วันที่ 28 กันยายนนี้ รองผู้ว่าฯ เตรียมหมายศาลแปะหน้าร้านที่ดื้อแพ่ง ให้เวลา 15 วัน หากไม่ยอมรื้อถอน เจ้าหน้าที่จะเข้ารื้อถอนทันที โดยไม่มีข้อต่อรอง พร้อมดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย เผย ผู้ค้าทำผิดกฎหมายมามากกว่า 10 ปี
ภายหลังการประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาผู้บุกรุกคลองโอ่งอ่าง ตั้งแต่บริเวณ สะพานดำรงสถิตย์ ถึง สะพานบพิตรพิมุข ซึ่งได้มีการปลูกสร้างอาคารรุกล้ำคลอง ปิดทางระบายน้ำสาธารณะ มีการตั้งแผงค้าอย่างแออัด กทม. จึงได้ปิดประกาศแจ้งให้เจ้าของผู้ครอบครองอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างนั้น รื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง โดยวันนี้ กทม. ได้ลงพื้นที่ ทำความเข้าใจเพื่อให้ผู้ค้าทราบ ซึ่งผู้ค้า เจ้าของอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างจะต้องรื้อถอนและย้ายออกนั้น
ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ได้พูดคุยกับทาง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่นี้โดยตรง ได้เปิดเผยว่า ทางสำนักงานเขตได้นำป้ายประกาศไปติดบริเวณสะพานเหล็กและพื้นที่ ที่ถูกรุกล้ำ โดยในป้ายได้อธิบายรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับโทษที่จะได้รับ หากยังฝ่าฝืนตั้งแผงค้าบริเวรดังกล่าว ทั้งนี้หากผู้ค้ายังไม่ดำเนินการรื้อถอนให้เสร็จสิ้น ภายในวันที่ 28 กันยายน ทาง กทม. มีความจำเป็นต้องนำหมายศาลสั่งให้รื้อถอนไปติดไว้หน้าร้านค้า จากนั้นจะให้เวลาอีก 15 วัน ถ้าหากยังดึงดันไม่ยอมรื้อ ทาง กทม. จะให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการรื้อถอนโดยไม่มีข้อต่อรองแต่อย่างใด
"ขณะนี้ผู้ค้าหลายรายเค้ารู้ตัวแล้ว ว่าเค้ากระทำความผิดบุกรุกพื้นที่หลวง ซึ่งก็ได้ขยับขยายไปขายในพื้นที่ใกล้เคียงที่ทาง กทม. จัดไว้ให้ ถ้าพื้นที่ไม่เพียงพอ ทาง กทม. ก็มีพื้นที่รองรับทั่วกรุงเทพฯ ที่ว่างอยู่หลายที่ ในส่วนของเงินชดเชยของผู้ค้า กทม. ไม่มีความจำเป็นต้องจ่ายให้ เพราะผู้ค้าพวกนี้เขาทำผิดตั้งแต่ต้น บุกรุกที่หลวงมามากกว่า 10 ปี เพราะที่ตรงจุดนี้เป็นคลองโอ่งอ่างซึ่งถือเป็นโบราณสถาน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2519 และเป็นคลองระบายน้ำกรุงเทพฯ ชั้นใน แต่พ่อค้าแม่ค้าร้านต่างๆ พากันเอาปูนมาโบกทับที่คลอง น้ำก็ระบายออกไม่ได้ เจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำการลอกคลองมาหลายสิบปีแล้ว ที่สำคัญศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้รื้อถอนตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่ไม่มีใครดำเนินการสักที" รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าว
...
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า หากร้านค้าไม่ยอมรื้อถอนตามกำหนด จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย มีโทษทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งหากทาง กทม. ส่งเจ้าหน้าที่ไปรื้อถอน ก็จะเก็บค่าใช้จ่ายในการรื้อทั้งหมดกับเจ้าของร้าน และดำเนินคดีแบบไม่มีข้อยกเว้น เนื่องจากทาง กทม. ได้ยืดระยะเวลาให้ยาวนานมากแล้ว เบื้องต้นได้เตรียมตลาดหลังพาต้าปิ่นเกล้า (สายใต้เก่า) ไว้รองรับร้านค้าที่เต็มใจจะย้ายไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างในคลองโอ่งอ่าง ตั้งแผงจำหน่ายสินค้าทั้งสิ้น 500 แผง แบ่งเป็นพื้นที่เขตสัมพันธวงศ์ 125 ราย เขตพระนคร 375 ราย