้ามาเที่ยวชมการประกวดไหลเรือไฟ ประจำปี 2558 ตลอดแนวริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ซึ่งถือเป็นประเพณีสำคัญของ จ.นครพนม ที่สืบทอดกันมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา แด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมถึงหลวงพ่อพญานาค ที่ปกปักษ์รักษาแม่น้ำโขง อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยในปีนี้มีชาวบ้าน จากทั้ง 12 อำเภอ ได้ร่วมแรงร่วมใจ อาสามาสร้างเรือไฟ แบบไม่มีค่าจ้างรางวัล จำนวนมากถึง 13 ลำ ไหลโชว์อวดสายตา ประชาชน นักท่องเที่ยว มีขาดความยาวตั้งแต่ 50 – 100 เมตร สูงประมาณ 30 – 50 เมตร ใช้ตะเกียงตกแต่งมากกว่า 30,000 – 40,000 ดวง ใช้งบประมาณก่อสร้างนับล้านบาท
โดยลวดลายส่วนใหญ่ จะมีการประดับตกแต่งตะเกียงไฟจากกระป๋องวัสดุเหลือใช้ ทำเป็นตะเกียงแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน เติมด้วยน้ำมันดีเซล ประดับตกแต่ง ออกมาส่องสว่างเป็นลวดลาย พระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมถึงสมเด็จพระนางเจ้าฯ บรมราชินีนาถ ไปจนถึงเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ แสดงออกถึงความจงรักภักดี นอกจากนี้ยังมีการประดับตกแต่งเป็นสัญลักษณ์ เกี่ยวกับกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ไบค์ฟอร์มัม และการประชาสัมพันธ์ในเรื่องของการเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
นอกจากนี้ ในส่วนของเรือไฟ ที่เป็นไฮไลต์ของงาน จะมีประมาณ 3-4 ลำ ส่วนใหญ่เป็นเรือไฟแชมป์เก่าเจ้าของรางวัลชนะเลิศในปีที่ผ่านมา อาทิ เรือไฟอำเภอโพนสวรรค์ เรือไฟอำเภอนาทม เรือไฟอำเภอศรีสงคราม ซึ่งมีการทุ่มทุนสร้างมูลค่านับล้าน และยังมีการพัฒนาเป็นภาพเคลื่อนไหว ภาพ 3 มิติ สร้างความตื่นตาตื่นใจ ให้กับประชาชน นักท่องเที่ยว เป็นอย่างมาก ซึ่งในปีนี้ถือว่ามีประชาชน เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว คึกคักกว่าทุกปี คาดว่าจะมีมากถึงแสนคน