สถานการณ์หมอกควันไฟป่าในสิงคโปร์ย่ำแย่ลง โดยวัดค่าพีเอสไออยู่ในเกณฑ์เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ขณะที่ผู้นำอินโดนีเซีย ประกาศจะไม่ให้สัมปทานพื้นที่ป่าพรุอีกต่อไป เพื่อแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่าในระยะยาว
นายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย กล่าวในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ว่า จะไม่มีการให้สัมปทานพื้นที่ป่าพรุกับบริษัทเอกชนอีกต่อไป เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาไฟป่าในระยะยาว โดยได้ปรึกษาเรื่องนี้กับรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมเรียบร้อยแล้ว โดยล่าสุดจำนวนผู้ได้รับผลกระทบจากหมอกควันไฟป่ายังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ทางการกำลังเร่งวางแผนที่จะอพยพประชาชนที่อยู่ในพื้นที่วิกฤติ โดยทุกหน่วยงานจะต้องวางแนวทางไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อเร่งรับมือกับวิกฤติครั้งนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด และกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาการให้สัมปทานพื้นที่ป่าพรุที่ยังเหลืออยู่ นอกจากนี้ ผู้นำอินโดนีเซียยังสั่งการให้รัฐมนตรีที่รับผิดชอบลงพื้นที่ด้วยตัวเอง เพื่อจัดการกับปัญหาให้ตรงจุด
อย่างไรก็ตาม กลุ่มกรีนพีซยังคงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล โดยเร่งให้ภาครัฐดำเนินการขั้นเด็ดขาด ในการระงับการให้สัมปทานพื้นที่ป่าพรุแก่เอกชนไปก่อน ขณะที่ กระทรวงสิ่งแวดล้อมและป่าไม้ เปิดเผยว่า ร้อยละ 90 ของเหตุไฟป่าที่เกิดขึ้นในปีนี้ เกิดจากฝีมือของมนุษย์ ขณะที่จุดฮอตสปอตในเกาะสุมาตรา และกาลิมันตัน ในพื้นที่ กว่า 1 หมื่น 6 ร้อยไร่ อยู่ในพื้นที่สัมปทานของบริษัทรวม 413 แห่ง
โดยคุณภาพอากาศในกาลิมันตัน เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สามารถวัดค่าดัชนีมาตรฐานมลพิษทางอากาศ หรือไอเอสพียู ได้สูงถึง 1,950 ซึ่งสูงเกินกว่าระดับอันตรายที่อยู่เพียงแค่ 300-500
ขณะที่ สิงคโปร์ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันหนาอีกครั้ง โดยสามารถตรวจวัดค่าดัชนีมาตรฐานมลพิษ หรือ ค่าพีเอสไอ เฉลี่ยในรอบ 3 ชั่วโมง อยู่ที่ 175 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยสถานการณ์หมอกควันไฟป่าที่เลวร้ายลงครั้งนี้ เป็นผลมาจากความล้มเหลวในการดับไฟป่าของอินโดนีเซีย และคาดว่าสถานการณ์หมอกควันไฟป่าอาจยาวนานไปถึงเดือนมีนาคมปีหน้า หากฝนยังไม่ตกลงมาตามฤดูกาลในเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนนี้
...