(เครื่องบินทิ้งระเบิดรัสเซียถล่มเป้าหมายไอซิส)
นักวิเคราะห์สายทหารต่างชาติ เตือนสงครามโลกครั้งที่ 3 อุบัติขึ้นได้ใน 30 วินาที โดยมีสงครามกลางเมืองในซีเรียเป็นชนวนระเบิด ชี้หากมีบินรบของชาติใดตก อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด และเป็นตัวจุดชนวนสงคราม เพราะตอนนี้ สหรัฐฯ และรัสเซีย มีชาติพันธมิตรแสดงตนเป็นพวกชัดเจน แถมจีนก็ส่งเรือบรรทุกเครื่องบินมาแล้ว
เดอะ มิร์เรอร์ ออนไลน์ สื่อในอังกฤษรายงานความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์สายทหารต่างชาติ ซึ่งคร่ำหวอดเชี่ยวชาญเรื่องราวของสงครามมานาน เตือนว่า สงครามโลกครั้งที่ 3 สามารถอุบัติขึ้นได้ภายในเวลาแค่ 30 วินาที โดยมีชนวนจากสถานการณ์สงครามกลางเมืองในประเทศซีเรีย ซึ่งตอนนี้ หลายประเทศได้เข้ามายุ่งเกี่ยวและแยกออกเป็นสองฝ่ายชัดเจน นั่นคือ ฝ่ายสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร 11 ชาติ ที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาลประธานาธิบดี บาชาร์ อัล อัสซาดแห่งซีเรีย กับฝ่ายรัสเซีย และพันธมิตร ที่สนับสนุนประธานาธิบดีอัล อัสซาด ตอนนี้มีอยู่ 4 ชาติ คือ อิหร่าน จีน เลบานอน และอิรัก
นักวิเคราะห์สายทหารมากประสบการณ์คนหนึ่ง แสดงความเห็นว่า จากการที่มีเครื่องบินรบของสหรัฐฯ และพันธมิตรหลายลำบินเข้ามาโจมตีทางอากาศถล่มกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือไอซิส ในประเทศซีเรีย ทำให้เกิดความกังวลว่าหากมีเครื่องบินลำใดลำหนึ่งประสบเหตุตก จะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดว่า เป็นฝีมือของชาติฝ่ายตรงข้าม และเป็นชนวนให้เกิดการสู้รบระหว่างสองฝ่าย
...
พล.ท.ชาร์ลส์ บราวน์ ผู้บัญชาการปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของกองกำลังสหรัฐฯ ในซีเรียกล่าวว่า ได้เกิดเหตุระทึก เครื่องบินรบสหรัฐฯและรัสเซียหวุดหวิดจะชนกันกลางอากาศขณะปฏิบัติการโจมตีกลุ่มไอซิส เพราะอยู่ห่างกันแค่ 20 ไมล์เท่านั้น ซึ่งความเร็วของเครื่องบินรบทั้งสองลำ สามารถทำให้เกิดหายนะ เครื่องบินรบของสองฝ่ายอาจชนกันได้ภายในเวลา 30 วินาที
ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า เรือบรรทุกเครื่องบิน Liononing ของจีนได้เดินทางมาประจำการในทะเลเมดิเตอร์เรเนียยน นอกชายฝั่งของประเทศซีเรียแล้ว ซึ่งพร้อมจะส่งเครื่องบินรบ J-15 เข้าร่วมในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรีย
ขณะที่ กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้มีการเผยแพร่ภาพเหตุการณ์เครื่องบินรบรัสเซียโจมตีทางอากาศถล่มกลุ่มไอซิสในซีเรียอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เริ่มเปิดฉากโจมตีครั้งแรกเมื่อ 30 ก.ย. โดยล่าสุด กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ได้แพร่ภาพการโจมตี ยานลำเลียงหุ้มเกราะของกลุ่มไอซิส และคลังเก็บน้ำมันในจังหวัดอิดหลิบ เมื่อวันที่ 15 ต.ค. พร้อมระบุ เครื่องบินรบรัสเซียถล่มเป้าหมายไอซิสถึง 32 แห่งในช่วง 24 ชั่วโมง
...
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทั้ง สหรัฐฯ และรัสเซีย รวมถึงชาติพันธมิตร ได้มีการเคลื่อนไหวทางการทูตอย่างชัดเจน โดย มีการพบปะเจรจากับชาติพันธมิตรเกี่ยวกับสถานการณ์สงครามกลางเมืองในซีเรีย อาทิ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย เดินทางไปเยือนคาซัคสถาน เมื่อ 15 ต.ค.เพื่อหารือกับประธานาธิบดีนูร์สุลต่าน นาซาร์บาเยฟ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจและสงครามในซีเรีย
ส่วน นายอาเดล อัล จูเบียร์ รมว.ต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ ได้เดินทางไปยังกรุงอังการา เมืองหลวงตุรกี เมื่อ 15 ต.ค.และได้มีการเจรจากับ รมว.ต่างประเทศ ซึ่งรมว.ต่างประเทศทั้งสองยังคงย้ำจุดยืนไม่ต้องการให้ประธานาธิบดีอัล อัสซาดมีบทบาทในอนาคตของซีเรีย