นักเรียน ม.5 ของโรงเรียนเสิงสาง ที่ถูก รอง ผอ.ตบตามคลิปที่ว่อนในเน็ต ล่าสุดพร้อมให้อภัยไม่ติดใจเอาความ แค่อยากให้ รอง ผอ.มาขอโทษ และอยากขอขมาที่เป็นเด็กแต่ใช้วาจาก้าวร้าว ย้ำ ร.ร.ต้องแจงข้อสงสัยนักเรียนอย่าคิดเอาข่าวนี้กลบกระแส
จากกรณีที่ ดร.ไอสูรย์ปิยธร จุฑาธรรม รองผู้อำนวยการโรงเรียนเสิงสาง อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ตบศีรษะ นายแมน (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเสิงสาง แกนนำนักเรียนที่ชุมนุมประท้วงผู้บริหารโรงเรียน หลังมีปัญหาการบริหารการเงินหลายเรื่อง จนเกิดเหตุการณ์รุนแรง มีภาพหลุดออกมาเผยแพร่ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของ รอง ผอ.คนดังกล่าว กระทั่งนักเรียนที่ถูกทำร้ายพร้อมผู้ปกครองเข้าแจ้งความตำรวจ ส่วนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครราชสีมาเขต 31 มีคำสั่งย้ายด่วน รอง ผอ.ร.ร. มือตบ ให้มาประจำสำนักงาน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเช้าวันที่ 24 ส.ค.58 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปดูบรรยากาศที่โรงเรียนเสิงสาง อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา พบว่าบรรยากาศในโรงเรียนยังเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติ เช่นเดียวกับนายแมน นักเรียนชายที่ถูกทำร้าย ก็ยังคงเดินทางมาเรียนและใช้ชีวิตประจำวันร่วมกับเพื่อนๆ เหมือนทุกวันที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนอย่างกว้างขวาง ขณะเดียวกันทางคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทางสำนักเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครราชสีมา เขต 31 ได้แต่งตั้งขึ้นมา ก็เดินทางมาสอบปากคำนักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์ถึงสาเหตุ เพื่อนำข้อมูลกลับไปพิจารณาหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ด้านนายแมน ได้เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ความรู้สึกส่วนตัวในวันนี้ ยังเป็นปกติ ไม่ได้มีความหวาดกลัว หรือรู้สึกกดดันใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนผู้ปกครองก็มีความกังวลบ้าง เกรงว่าจะถูกคนในโรงเรียนมองในแง่ไม่ดี แต่ตนมั่นใจว่าสิ่งที่ทำไปนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ส่วนในเรื่องที่ถูกครูทำร้ายตบศีรษะ ตอนนี้ไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว และยังยืนยันว่าไม่ต้องการที่จะเอาผิดกับรองผู้อำนวยการคนดังกล่าว แต่รู้สึกว่าตนเองอยากขออภัยท่านมากกว่า เพราะรู้ตัวว่าเป็นเด็ก และอาจจะใช้วาจาที่รุนแรงหรือท้าทายอารมณ์ของท่าน จนทำให้ท่านควบคุมอารมณ์ไม่ได้ และเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น แต่การกระทำที่ตนทำไปในวันนั้น ไม่ได้มีเจตนาที่อยากจะท้าทายหรือยั่วยุ ตนพูดด้วยเหตุและผล เพียงแต่ที่ต้องตะโกนเสียงดัง ก็เนื่องจากมีนักเรียนที่ชุมนุมกันจำนวนมาก จึงต้องใช้เสียงที่ดังกว่าปกติ ทั้งนี้หากมีโอกาสก็อยากจะกราบขอขมารองผู้อำนวยการด้วยตนเอง เนื่องจากมีส่วนที่ทำให้ท่านรองผู้อำนวยการ ต้องถูกลงโทษ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของข้อเรียกร้องที่ตนอยากให้ทางคณะผู้บริหารโรงเรียน ออกมาชี้แจง ในเรื่องที่เคยเรียกร้องไปก่อนหน้านี้ ทั้งในเรื่องของการจัดสรร อุปกรณ์การเรียนการสอน ตามโครงการเรียนฟรี 15 ปี ของรัฐบาลที่ไม่ตรงตามที่รัฐบาลได้กำหนดมา รวมถึงการเรียกเก็บเงินอื่นๆ ทั้ง ค่าเอสเอ็มเอส ค่าเบ็ดเตล็ดต่างๆ ที่ไม่ชัดเจน ก็ยังยืนยันว่าทางโรงเรียนต้องออกมาชี้แจงในเรื่องนี้ต่อหน้านักเรียนทุกๆ คน ให้ได้รับทราบอย่างละเอียด หากยังนิ่งเฉยหรือเก็บเงียบเพราะคิดว่ามีเหตุการณ์นี้เข้ามากลบ ตนเองก็จะเดินหน้าเคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆ ต่อไป
...
ทางด้านดร.ไอสูรย์ปิยธร จุฑาธรรม รอง ผอ.โรงเรียนเสิงสาง จ.นครราชสีมา ได้เดินทางเข้ารายงานตัวกับ ดร.ชูเกียรติ วิเศษเสนา ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 31 นครราชสีมา เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนของคณะกรรมการ โดยดร.ไอสูรย์ปิยธร กล่าวยอมรับทั้งน้ำตาว่า ที่ทำลงไปด้วยอารมณ์โมโห เนื่องจากพยายามแก้ปัญหาการชุมนุมประท้วงแล้ว แต่เด็กไม่เชื่อฟัง และทำไปด้วยสำนึกความเป็นครู ที่อยากเห็นลูกศิษย์อยู่ในโอวาทของครู พร้อมยอมรับกับบทลงโทษทุกประการ แต่โดยส่วนตัวยังอยากอยู่โรงเรียนเดิม แม้จะมีความผิด ยอมรับว่ารู้สึกอับอายกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังอยากอยู่ในที่เดิม ดีกว่าไปอยู่ที่ใหม่ ยังยืนยันว่าอยากทำหน้าที่ครูต่อไป
ขณะที่ดร.ชูเกียรติ วิเศษเสนา ผอ.สพม.เขต 31 กล่าวว่า ได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว คาดว่าจะรู้ผลภายในกรอบที่กำหนด คือไม่เกิน 15 วัน แต่อาจจะทำได้เสร็จภายใน 7 วัน ซึ่งจากการพิจารณาข้อเท็จจริงเบื้องต้น น่าจะมีบทลงโทษสถานเบากับรอง ผอ.คนนี้ เนื่องจากได้ยอมรับผิดทุกอย่าง และทำไปด้วยสำนึกความเป็นครู
นอกจากนี้ ยังมีคณะกรรมการลงพื้นที่โรงเรียนเสิงสาง เพื่อตรวจสอบกรณีที่มีข้อสงสัยจากนักเรียน เรื่องการบริหารงาน ซึ่งจะได้ทำการสืบหาข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการต่อไป.