นายกฯ ซัดนักการเมืองไม่ละอายชี้นำคว่ำรธน. ยกเสียงประชาชน 60 ล้านสู้ถามกลัวอะไรกับคปป. ไม่สนพรรคขู่บอยคอตเลือกตั้ง เทียบตัวเป็นนกกระสาทำความสะอาดบ่อให้กบ...

เมื่อวันที่ 28 ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวภายหลังเดินทางกลับจากการเยือนประเทศฟิลิปปินส์ ว่า เรื่องสถานการณ์ทางการเมือง ตนได้บอกกับทางฟิลิปปินส์ว่าประเทศไทยกำลังเดินตามโรดแม็ปอยู่ ในเรื่องของการเตรียมการทำรัฐธรรมนูญ เตรียมการทำประชามติ ถ้าขั้นที่ 1 ผ่านก็ขั้นที่ 2 และขั้นที่ 3 สู่การเลือกตั้ง ซึ่งตนยืนยันในเจตนารมณ์ของเราจะไม่ไปฝืนในสิ่งที่ทำไว้เดิมก็คือโรดแม็ป ซึ่งคนที่ทำไม่ให้เป็นไปตามโรดแม็ปก็พวกที่ออกมาพูดจากันอยู่ขณะนี้ และทำให้ประชาชนสับสน

“ฉะนั้นอย่าดูถูกประชาชน อย่าไปชี้นำ ไม่ใช่ผมไม่รับผิดชอบ แต่เคยบอกแล้วว่า บ้านเราเมืองเรา การเมืองเราให้ท่านทำมาตั้งนานแล้ว ท่านก็แก้ไขอะไรไม่ได้สักที ฉะนั้น วันนี้ผมเป็นกรรมการ ก็สามารถกำหนดกติกาออกมาได้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับคนดู ประชาชนที่รับประโยชน์ว่า เขาโอเคไหม ถ้าเขาโอเคควรที่จะมีกติกาใหม่หรือเปล่า ก็ไปว่ากันมา ไม่ได้ต้องการที่จะมีอำนาจเหนือใครทั้งสิ้น”

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.) ว่า จะไปกลัวอะไรกันนักหนา สื่อมวลชนเข้าใจไหม อธิบายได้ไหม หรือวิจารณ์อะไรไปเรื่อยเปื่อย เข้าใจเขาเขียนว่ายังไง อ่านหรือยัง แล้วมันดีหรือไม่ดีในความคิดของสื่อ หรือไม่เป็นประชาธิปไตย แล้วประชาธิปไตยที่ผ่านมา มันเป็นอย่างไร คิดให้มันต่อเนื่อง หรือต้องการประชาธิปไตยที่เป็นแบบเก่ามาหลายสิบปี ซึ่งมีรัฐธรรมนูญหลายฉบับมาแล้ว หากฉบับนี้จะเปลี่ยนแปลงก็ให้ขึ้นอยู่กับประชาชน ให้ประชาชนคิดว่า เขาจะได้อะไร หรือไม่ได้อะไร ไม่ใช่เราไปชี้นำ พวกเราต้องออกมาแสดงความคิดเห็นที่เป็นประชาธิปไตย ที่ผ่านมาก็พูดแบบนี้ ตีมาแบบนี้ ก็พูดแบบเดิม

...

“ไม่รู้จักละอายบ้างนะ ผมว่าคนดีๆ ผมไม่ไปแตะต้องอยู่แล้ว ไม่ไปยุ่งกับท่าน แต่คนที่มีปัญหาชอบมาพูดนี้ พูดโน้น ประชาชนก็ตัดสินเอาแล้วกัน ผมขี้เกียจไปทะเลาะด้วย”

ส่วนกรณีพรรคการเมืองจับมือคว่ำรัฐธรรมนูญ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า “จะจับมือคว่ำได้อย่างไร เขามีกี่คน ประชาชนมีกี่คน นักการเมืองมีถึงร้อยไหม หรือสองร้อย ประชาชนที่เหลือมีเท่าไร 60 กว่าล้านคน แล้วท่านจะให้เขาชี้นำในเรื่องที่ทำให้เกิดปัญหาหรือเปล่าไม่รู้ ไปเลือกกันเอาเอง ผมทำมาให้ขนาดนี้แล้ว ก็ไปเลือกกันเอาเอง"

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวกรณีพรรคการเมืองพรรคใหญ่จะไม่ลงเลือกตั้ง ว่า ถ้าไม่ลงก็อย่าลง ตนไม่ได้ไปเกี่ยวข้อง ไม่ได้ไปลงเลือกตั้ง แต่มีหน้าที่ไปเลือก ถ้าไม่ดีก็กาไม่เลือกใครเท่านั้นเอง เขามีทางเลือกอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องมาขัดแย้ง มาเดินขบวนสู้กันอีก มันก็เกิดมาแล้ว ก่อนวันที่ 22 พ.ค.57 เลือกตั้งครั้งที่แล้วมันเกิดหรือเปล่า ฉะนั้น วันนี้คนที่ออกมาพูดทั้งหมด เปิดเวทีแถลงมาว่า จะไม่เกิดเรื่องราวอย่างเดิมขึ้นมาอีก ทุจริตผิดกฎหมาย ทับซ้อนการใช้อำนาจ ไม่ใช่ปล่อยแล้วให้ตนมาแก้ให้ พอแก้ให้ก็มาเล่นงานตน แล้ววันหน้าเขาก็ไม่รับผิดชอบ คนอย่างนี้ท่านให้เขาพูดได้เหรอ คุณเชื่อเขาหรือเชื่อตน ให้เครดิตเขาหรือตน ท่านตัดสินเอาเอง

“วันนี้ ผมไม่ได้ทำตัวแบบนกระสาที่มาจิกกินกบ มันไม่ใช่ แต่ผมมาทำให้สระนี้สงบเงียบเรียบร้อย พวกเราคือกบ ไม่ได้ดูถูกใครนะ เปรียบเทียบกันง่ายๆ เราก็อยู่กันสงบเรียบร้อย น้ำก็ใส ท่านจะไปหากินที่ไหนก็ได้ แล้วท่านจะไปหานกกระสาที่ไหนมาอีก ถึงเวลาเดี๋ยวเขาก็เลือกกันมาเอง อย่าไปกังวลนักหนาเลย อีกตั้งหลายขั้นตอน ยุ่งกันไปหมดแหละ ก็เหมือนกับการชี้นำ แทนที่จะไปโทษคนพูด ก็มาโทษผมอีกว่าชี้นำ ดีเหมือนกัน”

พร้อมระบุ ที่ตนมาอยู่ตรงนี้ได้ เพราะเขาไม่ทำตามกรอบ เขาไม่ปล่อยให้ทุกคนทำหน้าที่ในทางที่ถูกที่ควร นั่นล่ะคือปัญหา ฉะนั้นวันนี้สิ่งที่เราเป็นห่วงกันเสมอในเรื่องประชาธิปไตย ซึ่งเราไม่เคยคิดจะละเมิด เพียงแต่เขาเสนอควรจะมีกลไก สักกลไกหนึ่งเพื่อดูแลเรื่องการปฏิรูป ดูแลการปรองดองในคดีที่สิ้นสุดแล้วจะทำอย่างไรกันต่อ แต่จะมาเรียกร้องให้รัฐบาลยกโทษ นิรโทษกรรม มันทำไม่ได้ มันต้องเข้าสู่กระบวนการปรองดอง เพราะความขัดแย้งรบกันมาตั้ง 6-7 เดือน

“ถ้าไม่ให้มีตรงนี้ ก็ไปบอกสิทำสัญญากับประชาชนได้ไหม เขาก็ไม่ทำอีก เขาก็บอกประชาธิปไตย เออประชาธิปไตยจะทำผิดก็ได้ ถูกก็ได้บ้านเมืองเสียหายอย่างไรก็ได้หรือไง คนดีๆ มีเยอะที่อยากเข้ามาการเมืองเขาก็ไม่กล้าเข้า ตนมาสภาพแบบนี้หลายๆ คนก็ไม่ยอมรับกติกากัน ไปเอากติกาต่างประเทศมาต้องอย่างนี้อย่างนั้น ทำไมไม่ให้ประชาชนมีความรู้มากขึ้น การจะเป็นประชาธิปไตยส่วนหนึ่งคือการเลือกตั้ง แต่ส่วนหนึ่งท่านต้องรู้ว่าจะเลือกตั้งใครเข้ามาบริหารปกครองบ้านเมือง ที่มีธรรมาภิบาล ที่ผ่านมามีการไปร่วมงานศพ งานแต่งวันนี้มีหรือไม่ นั่นคือการดูแลประชาชนหรือ เอาเงินไปช่วยงานศพ มีพวงหรีดไปทุกวัน เอาเงินที่ไหนไปซื้อ เงินส่วนตัวหรือเปล่า ถ้าเป็นเงินส่วนตัว ผมโอเคชื่นชม ขึ้นสวรรค์ แต่ถ้าเป็นเงินหลวงตกนรกหมด ผมมีเงินเดือน 7 หมื่น 5 พัน แจกแบบนั้นไหวไหม ทะเลาะกับสื่อค่าแรงก็หมดแล้ว ผมไม่ได้โกรธสื่อเพราะโกรธกันไม่ลง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในที่สุด