ตำรวจกองปราบฯรวบแก๊ง 18 มงกุฎ อุปโลกน์ตัวเองเป็นหม่อมหลวงแอบอ้างเบื้องสูงทำทีเข้าไปตีสนิทต้มตุ๋นเอาเงินเจ้าอาวาสวัดดังใน จ.กำแพงเพชร จัดหาประธานสร้างพระอุโบสถให้ โคตรแสบอีกยังแสดงตัวเป็นผู้แทนรับเงินบริจาคสมทบทุนสร้างพระอุโบสถด้วย จนมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และประชาชนจำนวนมากหลงเชื่อบริจาคเงินเสียหายนับล้าน

ตำรวจรวบแก๊งต้มตุ๋นแอบอ้างเบื้องสูง เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 20 ส.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. มอบหมายให้ พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ สว.กก.2 บก.ป. ด.ต.เกียรติเฉลิม รักษ์งาม ผบ.หมู่ กก.2 บก.ป.ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายกิตติภพ สิทธิราช อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/342 ถนนริมคลองบางค้อ แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม. และนายวิเศษ พุทธษา อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44/203 ซอยบางกระดี่ 35/1 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกำแพงเพชร เลขที่ 183 และ 184/2558 ลงวันที่ 11 ส.ค.2558 ตามลำดับ ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันหมิ่นเบื้องสูง ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม และสวมเครื่องแบบ หรือเครื่องประดับ หรือเครื่องหมายของเจ้าพนักงานโดยไม่มีสิทธิ จับกุมนายกิตติภพได้ที่หน้าศาลอาญาธนบุรี ถนนเอกชัย แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม. ส่วนนายวิเศษจับกุมได้ที่หน้าฟิตเนสศุภาลัย เวลลิงตัน ถนนเทียมร่วมมิตร แขวงและเขตห้วยขวาง กทม.

พ.ต.อ.ไพโรจน์กล่าวว่า สืบเนื่องจากระหว่าง วันที่ 8 ส.ค.2556 ถึง 26 เม.ย.2558 ผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ร่วมกับนางอัษฏาภรณ์ สิทธิราช อายุ 45 ปี ที่ถูกจับกุมไปแล้ว และผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 1 คน ได้ทำทีเข้าไปตีสนิทกับเจ้าอาวาสวัดไทรงาม จ.กำแพงเพชร โดยอ้างตัวว่าเป็นหม่อมหลวง ทำงานอยู่ในสำนักพระราชวัง สามารถที่จะกราบทูลเชิญพระบรมวงศานุวงศ์มาประกอบพิธีสร้างพระอุโบสถที่วัดได้ โดยต้องเสียค่าใช้จ่าย 100,000 บาท

...

พ.ต.อ.ไพโรจน์กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันนางอัษฏาภรณ์ยังได้นำหนังสือปลอมของทางสำนักราชเลขาธิการชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับค่าดำเนินการต่างๆมาให้กับวัด ทำให้เข้าใจผิดและหลงเชื่อยอมจ่ายเงินให้ นอกจากนี้กลุ่มผู้ต้องหายังแสดงตัวว่าเป็นผู้แทนรับเงินบริจาคสมทบทุนสร้างพระอุโบสถวัดดังกล่าวอีก จนมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และประชาชนจำนวนมากหลงเชื่อบริจาคเงิน ได้เงินรวมกว่า 1 ล้านบาท ก่อนที่ชาวบ้านจะมาทราบภายหลังว่าถูกหลอกลวง จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดี ศาลอนุมัติออกหมายจับจนติดตามจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้

สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เนื่องจากพบพยานหลักฐานต่างๆเชื่อมโยงถึงผู้ต้องหาทั้งสองคน จึงควบคุมผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร และติดตามจับกุมเพื่อนร่วมแก๊งที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป